หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 237 เมล็ดแตงโมไม่ไว้หน้า

บทที่ 237 เมล็ดแตงโมไม่ไว้หน้า

หลานเยาเยาอดยิ้มด้วยความภูมิใจไม่ได้

ไอหย๊า!

ทำไมชาติก่อนถึงไม่ได้ค้นพบ ว่าตัวเองเก่งกาจสติปัญญาดีเลิศล้ำกว่าคนอื่นเช่นนี้ เหมือนมีศักยภาพเป็นนักสืบได้เชียว?

แต่ค้นพบตอนนี้ก็ยังไม่สายไป หลังจากที่เข้าเมืองหลวง ต้องพยายามแสดงออกให้เต็มที่หน่อย!

ตอนนี้ก็รอเพียงให้จื่อเฟิงที่ตามหลังสามีภรรยาปลอมคู่นั้นกลับมา ดูซิ้ว่าพวกเขาจะมีพรรคพวกอีกหรือไม่

หากว่าไม่มี คืนนี้นางก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจแล้ว

ในไม่ช้า!

ขณะที่หลานเยาเยากลับมาที่ห้องของตัวเองได้ไม่นาน จื่อเฟิงก็กลับมา สองคนนั้นเป็นนักฆ่าจริงๆ ยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีกสามคน

แต่ว่า!

นางไม่ต้องหนักใจเรื่องเหล่านี้ เพราะว่าจื่อเฟิงได้จัดการนักฆ่าเหล่านั้นไปหมดแล้ว!

หลังจากที่จื่อเฟิงออกไป หลานเยาเยาก็พักผ่อนไปอย่างรวดเร็ว

ขนาดเรื่องของเจ้าของโรงเตี๊ยมนี้ นางก็เพียงยิ้มแล้วให้ผ่านไป

หานแสจัดเตรียมโรงเตี๊ยมแห่งนี้ให้นาง คิดจะทำอะไรกันแน่?

ก่อนหน้านี้ เขาเตรียมการได้ไม่เคยพลาดเลยสักนิด ตอนนี้กลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เป็นความผิดพลาด หรือเขาคิดจะทดสอบนาง?

หากว่าเป็นเรื่องหลัง งั้นสิ่งที่นางทำไปทั้งหมดในสองสามปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถทำให้เขาไว้ใจนางได้อย่างถึงที่สุดหรอ!

เหอะ!

ก็ใช่

ตอนนี้นางก็เหมือนกันมิใช่หรือ?

เพียงแค่ นอนได้ไม่ทันถึงครึ่งชั่วยาม ก็มีคนเคาะประตูแล้ว

“ก๊อกก๊อกก๊อก……”

“คุณหนู อยู่ดีๆโรงเตี๊ยมแห่งนี้ก็มีคนเข้ามาอยู่หนึ่งคน ไม่เคยเห็นหน้าที่แท้จริงเขามาก่อน และก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน” คนที่พูดคือจื่อซี

“เข้ามาอยู่แล้วงั้นหรือ?”

หลายเยาเยาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย อยากจะหลับดีดีสักตื่นก็ไม่ได้

ดูท่า เถ้าแก่คงจะคันผิวหนังแล้ว

“ขอรับ!”

“ทางเถ้าแก่นั้นว่าเช่นไร?” จุดนี้นั้นค่อนข้างสำคัญ

ก่อนหน้านี้จากเรื่องของสามีภรรยาปลอมคู่นั้น เถ้าแก่คงไม่ทำความผิดแบบเดียวกันอีกครั้งแน่ ทั้งยังเพิ่งผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม

นอกจากว่าเขาจะบ้าไปแล้ว!

แต่ว่าตอนนี้ เขากลับให้คนเข้ามาพัก ต้องมีเหตุผลแน่นอน

เป็นไปดังคาด!

“เถ้าแก่บอกว่า คนผู้นั้นเมื่อไม่กี่วันก่อนก็เข้ามาอยู่แล้ว ขณะที่เก็บห้องในวันนี้ คนออกไปแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้คืนห้อง”

เข้ามาอยู่แล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน?

งั้นก็หมายความว่า ลูกค้าอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก อาจจะออกไปทำธุระ ดังนั้นจึงไม่ได้คืนห้อง ตอนนี้ก็ได้กลับมาอยู่ใหม่อีกครั้งเท่านั้น

“ช่างเหอะ อยู่ก็อยู่ไป ตอนกลางคืนระวังหน่อยก็ได้แล้ว”

หากว่าเป็นลูกค้าที่มาพักตามปกติ เช่นนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

อีกทั้ง!

โรงเตี๊ยมแห่งนี้ เป็นของหานแส เถ้าแก่ก็เป็นคนของหานแส เขาอยากจะฆ่าราชครูใหญ่มากกว่านาง

เป็นไม่ได้ที่เพื่อจะทดสอบนาง จะตั้งใจเปิดเผยร่องรอยการเดินทางของนาง เช่นนั้นก็สามารถทำให้ทุกอย่างที่ทำมาก่อนหน้านี้สูญเปล่า

“ขอรับ!”

หลังจากที่จื่อซีจากไป หลานเยาเยาก็ไม่ได้นอน หลังจากที่นางตื่นขึ้นมา สวมใส่เสื้อผ้าสีแดงเลือดที่เป็นสัญลักษณ์ของเทพธิดา จากนั้นก็นั่งอยู่ข้างโต๊ะที่เต็มไปด้วยผลไม่และขนม

ไม่พูดมาก ก็เริ่มลงมือแล้ว

“ไอ่โหย่ว! ข้าจุกแทบตายแล้ว”

มือข้างหนึ่งของหลานเยาเยาลูบไปที่ท้อง มือหนึ่งยังจะหยิบเอาขนมยัดใส่เข้าไปในปากอย่างนับไม่ถ้วน

กินไปกินไป นางก็หยุดชะงักการกระทำนั้นทันที ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย

วินาทีถัดมา

นางคว้าเอาผลไม้และขนมบนโต๊ะเข้ามาไว้ในอ้อมกอด จากนั้นก็หมอบลงด้วยความเร็วราวสายฟ้า

“สวบ……”

“สวบ……”

“สวบ……”

“……”

ลูกธนูที่แหลมคมพวยพุ่งเข้ามาดั่งห่าฝน ที่หน้าต่างปรากฏเป็นรูขึ้นมานับไม่ถ้วนในพริบตา

ให้ตายสิ!

การลอบสังหารครานี้ ไม่ทันได้ป้องกันตัวเลยจริงๆ

โชคดีที่ขนมและผลไม้ไม่ได้หกไป

เพียงแค่ กินจนจุกมากไป นางไม่อยากใช้วิทยายุทธ

ด้วยเหตุนี้!

หลานเยาเยาปกป้องอาหารในอ้อมกอดอย่างระมัดระวัง ค่อยๆมาด้านหลังหน้าต่าง ค่อยๆเปิดร่องที่แตกดู

ด้านหลังโรงเตี๊ยมเป็นทุ่งหญ้า ทั้งยังเงียบสงบมาก

ดังนั้น ก็รีบกระโดดจากหน้าต่างลงไป

หลังจากที่กระโดดไปแล้ว นางก็เพิ่งรู้ตัว ห้องของนางอยู่ตั้งชั้นสอง

โชคดีที่นางมีความสามารถที่คล่องแคล่วแข็งแรง มีไหวพริบว่องไว ทั้งยังมีวิชาตัวเบา จึงทำให้นางลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัย

ใช่!

สามปีก่อน หลังจากที่ออกมาจากหุบเขาจิ้น นางก็พบว่าตัวเองมีกำลังภายในแล้ว

แต่ว่ากำลังภายในมาจากไหนนั้น นางไม่ได้รู้ถึงต้นตอเลย

อีกทั้งกำลังภายในของนางนั้นไม่ใช่ว่าคนปกติธรรมดาจะเทียบได้

แต่ว่า!

เมื่อลงถึงพื้นเพิ่งจะเดินได้ไม่กี่ก้าว นางก็เห็นหัวคนเรียงรายอยู่เป็นแถว โผล่ออกมาหญ้าที่สูงขึ้นมาประมาณครึ่งหนึ่งของคน จากนั้นก็เห็นว่าในมือของพวกเขาทั้งหมดถือคันธนูไว้อยู่

ยังเล็งมาที่นางอีกด้วย และไม่พูดอะไรมากก็ยิงเข้ามา……

โอ้พระเจ้า!

นี่คือนักฆ่าที่ลอบสังหาร หรือว่าเป็นกองทหารที่มาโจมตีเมืองนะ? ขนาดหลังหน้าต่างก็ยังไม่เว้น

นับว่าพวกเจ้าโหดเหี้ยม

ข้าพุงป่องอยู่ ไม่อยากหาเรื่องกับพวกเจ้า

ดังนั้น นางจึงรีบกระโดดเข้าไปตรงห้องชั้นที่หนึ่ง จากนั้นก็มีลูกธนูนับไม่ถ้วนยิงข้ามผ่านบนหัวไปในพริบตา

แต่ในไม่ช้า ฝนธนูก็หยุดลง หลังหน้าต่างด้านนอกมีเสียงฆ่าฟันกันดังมา

หลานเยาเยารู้ เป็นจื่อเฟิงพวกเขาลงมือแล้ว

“หู้ว……”

นางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กลับไม่ได้ตั้งใจพ่นองุ่นออกมาจากปากเม็ดหนึ่ง

เอ่อ……

โชคดีที่ไม่มีคนเห็น ไม่งั้นก็จะน่าอายมาก

นางมองดูไปยังขนมและผลไม้ที่ตกกระจายที่พื้นด้วยสีหน้าที่เสียดาย ที่โดนทิ้งก็โดนทิ้งไป ที่คลุกดินก็คลุกดินไป

น่าเสียดาย!

น่าเสียดายเป็นอย่างมาก

ขณะที่กำลังคิดจะเก็บผลไม้ที่ยังไม่เสียหายขึ้นมานั้น นางก็รู้สึกถึงความไม่ปกติขึ้นมาทันที

ไม่ถูก!

ที่แห่งนี้ยังมีคนอื่นอีก

ดังนั้น นางจึงรีบเงยหน้าขึ้นทันที สบตาเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่ดูลึกลับราวกับวังวนเข้าพอดี

“……” ยัง ยังมีคนอยู่จริงๆ

และยังเป็นคนที่นางไม่อยากเจอมากที่สุด……

“แฮ่มแฮ่ม” หลานเยาเยากระแอมเบาๆหนึ่งที แล้วก็มองดูเยาแจ๋หยิ่งที่ความจริงแล้วไม่ควรปรากฏตัวอยู่ที่นี่อยู่เช่นนี้

อดไม่ได้ที่จะคิดในใจ

หรือว่าที่บอก คืนนี้มีคนเข้ามาใหม่อยู่ที่โรงเตี๊ยมก็คือเขา?

หลังจากที่มั่นใจในคำตอบ หลานเยาเยาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆยืนขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ทว่า!

เมื่อนางยืนขึ้นมา

ก็ได้ยิน “ตึ่งตึ่งตึ่ง” ดังขึ้น แอปเปิลสาลี่องุ่นตกลงมาจากเสื้อผ้าของนาง ทั้งยังมีเมล็ดธัญพืชทั้งห้าหล่นลงมาที่พื้นจากประโปรงของนาง

“……”

“……”

อย่างแรกคือสีหน้าที่เขินอาย ทั้งที่ตกไปแล้วตั้งมากมาย ทำไมถึงยังมีอีก?

อย่างหลังคือมุมปากกระตุก มองดูของที่ตกลงพื้นด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจ

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง!

หลานเยาเยาที่ใส่ชุดสีแดงเข้ม สีหน้าอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

เมล็ดแตงโม เมล็ดแตงโม ข้าเป็นถึงเทพธิดา ได้โปรดอย่าหล่นลงมาอีกเลยได้ไหม?

ข้าต้องการหน้าตาเช่นกันนะ!

“ติ๊ก…..”

มีเมล็ดแตงโมอีกเมล็ดหนึ่งหล่นไปที่พื้น ไม่ไว้หน้านางแม้แต่น้อย

ได้ ไม่ไว้หน้าข้าใช่ไหม?

นางจำไว้แล้ว หลังจากนี้เทพธิดาจะกินเมล็ดแตงโมทุกวัน หากไม่กินจนเมล็ดแตงโมสูญสิ้นนางก็ไม่ใช้นามสกุลสูญสิ้น

ถุ้ย!

นางจะไม่ใช้นามสกุลหลาน

ไม่สนใจแล้ว ยังไงซะก็อับอายไปจนถึงบ้านคุณยายแล้ว นางเทหมดหน้าตักแล้ว

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจัดระเบียบชุดของตัวเอง ทำเป็นเมินผลไม้และขนมที่ตกอยู่บนพื้น จากนั้นก็เดินออกจากประตูไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ทว่า……

เมื่อก้าวเท้าไปถึงข้างประตู ยังไม่ทันจะยื่นมือไปเปิดประตู น้ำเสียงที่เย็นชาก็แว่วมาจากด้านหลัง

“รอก่อน!”

ได้ยินดังนั้น หลานเยาเยาหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วก็หันกลับอย่างรวดเร็ว มีดสั้นเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วพุ่งแทงไปทางเย่แจ๋หยิ่ง……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset