บทที่ 324 มงกุฎฟีนิกซ์?
“นี่มันเป็นไปไม่ได้ เห็นชัดอยู่แล้วว่านี่คือภาพลวงตา จะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?”หลายเยาเยาส่ายหน้าพลันพูดอย่างไม่เข้าใจ พลางจ้องมองไปยังเครื่องหมาย
เย่แจ๋หยิ่งที่เห็นความแปลกไปของนาง จึงรีบถามถึงสาเหตุทันที หลานเยาเยาจึงบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องเครื่องหมายออกมา
หลังจากที่พูดจบ หลานเยาเยาก็เห็นขมวดคิ้วแน่น บางทีนี่อาจเป็นมากกว่าภาพลวงตา
นางยังไม่ทันได้คิดให้เข้าใจ ก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งทำหน้านิ่ง เดินไปยังทางของชายหนุ่มชุดขาว
ชายหนุ่มชุดขาวราวกับสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง ทันที่หันหลังกลับมา มือของเย่แจ๋หยิ่งก็แตะลงไปบนไหล่ของเขา
สักครู่จากนั้น……
ใบหน้าของเย่แจ๋หยิ่งก็ซีดเซียว เลือดกระอักพุ่งออกมาจากปาก จากนั้นก็เห็นเขาใช้มือข้างหนึ่งกุมหัวตัวเองเอาไว้ด้วยความทรมาน ส่วนมืออีกข้างก็จับไหล่ของชายหนุ่มชุดขาวไว้แน่น
แต่ชายหนุ่มชุดขาวราวกับไม่ได้สัมผัสถึงสิ่งใดทั้งสิ้น แล้วร่างที่เป็นภาพลวงตาก็เริ่มโปร่งใส แล้วหายไปในเวลาต่อมา
แล้วเสียงกู่ฉินก็หยุดลงไปในทันที
“เย่เจ๋หยิง……”
หลานเยาเยารีบวิ่งมายังข้างกายของเย่แจ๋หยิ่ง พร้อมกับจับชีพจรและตรวจร่างกายของเขา
แต่นอกจากจะรู้อัตราการเต้นของหัวใจเขาเต้นเร็วแล้ว อย่างอื่นก็ไม่มีพบอะไรผิดปกติเลย
หมดหนทางแล้ว
ทางที่ดีนางควรจะใช้เครื่องมือในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บมาแสกนตรวจดูแล้ว แต่น่าเสียดายที่ระบบกลับไม่มีการตอบสนองใดๆ
แม่งเอ้ย
กล้ามาปิดระบบตอนเวลาสำคัญงั้นหรือ?
【เจ้านายโปรดระงับอารมณ์ ตัวข้าไม่ได้ปิดระบบ เพียงสนามแม่เหล็กในนี้นั้นมีมากเกินไป ซึ่งมันได้รบกวนระบบการทำงานปกติไปแล้ว】
สนามแม่เหล็ก?
สนามแม่เหล็กอีกแล้ว!
สนามแม่เหล็กอันนี้มีความข้องอันใดกับเย่แจ๋หยิ่งกัน?
【สิ่งนี้ สิ่งนี้ข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกัน!อาจเป็นเพราะสนามแม่เหล็กนั้น ทำให้คนๆเดียวกันที่อยู่ต่างโลกมาเจอกัน จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้】
เอ่อ……
แล้วยังมีท่าทางที่ต่างกันด้วย?
แม่เจ้า!
เห็นได้ชัดเลยว่านี่คือภาพลวงตา แล้วคนในภาพลวงตาและตัวจริงได้สัมผัสถึงกันก็เท่านั้น
【เจ้านายโปรดสงบก่อน ข้าเป็นเพียงระบบรักษาโรคภัยไข้เจ็บหนึ่งเท่านั้น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านวิชาการแพทย์ ส่วนการเข้าใจเรื่องสิ่งอื่นนั้นเป็นเพียงงานอดิเรกทีไม่สามารถใช้กล่าวอ้างอิงได้】
แม่งเอ้ย!
ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้?ดูแล้วจะเป็นการกวนประสาทเสียมากกว่า!
【……เป็นท่านที่ถามไม่ใช่หรือยังไง!ข้าถึงได้ยอมเสี่ยงตอบคำถามท่าน】ระบบพูดออกมาอย่างเบาๆ
หลานเยาเยากุมขมับเงียบทันที
หลังจากที่พึ่งพาระบบไม่ได้ ก็ทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองแล้ว
แล้ว!หลานเยาเยาก็หยิบเข็มเงินออกมา ฝังเข็มให้กับเย่แจ๋หยิ่ง
ต้องปลดปล่อยความเจ็บปวดของเขาค่อยว่ากันอีกที
เพียงลนเข็มด้วยไฟได้เพียงครู่เดียว นางก็พบว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว แต่เขาก็ยังอยากที่จะให้นางฝังเข็มให้กับเขาต่อไป
หลังจากฝังเข็ม นางก็เก็บเข็มเงินกลับเข้าไปในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
จากนั้นก็จ้องมองไปยังเหงื่อที่ไหลออกมาบนหน้าผากของเขา แล้วถามเบาๆ
“ไม่เจ็บแล้วหรือ?”
เขาตอบอย่างแผ่วเบา“อืม”จากนั้นก็หันไปพูดกับหลานเยาเยาอย่างเรียบนิ่ง :“เยาเยา บางทีบนโลกใบนี้อาจจะมียาอายุวัฒนะก็เป็นได้”
ได้ยินแบบนั้น!หลานเยาเยาก็ถึงกับนิ่งงัน ด้วยความไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเขาถึงได้พูดสิ่งนี้ออกมา
แล้วเขาก็ดึงมือเธอขึ้น พานางเดินไปยังข้างๆของพื้นน้ำแข็งที่ทำเครื่องหมายไว้ ก่อนจะวางมือของนางลงไปแล้วใช้แรงกดเข้าไป
แล้วหน้าน้ำแข็งก็ยุบเว้าเข้าไป
“โครม……”
หลังจากที่ราวกับกำลังมีวัตถุหนักบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว ช่องนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย เพียงไม่นาน ประตูน้ำแข็งก็ถูกเปิดออก
“ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”หลานเยาเยาถามด้วยความไม่เข้าใจ
“อีกเดี๋ยวประตูน้ำแข็งนี้ก็จะปิดลงแล้ว เราเข้าไปด้านในแล้วค่อยคุยกันเถอะ”
“อืม!”
หลังจากที่ทำการตกลงกันเรียบร้อย ก็พากันเดินเข้าไปด้านใน
เสียงดังโครมดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วประตูน้ำแข็งก็ปิดตัวลง
เดิมทีหลังจากที่ประตูน้ำแข็งปิดลง หลานเยาเยาก็กำลังจะถมเย่แจ๋หยิ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับตะลึงกับภาพอันงดงามที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าแทน
ภาพพระราชวังน้ำแข็งอันเย็นเยือกตั้งสูงตระหง่านอย่างสง่างาม แล้วยังมีภูเขาหิน บันได ศาลาพลับพลที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง และรูปปั้นเสมือนจริงจำนวนหนึ่งตั้งอยู่
หยกแกะสลักน้ำแข็งตั้งตระหง่านราวกับแดนสวรรค์ไม่มีผิด
“อุโมงค์ลึกนี้มีที่ที่งดงามเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”
สถานที่แห่งนี้ไม่ได้กำเนิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ แต่เป็นการใช้แรงงานคนสร้างขึ้นมา และต้องเป็นช่างฝีมือชั้นสูงเท่านั้นถึงจะทำได้สำเร็จ
“ไม่ทราบ”
เย่แจ๋หยิ่งตอบกลับอย่างกระชับได้ใจความ
“ที่นี่เป็นดั่งโลกน้ำแข็งหิมะ ดินแดนสวรรค์บนโลกมนุษย์ เพียงแต่ว่า…..มันเย็นกว่าเท่านั้น”
นอกจากความหนาวเย็นแล้ว ทุกอย่างที่นี่ล้วนดีไปหมด
แล้วในเวลานั้นเอง!จู่ๆมือก็อุ่นขึ้น แล้วมือใหญ่ก็กุมมือของนางเอาไว้ ไม่ทันได้ให้นางตอบกลับสิ่งใด เจ้าของมือใหญ่นั้นก็พานางเดินขึ้นบันไดเข้าไปยังพระราชวัง
ภายในพระราชวังนั้นแตกต่างกับสิ่งที่คาดคิดไว้
เดิมทีหลานเยาเยาคิดว่าทุกสิ่งที่อยู่ภายในพระราชวังจะต้องเป็นน้ำแข็ง แต่คาดไม่ถึงว่าด้านในถูกสร้างขึ้นมาด้วยคริสตัลใสทั้งหมด
ส่วนสิ่งของอย่างอื่นก็มีผ้าม่าน เครื่องนั่งเครื่องใช้ที่ทำจากไม้แดง และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นของดีๆทั้งนั้น
ทันทีที่หลานเยาเยาเดินมาถึงห้องนอน ได้เห็นเตียงนอนขนาดใหญ่ที่ทำมาจากหยกชั้นสูง ดวงตาก็เปล่งแสงแพรวพราว
ฮิๆ!
สิ่งของทุกอย่างของที่นี่ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า หากหยิบออกไปขาย ราคาต้องสูงมากแน่
ผู้ใดเป็นผู้ที่สร้างสถานที่แห่งนี้กันนะ?
ช่างร่ำรวยเกินไปแล้ว?
จากนั้น!หลานเยาเยาวิ่งตรงไปยังข้างเตียงหยก เอื้อมมือออกไปลูบอยู่สักพัก
ความตกตะลึงประกายขึ้นมาในแววตาของนาง เพียงครู่เดียวดวงตาก็ประกายอีกครั้ง
อุ่นจัง
เตียงหยกนี้มีความอุ่น
ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ หากเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแช่แข็งตายแล้ว
หลานเยาเยาที่แทบจะทนความหนาวเหน็บไม่ได้แล้ว ก็ได้ถอดรองเท้าแล้วขึ้นไปยังเตียงหยก แล้วความอบอุ่นของเตียงหยกก็แพร่เข้าสู่ร่างกายของหลานเยาเยา
แล้วร่างกายก็อุ่นขึ้นมาในทันที
“เย่แจ๋หยิ่ง รีบขึ้นมาเร็วเข้า เตียงนี้อุ่นมากยิ่งนัก”
เย่แจ๋หยิ่งพยักหน้าและเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มจางๆที่ริมฝีปากของเขา
เขาที่เพิ่งนั่งลงบนเตียงหยกได้ไม่นานนัก ก็ถูกหลานเยาเยาดึงมือเขาไปลูบแล้วลูบอีก แต่ดูเหมือนกับว่ามันยังไม่เพียงพอ หลานเยาเยาจึงเอื้อมมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของเขา
จากนั้นก็ยิ้มออกมา
แล้วพูดด้วยความดีใจ“ตัวท่านเองก็อุ่นขึ้นมาแล้ว”
เมื่อมีความสุข นางก็รีบหันไปถามเย่แจ๋หยิ่งด้วยความสงสัย“จริงด้วย ท่านรู้ได้อย่างไรว่ากลไกอยู่หนใด?มีความเกี่ยวข้องกับชายชุดขาวในภาพลวงตางั้นหรือ?”
คงจะเป็นหลังจากที่เย่แจ๋หยิ่งสัมผัสกับชายคนนั้น แล้วได้เห็นภาพนิมิตขึ้นมา
เช่นเดียวกับตอนที่นางเข้าไปในภาพลวงตาตอนอยู่ที่ต้นไม้บุพเพ และได้เห็นถึงความเป็นมาของต้นไม้บุพเพ
ปรากฏว่า!
เย่แจ๋หยิ่งตอบเพียง “อืม” คำเดียวออกมาเบาๆ
แล้วริมฝีแดงของนางก็ยกขึ้นอย่างมีความสุข“เช่นนั้นท่านก็น่าจะรู้ว่าจะออกไปอย่างไรอีกด้วย?”
ทันใดนั้น เย่แจ๋หยิ่งก็หันไปสบตากับนาง ด้วยแววตาที่ดูแปลกๆ ก่อนที่ริมฝีปากจะค่อยๆขยับ
“ข้าก็ไม่รู้!”
ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้หลานเยาเยาสนใจมากนัก แล้วจากนั้นนางก็หยิบเอาอาหารจำนวนหนึ่งออกมาจากระบบรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
“เวลาของพวกเราเหลือน้อยแล้ว”
เพราะอาหารในระบบนั้นเหลือน้อยเข้าไปทุกที ถึงแม้จะสามารถใช้กลูโคสในการยันชีวิตเอาไว้ได้ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะอยู่นาน
ซึ่งหนทางเดียวก็คือต้องเร่งหาทางออกแล้วหนีออกไปเสีย
ดังนั้นหลังจากกินอาหารเสร็จ พวกเขาก็ได้เดินไปสำรวจพระราชวัง พร้อมกับหาเบาะแสไปด้วย
แต่หามาเป็นเวลานาน เบาะแสสักอย่างก็หาก็ไม่พบ เพียงแต่หาเจอหีบไม้แดงขนาดใหญ่ในพระราชวังหลายใบ ที่ภายในบรรจุสมบัติล้ำค่าและเสื้อผ้าเครื่องประดับเอาไว้
และสิ่งที่ทำให้รู้สึกประหลาดใจมากที่สุดก็คือ หนึ่งในบรรดาหีบไม้แดงนั้น หลานเยาเยาได้พบกับชุดอภิเษกสองชุดอยู่ด้านใน
มงกุฎฟินิกซ์!
แต่มันกลับงดงามกว่ามงกุฎฟินิกซ์ทั่วไปเป็นพันเท่าหมื่นเท่า……