หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 186 ต้องผ่าตัด

  บทที่186 ต้องผ่าตัด

เกี่ยวกับเรื่องวิธีการรักษาสิ่งที่มันจะยากไปสำหรับนางก็ไม่มาก ถึงแม้ว่ามีบางเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับนางแต่ก็ไม่ยากไปกว่าดวงตาของระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

แต่ว่าตอนนี้……

หนอนพิษกู่ตัวเล็กๆตัวนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้นางหมดปัญญาแต่ยังทำให้ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ล้ำสมัยที่สุดทำอะไรไม่ถูก

“เจ้ารอตรงนี้ก่อน ข้าจะไปเอาอ่างน้ำมาให้”

บนโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไรยาก เพียงแค่กลัวใจคน

นางจะต้องหาวิธีให้ได้

มองแผ่นหลังที่เดินออกไปของนาง เย่แจ๋หยิ่งก็ยิ้มออกมาเงียบๆ แต่เมื่อรอยยิ้มนั้นเพิ่งจะยิ้มแย้มจู่ๆมันกลับแข็งทื่อ

จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ท่าทางเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดอย่างรุนแรง คิ้วขมวดแน่น

เขาใช้มือนึงกุมหน้าอกแน่น อีกมือนึงเช็ดเลือดที่ไหลออกมาทางมุมปาก……

หลังจากตอนเที่ยงวัน แสงอาทิตย์ส่องประกายสวยงาม ฟ้าโปร่งไร้เมฆ

หลานเยาเยาที่คว่ำหน้าอยู่บนเตียงก็ถูกปลุกขึ้นจากเสียงอะไรก็ไม่รู้ นางยันตัวขึ้นมองไปยังเย่แจ๋หยิ่งที่ยังคงหลับลึก อดไม่ได้ที่จะบิดเอวอย่างขี้เกียจ

ก่อนที่นางจะไปนางได้ให้น้ำเย่แจ๋หยิ่งไว้อ่างนึง หลังจากกลับมา แม้เย่แจ๋หยิ่งจะดูไม่ต่างไปจากแต่ก่อน แต่นางกลับได้กลิ่นเลือด

นางรู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่อยากให้นางตำหนิตนเอง

“กริ๊งๆๆ……”

“คุณชายทั้งสองตื่นหรือยัง? ข้าทำอาหารกลางวันมาให้พวกท่านนิดหน่อย”

เสียงของพี่ใหญ่นายพรานดังออกมาจากข้างนอก ในน้ำเสียงทั้งความประหม่าและหวาดกลัว

คาดว่าเมื่อคืนน่าจะถูกตกใจไปไม่เบา

“มาแล้ว!”

หลานเยาเยารีบก้าวไปยังประตูห้องแล้วเปิดประตูดู

ดวงตาก็หรี่ลงทันที!

พี่ใหญ่นายพรานตาสองข้างแดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ในมือของเขาไม่มีอาหารกลางวัน รอบคอกลับล้อมไปด้วยแผงลูกคิด และแผงลูกคิดนั้นล้อมไปด้วยหนามแหลม……

นางยังไม่ทันได้ขยับ แผงลูกคิดนั้นก็ขยับอย่างรวดเร็วแล้วหัวของพี่ใหญ่นายพรานก็ตกลงไปที่พื้น เลือดพุ่งตรงราวกับเสาออกมาทันที

มีเสียงดัง“ปัง”!

ร่างกายอีกครึ่งที่เหลืออยู่ถูกทิ้งไปด้านข้าง และด้านหน้าของนางก็ปรากฏใบหน้าอัปลักษณ์ขึ้นมา

ทันใดนั้น แสงอาทิตย์ก็สาดเข้ามาในห้องพร้อมกับลมกระโชกแรง

“เจ้าคือหลานเยาเยา?! ข้า ท่านเจ็ดจากยิงจวน”

เสียงของคนผู้นี้แปลกมาก ฟังไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง อีกทั้งสีหน้าของเขาก็เยาะหยัน ไม่ได้สนใจหลานเยาเยาสักนิด

“เทพไป๋อู่ฉาง!”

จำได้ว่านางเคยอ่านหนังสืออยู่เล่มนึง ในหนังสือบันทึกบางเรื่องในพระราชวังยมราช

นอกจากพญายม เฮย-ไป๋อู่ฉาง(ยมทูตขาวดำ)ก็เป็นผีสองตนที่ค่อนข้างสำคัญ มือของเทพไป๋อู่ฉางถือแผงลูกคิด ถูกเรียกว่าท่านเจ็ด

ส่วนเทพเฮยอู่ฉางมือถือโซ่ตรวน ถูกเรียกว่าท่านแปด

ฆาตกรผิวขาวจนทำให้คนตกใจที่อยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าเหมือนใช้ผงแป้งกองไว้รวมกัน ไม่มีสีของเลือดแม้แต่น้อย เหมือนเทพไป๋อู่ฉางในยมโลกปรากฏตัวอย่างกะทันหันในโลกมนุษย์

“รู้ไม่น้อยเลยนี่”

เทพไป๋อู่ฉางชำเลืองมองนางอย่างดูถูก แววตานั้นเหมือนมองคนตาย

“บนรายชื่อยมราชชื่อของเจ้าถูกบันทึกมาหลายวันแล้ว ยายเมิ่งนั่นไร้ประโยชน์ ดูท่าแล้วข้าจะต้องมาลงมือเอง”

เทพไป๋อู่ฉางยกลูกคิดในมือ กำลังจะใช้กำลังภายใน

จู่ๆก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้าก็เปลี่ยนไป อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“อ๋องเย่?”

หืม?

เมื่อวานยายเมิ่งยิงจวนห้าคนพานักฆ่ามามากมายเพื่อลอบสังหารพวกเขา หรือเทพไป๋อู่ฉางไม่รู้?

ดูท่าแล้วน่าจะเพราะในรายชื่อยมราชมีชื่อนางอยู่ ส่วนยายเมิ่งยิงจวนที่ส่งมาฆ่านางก็ถูกนางฆ่าตาย ดังนั้นเขาจึงต้องลงมือเอง

เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่นางเดานั้นถูกหรือไม่ นางจึงรีบพูดกึ่งหยั่งเชิ่งกึ่งขู่ๆ:

“นั่นคืออ๋องเย่ เย่แจ๋หยิ่ง เทพไป๋อู่ฉาง ตอนที่ท่านมาก็ไม่สอบถามเสียก่อนว่าข้างกายข้ามีผู้ใดอยู่ หรือว่าท่านอยากปลุกเขาตื่นตอนนี้?”

เมื่อเจอกับคำพูดข่มขู่ เทพไป๋อู่ฉางก็ขมวดคิ้ว แววตาประกายความสงสัย

“เขาเป็นอะไรไป?”

ว่าตามเหตุผล การสนทนาแบบนี้ของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่อ๋องเย่จะไม่รู้สึกตัว

หรือจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับอ๋องเย่?

ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นก็ดี ฆ่าทั้งสองคนไปด้วยกัน

“แค่เมาเท่านั้น แต่ถึงจะเมาก็เกินพอที่จะรับมือกับท่าน”

พูดเสร็จ หลานเยาเยาก็หมุนตัวเดินไปยังเตียง

ตอนนี้ สีหน้าของเทพไป๋อู่ฉางผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ทว่าเขายังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับแม้แต่น้อย

เมื่อตอนที่เขาแน่ใจแล้วว่าอ๋องเย่ไม่ได้เมาแต่หมดสติ กำลังจะใช้กำลังภายใน……

ทันใดนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งก็ผุดนั่งขึ้นมาอย่างกะทันหันและเทพไป๋อู่ฉางก็หายไปทันที

เอ่อ?

เทพไป๋อู่ฉางกลัวขนาดนั้นเลยหรือ?

เมื่อครู่ไม่ใช่ยังดูสดใสอยู่หรือ?

นางขี้เกียจจะสนใจแล้วว่าเทพไป๋อู่ฉางจากไปจริงๆหรือไม่ นางจึงรีบเดินไปยังข้างเตียง

“เจ้าตื่นแล้ว พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่”

“อื้ม!”

เย่แจ๋หยิ่งกุมอก สีหน้าหมองหม่น ขมวดคิ้ว

หลานเยาเยารู้ว่าหนอนพิษกู่นั่นพยายามจะเจาะเข้าหัวใจเขาอยู่ตลอด ถ้าไม่รีบกำจัดออกมา สำหรับเย่แจ๋หยิ่งแล้ว มันก็จะเป็นการทรมานอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นนางต้องหาสถานที่ปลอดภัยแล้วทำการผ่าตัดให้เขา บังคับมันออกมา

ตอนที่พวกเขาไปหาหานแสที่อยู่ห้องข้างๆ หานแสกำลังมีไข้สูง

และไข้สูงนั้นเกิดจากโดนลมหนาว

ไม่มีเหตุผล!

เมื่อวานนางพันแผลให้เขา ให้ยาที่ดีที่สุด เป็นไม่ได้เลยที่จะเป็นหวัด นอกเสียจากว่าเขาจะชอบนอนถีบผ้าห่มหรือเดินออกไปนอกห้องยามค่ำคืน ดังนั้นจึงได้รับลมหนาว

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ตอนนี้นางก็ต้องพาเขาไปด้วยกัน

นางไม่สามารถฆ่าคนดีที่ไม่รู้เรื่องได้ และก็ไม่สามารถปล่อยคนเลวไปได้

พอพวกเขามาถึงในเมือง หลานเยาเยาก็รีบซื้อรถม้ามาหนึ่งคัน หลังจากที่ขี่ด้วยความเร็วมาตลอดครึ่งค่อนวัน รถม้าก็มาหยุดอยู่ที่แนวป่ารกร้าง

หลังจากซ่อนรถม้าดีแล้วก็เข้าไปในถ้ำที่ไม่ลึกนัก

หลานเยาเยาเก็บกวาดวัชพืชภายในถ้ำพอเดินไปยังปากถ้ำก็เห็นหานแสกำลังนั่งอยู่ตรงปากถ้ำ

สายตาเขาเงียบสงบ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“เจ้าดีขึ้นหรือยัง?”

“ขอบคุณมาก” หานแสมองบาดแผลของตนเองแล้วคำนับนางเล็กน้อย

ตั้งแต่เย่แจ๋หยิ่งช่วยหานแสออกมาจากเรือแห่งความสิ้นหวัง เขาก็พูดน้อยมาตลอด

เย่แจ๋หยิ่งก็พูดน้อย แต่พวกเขาก็มีนิสัยที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เย่แจ๋หยิ่งโอหังเย็นชา ส่วนเขานิ่งเงียบ เหมือนกับว่าถ้าไม่มีอะไรจำเป็นต้องพูด เขาก็จะไม่พูดสักคำเหมือนเก็บเรื่องราวไว้ในใจมากมาย

“อีกเดี๋ยวข้าจะแก้พิษให้เย่แจ๋หยิ่งที่นี่ ขั้นตอนค่อนข้างอันตราย ถ้าไม่ระวัง เขาอาจตายได้ เจ้า……”

หลานเยาเยาไม่ได้บอกให้หานแสรู้ว่าในร่างกายของเย่แจ๋หยิ่งเป็นอะไร เพียงแต่บอกว่าเขาโดนพิษ

หานแสพยักหน้า

“วางใจเถอะ ข้าจะป้องกันปากถ้ำ”

ที่จริง!

เขารู้ว่าหลานเยาเยาไม่ได้จะให้เขาไปป้องกันปากถ้ำ แต่เพราะไม่อยากให้เขารู้ความลับบางอย่าง

หลังจากหลานเยาเยากล่าวขอบคุณก็เดินเข้าไปในถ้ำ จากนั้นก็เอาวัชพืชมาขวางปากถ้ำไว้

ถึงอย่างนั้นนางก็ยังไม่วางใจ ดังนั้นจะเอายาผงมาโรยไว้บนพื้นที่ใกล้ปากถ้ำ

หลังจากที่เดินเข้าไปด้านใน นางก็หยิบของทั้งหมดที่ต้องใช้ในการผ่าตัดออกมา

แม้เย่แจ๋หยิ่งที่รู้ความลับของนางแล้วก็ตาม แต่หลังจากที่เห็นสิ่งแปลกๆและละเอียดอ่อนขนาดนี้

แววตาก็ประกายความตกตะลึง

“ถอดเสื้อผ้าออกแล้วนอนไป”

ดูสิ!

ของพวกนี้ก็ให้เขาดูหมดแล้ว ถ้าวันหลังเขายังพูดอีกว่านางไม่เชื่อใจเขาอีกหล่ะก็ นางก็จะจัดการเขา

เย่แจ๋หยิ่งที่ใบหน้าซีดเซียวยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ถอดเสื้อ

ตอนที่นอนลงไปบนเตียงผ่าตัดอันเย็นเยือก เขาเอาแต่มองนางนิ่งๆ ในนัยน์ตานุ่มลึกของเขามีแต่เงาสะท้อนใบหน้าของนาง

ตอนที่เห็นนางหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา เขาก็เอ่ยปากเงียบๆ

“ข้าอยากดูเจ้าเอาหนอนพิษกู่ออก”

ที่จริง!

เขาเพียงแค่อยากมองนางมากกว่านี้……

 

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset