หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 328 ความทรงจำในทะเลดอกไม้

บทที่ 328 ความทรงจำในทะเลดอกไม้

สติของหลานเยาเยาค่อยๆ เลือนรางก่อนที่จะสลบไป

นางรับรู้ถึงหนอนพิษกู่จิ้นที่ปีนออกมาจากดอกกระดูกขาว แล้วค่อยๆฝังตัวเข้าไปในร่างกายของนาง……

จนไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว

ในหูก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำอันเจ็บปวด แล้วโศกเศร้าดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นก็มีพลังภายในอันแข็งแกร่งก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างกะทันหัน จนทำให้ความเจ็บปวดของนางลดลงไปไม่น้อย

ทันทีที่ลืมตาขึ้น……

สิ่งที่ได้เห็นก็คือเย่แจ๋หยิ่งที่ดวงตาแดงก่ำฉายแววเจ็บปวด และท่าทางที่ดูทรมานรวดร้าว

เป็นเขาได้อย่างไร?

เมื่อเห็นนางฟื้นขึ้นมา เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างรุนแรง แล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดแน่น ราวกับกอดสมบัติล้ำค่าที่หายไป

“เยาเยา เยาเยาๆ……”

หลานเยาเยาที่อ่อนแรงจนไร้กำลังจะพูดจึงทำได้เพียงปล่อยให้โอบกอด แต่ความโกรธและความเกลียดชังที่อยู่ในใจได้กลายเป็นสายตาที่จ้องมองเขาด้วยความรังเกียจ

จากนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งก็ปล่อยนาง พอมองเห็นความเกลียดชังในแววตาของนาง เขาก็ไม่ได้พูดกล่าวสิ่งใด เพียงแต่ถ่ายพลังภายในให้กับนางต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็อุ้มนางขึ้น ค่อยๆก้าวทีละก้าวๆเดินไปยังตรงกลางของทะเลดอกไม้ ซึ่งทุกฝีก้าวนั้นทั้งลำบาก และเชื่องช้าอย่างมาก

นางมองเย่แจ๋หยิ่งที่คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันขึ้นเรื่อย และเลือดตรงมุมปากที่แห้งไปแล้ว กลับไหลออกมาอีกครั้ง

จนหลานเยาเยารู้สึกถึงหนอนพิษกู่จิ้นที่ฝังตัวเข้าไปในร่างของเขาอย่างไม่หยุด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมหยุดก้าวต่อไป

เขาบ้าไปแล้วหรือยังไง?

เขาต้องการทำสิ่งใดกันแน่?

ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยากที่จะฆ่านางอย่างไม่เหลือที่ให้ ตอนนี้กลับดื้อรั้นที่จะช่วยนาง เขาอยากทรมานนางงั้นหรือ?

หลังจากเดินมาได้สักพัก หลานเยาเยาก็มองเห็นหนอนพิษกู่จิ้นในผิวหนังของเย่แจ๋หยิ่งที่กำลังขยับตัวไปมา ทั้งยังมีจำนวนมากอีกด้วย

แล้วใจกลางของทะเลดอกกระดูกขาวก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ……

นางราวกับเข้าใจแล้วว่าเย่แจ๋หยิ่งต้องการจะทำสิ่งใด

“หือ……”

“หือ……”

เสียงแหบต่ำ ที่เหมือนเสียงติดอยู่ในลำคอ ขึ้นก็ไม่ได้จะลงก็ไม่ได้ จึงทำได้เพียงร้องออกมาจากในลำคอเท่านั้น

เสียงนี้……

คนโดนมนต์ดำ ไม่ใช่แค่คนเดียวเสียด้วย

เย่แจ๋หยิ่งถึงกับนิ่งงัน

พอหันหลังกลับไปมองก็เห็นจื่อซีกับจื่อเฟิงที่โดนพิษกู่จิ้นเข้าสู่ร่างกายจนกลายเป็นคนโดนมนต์ดำไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ไม่ห่างจากเย่แจ๋หยิ่งและหลานเยาเยามากนัก อีกทั้งกำลังค่อยๆเดินใกล้พวกเขาเข้ามาทุกที

เย่แจ๋หยิ่งทำหน้านิ่ง ค่อยๆวางนางลงกับพื้น ก่อนจะก้มลงไปกระซิบข้างหูด้วยนาง

“ข้างหน้าก็คือใจกลางของทะเลดอก ยาต้นกำเนิดตัวสุดท้ายอยู่ในนั้น ส่วนข้าจะอยู่ตรงนี้สกัดพวกเขาเอาไว้เอง”

พูดไป เย่แจ๋หยิ่งก็ลุกขึ้น ค่อยๆเดินไปยังพวกจื่อเฟิงที่โดนมนต์ดำ

ในเวลานั้นเอง หลานเยาเยาก็ได้เห็นเสื้อผ้าของเย่แจ๋หยิ่งที่ยุ่งเหยิงไปหมด ร่างกายที่เปื้อนเต็มไปด้วยเลือด บาดแผลลึกหลายจุดบนร่างกาย ทั้งยังมีหนอนพิษกู่จำนวนมากอีก แล้วเมื่อสักครู่นี้ที่ใช้พลังภายในไปไม่น้อยในการรักษานางอีก ถึงเขาจะมีวรยุทธที่แก่กล้า พลังภายในที่ลึกล้ำ แต่จื่อซีกับจื่อเฟิงผู้ที่มีวรยุทธและพลังภายในชั้นสูง ตอนนี้ยังกลายเป็นคนโดนมนต์ดำอีก เช่นนั้นก็นับได้เลยว่าน่าเกรงกลัว

ยิ่งกว่านั้น!ในร่างกายของพวกเขาก็ไม่ได้มีหนอนพิษกู่จิ้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่เป็นเหมือนกับนาง ที่ภายในร่างกายมีอยู่จำนวนมาก

ดังนั้นพลังของพวกเขาจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าอย่างเลี่ยงไม่ได้

พวกเขาที่ไม่แม้แต่จะได้รับยาต้นกำเนิดเลยสักตัว ก็คงจะสูญเสียสติไปนานแล้ว

เย่แจ๋หยิ่งในเวลานี้จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้อย่างไร?

ทันใดนั้น หลานเยาเยาก็เห็นพวกเขาต่อสู้กัน

นางรู้ดีว่าต่อให้จะอ่อนแอเพียงใด นางก็ต้องลุกขึ้นมา ถึงแม้จะลุกไม่ไหวก็ตาม แม้จะต้องคลานก็จะต้องคลานไปให้ถึงใจกลางทะเลดอกไม้ เพื่อหายาต้นกำเนิดตัวสุดท้าย

มิฉะนั้นพวกเขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่

ด้วยความเจ็บปวดบริเวณท้อง และความเจ็บปวดจากหนอนพิษกู่จิ้นจำนวนนับไม่ถ้วน ทำให้หลานเยาเยาก้าวไปอย่างโซซัดโซเซ ทุกๆก้าวนั้นแม้จะล้มลุกคลุกคลานก็ต้องยังคงเดินต่อไปยังใจกลางทะเลดอกไม้

ระหว่างทาง นางสะดุดล้มลงไปก็พยายามลุกขึ้นมาอีกครั้ง พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงไปอีก ……

จนในที่สุด นางก็แทบจะคลานเข้าไปในใจกลางทะเลดอกไม้ ไม่ว่าจะลำบากเพียงใด แต่พอหลังจากได้พบกับดอกกระดูกขาวสีขาว

สิ่งที่ทำลำบากมาก็เลือนหายไป!

แล้วดอกกระดูกขาวสีแดงฉานก็แกว่งไสวอย่างเห็นได้ชัดเจน

นี่ก็คือยาต้นกำเนิดตัวสุดท้าย——ดอกกระดูกขาวสีขาว

นางจึงรีบลุกขึ้นค่อยๆเก็บดอกกระดูกขาวสีขาวขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ในเวลานั้นเองนางถึงได้เห็นว่าทันที่นางหยิบดอกกระดูกขาวสีขาวขึ้นมา หนอนพิษกู่จิ้นที่ปีนออกมาจากดอกกระดูกขาวสีแดง ก็ไม่กล้าจะเข้าใกล้นางอีก

แล้วในเวลานั้น!

ตรงหน้าของนางก็ปรากฏร่างของใครบางคนขึ้นมา

เดิมคิดว่าเป็นเย่แจ๋หยิ่ง

แต่พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นหานแสที่ใกล้สูญเสียสติไป

เขายังไม่ตาย

แต่ว่า หนอนพิษกู่จิ้นจำนวนมากชอนไชไปตามร่างของเขา

นี่เขาก็กลายเป็นคนโดนมนต์ดำไปแล้วหรือ?

เช่นนั้นก็ยุ่งยากแล้ว

หานแสเป็นเจ้าของเรือแห่งความสิ้นหวัง วรยุทธและพลังภายในต้องสูงกว่าจื่อเฟิงอยู่แล้ว แต่เย่แจ๋หยิ่งในตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังภายในถดถอยลงไปมาก แค่จัดการกับจื่อซีและจื่อเฟิงก็กินแรงไปไม่น้อยแล้ว ถ้าเกิดมีหานแสมาด้วยอีกคน วันนี้เตรียมตัวตายได้เลย

โชคดี ที่นางสังเกตเห็นแววตาของหานแสที่ยังพอมีความบริสุทธิ์อยู่เล็กน้อย เช่นนั้นแสดงว่าสติของเขายังพอมีเหลืออยู่ เพราะเขาเคยได้รับยาต้นกำเนิดแล้วตัวหนึ่ง ถึงจะไม่เหมือนกับนางและเย่แจ๋หยิ่งที่ได้รับยาต้นกำเนิดไปสองตัวแล้ว แต่เขาก็ยังดีกว่าจื่อซีและจื่อเฟิง ที่อย่างน้อยก็ยังไม่ได้กลายเป็นคนโดนมนต์ดำอย่างเต็มตัว

แต่ว่า……

หานแสไม่พูดไม่กล่าวสิ่งใด ก็พุ่งมายังตัวนาง

ยังโชคดีที่สายตาและการเคลื่อนไหวของนางว่องไว ถึงจะทำให้แผลของตัวเองฉีกขึ้นมา แต่ก็สามารถหลบการโจมตีจากหานแสได้

อาการของหานแสในเวลานี้ไม่ได้ดีขึ้นมากนักหรอก

จากก่อนหน้านี้ที่ถูกการดจมตีจากราชครูแห่งราชวงศ์เก่าทำร้ายเข้า นางก็คิดว่าเขาจะตายไปแล้ว แต่สามารถอดทนมาจนถึงตอนนี้ได้ เขาคงจะเป็นเหมือนกับเย่แจ๋หยิ่ง ที่มีความมุ่งมั่นอันน่าทึ่งอย่างนั้น

“เอา……มันมา……ให้ข้า”

หานแสจดจ้องไปยังดอกกระดูกขาวสีขาวในมือของหานแส

“เจ้าเอามันไปก็ไร้ประโยชน์ ยาถอนพิษมีข้าเท่านั้นที่สามารถทำออกมาได้”

หลานเยาเยาชี้ไปทางฝั่งเย่แจ๋หยิ่ง ถึงเพิ่งได้เห็นว่าเย่แจ๋หยิ่งได้รับบาดเจ็บจนอ่อนล้า ราวกับว่าไม่สามารถที่จะยืนหยัดได้อีกต่อไปแล้ว

“ไปช่วยเขา มิฉะนั้นทุกคนจะตายกันหมด!”

หานแสที่ใบหน้ามีเส้นเลือดสีดำผุดขึ้นมาเต็มไปหมด จ้องมอไปยังทางที่นางชี้มือไป

หลังจากที่เห็นเย่แจ๋หยิ่ง เขากลับไม่ขยับใดๆ

เมื่อเห็นหานแสไม่ลงมือเสียที หลานเยาเยาจึงเก็บดอกกระดูกขาวสีขาวเข้าไปในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ก่อนจะลุกขึ้น เดินไปยังทางของเย่แจ๋หยิ่งอย่างช้าๆ พร้อมกับหยิบกริชอาวุธคู่กายออกมา

ส่วนมืออีกข้างก็โบกไปมา

แล้วด้ายสีเงินบางๆยาวๆก็ลอยไปยังฝั่งจื่อเฟิง เพราะจื่อเฟิงกำลังจะเข้าไปโจมตีด้านหลังของเย่แจ๋หยิ่งที่ตอนนี้กำลังต่อสู้กับจื่อซีอยู่

ถ้าเกิดเขาถึงตัวเย่แจ๋หยิ่ง

ก็คาดได้เลยว่าเย่แจ๋หยิ่งต้องถูกควักหัวใจออกมาจากด้านหลังเป็นแน่

หลังจากที่ด้ายเงินพันตัวจื่อเฟิงเอาไว้ ถึงมันจะสามารถหยุดจื่อเฟิงผู้โดนมนต์ไม่ให้ทำร้ายเย่แจ๋หยิ่งได้ แต่นางกลับถูกพลังอันแข็งเขาสะบัดจนกระเด็นออกไปไกล

“ปัง……”

หลังจากกระแทกลงพื้นอย่างหนัก หลานเยาเยาก็ทำการจัดอวัยวะทั้งหมดให้เข้าที่เข้าทาง ถึงอย่างนั้นแผลตรงท้องก็ยิ่งแย่ลง ถ้าหากเจ็บปวดหนักกว่านี้ นางก็คงจะหมดสติไปแล้วแน่

หลังจากพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง จื่อเฟิงก็ได้มุ่งหน้าตรงมายังนางแล้ว ความเร็วของเขานั้นว่องไวมาก เพียงครู่เดียวก็มาถึงตรงหน้าของนาง แม้แต่เวลาที่จะให้นางหยิบระเบิดออกมาก็ยังไม่มี ต่อให้สามารถหยิบระเบิดออกมาได้ ก็คงจะไร้ประโยชน์ เพราะว่าจื่อเฟิงนั้นอยู่ใกล้กับนางเกินไป หากปล่อยระเบิดนางเองก็ต้องตายเช่นกันอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อดูกรงเล็กอันแหลมคมของจื่อเฟิงที่กำลังฟาดมายังท้องของนางแล้ว ถ้าเกิดฟาดโดนตัวนางจริงๆ ร่างของนางต้องขาดเป็นสงท่อนแน่

ช่วยไม่ได้แล้ว!

นางทำได้เพียงเดินก้าวถอยหลัง แต่ในที่สุดเย่แจ๋หยิ่งก็พุ่งเข้ามา บังตัวนางเอาไว้

“เย่ เย่แจ๋หยิ่ง……”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset