บทที่ 298 ไอหย๊า พระแม่เจ้า
“เป็นอย่างไรบ้าง? รสชาติเป็นเช่นไร? รู้สึกดีมากใช่หรือไม่! ฮ่าฮ่าฮ่า ดูซิ้ว่าคราวหลังเจ้ายังจะกล้าอวดดีอีกหรือไม่”
มองดูถิงเมี่ยนที่โดนอีกสองคนกดไว้กับพื้น เขาก็แสยะยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
“ขยะก็คือขยะ โดนตีรอบหนึ่งก็จะเชื่อฟังแล้ว ข้าขอเตือนเจ้า มาเป็นสุนัขข้างกายเจ้านายของข้าแต่โดยดี รู้หรือแล้วใช่ไหม?”
หลังจากที่สั่งสอนเสร็จ
เขาก็โยนกระดาษแผ่นหนึ่งไปบนตัวถิงเมี่ยน พูดด้วยที่สีหน้าที่เต็มไปด้วยการเหยียดหยาม :
“นี่คือสถานที่ที่จะพบเจอกับเจ้านาย เก็บให้ดี เจ้าคนอ่อนแอ ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลังจากที่หัวเราะเยาะจนพอแล้ว เขาก็ชี้ไปที่ผู้ที่สลบไปแล้ว พูดกับอีกสองคนที่เหลือ :
“เอาเจ้าของที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายนี้ออกไป หากว่าตายแล้ว ก็แขวนตากแดดไว้ที่กำแพง
หากว่ายังไม่ตาย เช่นนั้นก็ต้องดูว่าคนเชื่อหรือไม่เชื่อฟัง ถ้าไม่เชื่อฟัง ก็ให้กรีดเขาทีละมีดจนตาย”
ถิงเมี่ยนมองดูลูกน้องของตัวโดนพาออกไป ความโกรธของเขาทำให้อารมณ์จากหน้าอกของเขาแปรปรวนอย่างหนัก
สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง พูดอย่างเย็นยะเยือกว่า : “รอเดี๋ยว”
“ทำไม ตอนนี้……”
คนที่เป็นผู้นำหันหน้ากลับมา เขายังคิดว่าถิงเมี่ยนได้สยบต่อเขาแล้ว กลับคิดไม่ถึง ถิงเมี่ยนเอามีดสั้นออกมาแล้วพุ่งไปทางเขา
ขณะนั้นเขาหลบเลี่ยงไม่ทัน โดนแทงเข้าไปที่ท้องโดยตรง
คนข้างๆเห็นดังนั้น ก็รีบถีบถิงเมี่ยนออก คนที่เป็นผู้นำกุมท้องไว้อย่างเจ็บปวด ตะคอกด้วยความแค้นเป็นที่สุด :
“ฆ่า ฆ่าเขาให้ข้า”
“ขอรับ!”
สี่คนที่เหลืออยู่ล้อมถิงเมี่ยนไว้ทันที
แต่พวกเขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ โดยเฉพาะการแทงหัวหน้าของพวกเขานั้นชั่งร้ายกาจมาก พวกเขายังคงมีความหวั่นกลัวอยู่เล็กน้อย
“มาสิ! ชีวิตของข้าอยู่ตรงนี้ มีความสามารถก็มาเอาไป”
จะตายเขาก็จะต้องลากสองสามคนนี้ตามหลังไปด้วย
เห็นสี่คนนั้นไม่ลงมือสักที คนที่เป็นผู้นำโทสะพลุ่งพล่านจะหน้าสั่น
“ยังรออะไร? ฆ่าสิ! ไม่อยากอยู่แล้วหรือไง?”
เพราะเปลืองแรงในการพูด เมื่อออกแรงก็จะทำให้เลือดที่บาดแผลออกมากขึ้น
แต่!
คำที่เขาพูด ก็ยังมีอานุภาพ
ทั้งสี่คนนั้นยกมีดขึ้นมาพร้อมกัน ก็ฟันไปที่ถิงเมี่ยน……
“อ้า……”
มือยกขึ้นมีดร่วงหล่น จากนั้นก็มีเสียงร้องที่น่าสังเวทดังขึ้น
แต่คนที่ล้มลงกลับไม่ใช่ถิงเมี่ยน แต่เป็นคนนั้นที่ยืนอยู่ตรงหน้าถิงเมี่ยน
“เกิดอะไรขึ้น?” ทั้งๆที่ไม่เห็นถิงเมี่ยนลงมือ
“ไม่รู้สิ!” เรื่องนี้ชั่งน่าแปลก
“เช่นนั้นพวกเรายังจะลง……อ้า……”
หนึ่งในนั้นยังไม่ทันจะพูดจบ ก็เบิกตาโพลงล้มไปกองกับพื้น มุมปากมีเลือดทะลักออกมา
“เขาก็ตายแล้ว อ้า ที่นี่มีผี รีบวิ่ง……”
คนที่มีการตอบสนองเร็วที่สุดคนนั้น ร้องเสียงดัง วิ่งออกจากห้องไปในพริบตา
“สวบ……”
แสงเงินสาดแวบหนึ่ง คนนั้นที่วิ่งออกไปก็ร้องอย่างน่าเวทนา “ปึง” เสียงล้มและตายแล้วเสียงหนึ่ง
“เคร้ง……”
เสียงของอาวุธที่เป็นเหล็กตกลงพื้นดังขึ้น
คนนั้นที่อยู่ข้างๆถิงเมี่ยนและยังไร้การตอบสนอง สีหน้าซีดเผือด สั่นไปทั้งตัว
เพียงแค่ไม่กี่อึดลมหายใจ ก็ตายติดกันไปสามคนแล้ว
และพวกเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกคนหรือผีฆ่า……
เขาก็อยากหนี
แต่ว่าตกใจจนวิญญาณกระเจิงแล้ว เขาจะหนีเช่นไร?
เพิ่งเดินได้ก้าวหนึ่ง คนทั้งคนก็ตัวอ่อนไปกองกับพื้น แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะตะกายไปทางประตู……
ปากของเขาออกเสียงอย่างสั่นเครือ :
“อาอาอา มีผี มีผี!”
และคนที่เป็นผู้นำที่ถูกถิงเมี่ยนแทงบาดเจ็บ เบิกตากว้างด้วยความสะพรึงกลัว มองไปรอบๆไม่หยุด
เขาไม่ได้สนใจกับบาดแผลที่ท้องสักนิด ร่างกายเอนไปทางด้านหลัง มือสองข้างค้ำยันตะกายพื้นปีน เท้าทั้งสองดันพื้น
ราวกับว่าเช่นนี้ก็สามารถทำให้เขาปีนออกจากประตูไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
กลับไม่รู้ว่า……
แม้สักก้าวเขาก็ไม่ได้ปีนออกไป
“สวบ”อีกเสียงหนึ่ง
แสงเงินแวบอีกครั้ง เข็มเงินที่เปร่งประกายเล่มหนึ่งส่องสว่าง แทงไปที่ระหว่างขาทั้งสองข้างของคนที่เป็นผู้นำโดยตรง
ระยะห่างเพียงแค่หนึ่งนิ้วมือ ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของเขาก็ต้องจบเห่แล้ว
เขาตกใจจนไม่กล้าขยับแล้ว บนหัวเขาที่เต็มไปด้วยเหงื่อนานแล้ว รีบขอร้องท่านปู่บอกต่อท่านย่าด้วยสีหน้าไร้เลือดซีดเผือด ขอร้องอย่างสลด “ไว้ชีวิต”
มองดูสถานการณ์ที่เกิดอย่างกะทันหัน
ถิงเมี่ยนอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ มือที่ถือมีดสั้นอยู่สั่นครู่หนึ่งอย่างห้ามไม่ได้
นักฆ่าไร้ร่องรอย!
ปลิดชีพในพริบตา!
คนผู้นี้จะต้องเก่งกาจเพียงใด?
ทันใดนั้น!
เขารู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือก ที่อยู่ข้างกาย ในเวลานั้นก็เหมือนกับว่าจะเห็นเป็นสีแดง
จึงได้หันหลังไปดูทันที……
นี่ไม่ดูก็ไม่ได้เป็นไร เมื่อดูปุ๊บก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่ข้างกายเขามีคนอยู่ข้างๆ และยังเป็นผู้หญิงชุดแดง เผยรอยยิ้มที่ทำให้คนตกใจ ดวงตาเพ่งจ้องที่เขาอย่างแน่วแน่
ไม่ต้องให้เขาทำการตอบสนองใดๆ เขาก็เด้งล้มไปอยู่ที่พื้น
“ไอหย๊า พระแม่เจ้า!”
เขาตกใจจนเสียงแตก เสียงเหมือนกับผู้หญิงเป็นที่สุด
หลานเยาเยา : “……”
หรือว่าวิธีการปรากฏตัวไม่ถูกต้อง?
ดูสิทำให้เขาตกใจ แต่ละคนเหมือนกับว่าเจอผีอย่างนั้น
อืม!
เพียงแต่ วิธีการปรากฏตัวแบบนี้ไม่มีเสียงไร้การบอกกล่าวไปหน่อย
คราวหน้าต้องทำให้ดังสะท้านขึ้นมาหน่อย ให้เหมือน—เสียงของท้องฟ้าที่ดังเลื่อนลั่นมากๆ ชนิดที่เปิดตัวอย่างสนานหวั่นไหว
คิดถึงสถานการณ์ที่ตัวเองจะปรากฏตัวคราวหน้า หลานเยาเยาก็มองไปที่ถิงเมี่ยน
กลับพบว่า เขาได้แข็งทื่อไปแล้ว
“โดนเสน่ห์สะกดไว้แล้ว? ไม่เป็นไร ใบหน้าของข้าใช้ไว้ทำให้ผู้คนตกตะลึงในความงาม”
“……”
ตกตะลึงในความงาม
ไม่ถูก!
เป็นตกใจกลัว ตกใจกลัวอย่างที่สุด!
ถิงเมี่ยนที่เคยพบวิบากอันตราย หลังจากที่ดึงสติกลับมาได้ กำลังจะขอบคุณนาง
กลับพบว่า……
เขาขาอ่อน ยังไงก็ยืนไม่ขึ้น
“ไม่ต้องขอบใจแล้ว ข้ามาหาเจ้าเป็นพิเศษ
ตอนนี้ ละครดูพอแล้ว คนก็ฆ่าแล้ว อีกเดี๋ยวเหรียญเงินก็ไม่ต้องให้แล้ว
สองคนที่เหลือ เหลือให้เจ้าจัดการเอง เร็วหน่อย ข้ายังมีธุระอีก”
“……ขอบใจมาก”
ถิงเมี่ยนรู้สึกเก้กังเล็กน้อย
พบว่าคนอื่นเขาดูละครจะพอแล้ว จึงยื่นมือเข้าช่วย
เพียงแต่เมื่อเขาใช้สายตามองไปที่สองคนนั้นที่ตะเกียกตะกายอยู่นอกประตู ในแววตาก็มีแรงสังหารที่ไม่ต้องพูดออกมาก็เข้าใจ
“ถิงเมี่ยน ไม่นะ ท่านถิงท่านถิง ท่านไว้ชีวิตข้าเถอะ! เป็นข้าน้อยที่มีตาหามีแววไม่ ลบหลู่ท่าน ได้โปรดทำความดี ไว้ชีวิตสุนัขชีวิตนี้ของข้าด้วยเถอะ……”
คนที่เป็นผู้นำเป็นผู้ที่มองสีหน้าของคนออกที่สุด
เพื่อจะมีชีวิตรอด ไม่ต้องพูดถึงการขอร้องคน แม้ให้เขาไปกินขี้เขาก็ทำตาม
มองดูจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเมื่อครู่ คนที่เป็นผู้นำที่อวดดีผยองเป็นที่สุด
ตอนนี้กลับก้มหัวพูดจานอบน้อม เหมือนคนอ่อนแอที่ร้องขอชีวิตเช่นนั้น ถิงเมี่ยนเพียงยิ้มอย่างฝืนๆ
“พวกเจ้าไปเถอะ!”
“ได้ได้ได้ ขอบคุณท่านถิง ขอบคุณท่านถิง ท่านถิงท่านเป็นคนดี คนดีต้องได้รับผลตอบแทนที่ดีเป็นแน่”
มองดูเขาจากไปอย่างล้มลุกคลุกคลาน
สีหน้าของถิงเมี่ยนก็เคร่งขรึมทันที
คนดี?
เขาถิงเมี่ยนตั้งแต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่คนดีอะไร
ทำให้คนตายมีหลายวิธี ตอนนี้เขาเพียงแค่……ไม่สะดวกที่จะลงมือ
“ทำไมไม่ลงมือฆ่าเอง?”
จุดนี้ หลานเยาเยายังค่อนข้างแปลกใจ
แต่นางกลับรู้ สองคนที่ถูกปล่อยไปไม่ได้ออกไปจากตลาดดำแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!
ถิงเมี่ยนเติบโตมาจากตลาดดำตั้งแต่เด็ก และยังเป็นเจ้าถิ่นของเมืองหลวงอีก ง่ายมากที่จะทำให้คนสองคนตาย
ได้ยินดังนั้น!
ถิงเมี่ยนจึงรู้สึกละอายขึ้นมาอีกครั้ง
แต่อยู่ต่อหน้าลูกค้า เขาต้องแสร้งทำเป็นมีระดับหน่อย……