หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 387 เจ้าชื่นชอบหลานเยาเยาหรือ

บทที่ 387 เจ้าชื่นชอบหลานเยาเยาหรือ

ทำไมตอนนี้นางถึงลุกขึ้นยืนได้

อีกอย่าง!

ก่อนหน้านี้ริมฝีปากของนางได้กลายเป็นสีม่วง สีหน้าเริ่มจะซีดเซียว แต่ตอนนี้ริมฝีปากของนางได้กลับมาเป็นสีก่อนหน้า สีหน้าเหมือนปกติ

“โธ่ องค์ชายสี่ ข้าไม่รู้จะพูดอย่างกับเจ้าแล้ว เจ้าเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ยาพิษ แต่กลับวางยาพิษคนที่เชี่ยวชาญเรื่องการใช้พิษและมีวิชาการรักษาขั้นสูง นี่ไม่เท่ากับหาที่ตายให้คนเองหรือ”

“พิษของเจ้าถูกถอนแล้วหรือ เป็นไปได้อย่างไร เจ้าถอนพิษตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

เมื่อแน่ใจว่านางไม่ได้ถูกพิษ องค์ชายสี่ก็ได้ตื่นตระหนก”

“ตัวข้านี้ร้อยพิษมิอาจกล้ำกราย!”

มิเช่นนั้น!

นางพูดอะไร

บอกว่านางมีช่องว่างที่ระบบรักษา สามารถถอนพิษได้ด้วยตนเอง คาดว่าองค์ชายสี่คงถูกทำให้ตกตะลึงสินะ!

“เจ้า……”

พิษร้ายที่ถอนยากมากเช่นนี้ยังไม่เป็นอะไร ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ที่ร้อยพิษมิอาจกล้ำกรายจริงๆ

หลังจากรู้เรื่องนี้ องค์ชายสี่ตื่นตระหนกเล็กน้อย รูม่านตาเบิกกว้างอย่างอดไม่ได้

หลานเยาเยามองเขาที่กำลังตกใจกลัวจนมองไปรอบด้าน จากนั้นก็ทอดสายตามองไปยังตำแหน่งตรงทางเดิน

ก็รู้ได้ว่าเขาต้องการที่จะหนีออกไป

ดังนั้นนางจึงกระตุกมุมปากทันที โบกแขนเสื้อสีแดง มีดสั้นที่แหลมคมด้ามหนึ่งก็แทรกเข้าไปตรงกลางทางเดิน เพื่อสกัดกั้นการพยายามหลบหนีขององค์ชายสี่

ในขณะที่องค์ชายสี่ได้ถูกบีบให้ไปติดกำแพง ก็รู้ตัวว่าไม่มีหนทางรอดแล้ว ใบหน้าเขาก็บิดเบี้ยวขึ้นมา

“ในเมื่อข้าไม่อาจมีชีวิตรอดออกไปได้ อย่างนั้นเจ้าก็ต้องถูกฝังไปพร้อมกับข้า”

องค์ชายสี่ค่อยๆ ดึงกระบี่อ่อนที่ใช้เป็นเข็มขัดออกมาจากเอว สายตามองไปที่หลานเยาเยาอย่างดุร้าย

“ไอ้คนเลว ไปตายซะเถอะ!”

พูดจบ

องค์ชายสี่ก็ได้ใช้กำลังภายในทั้งหมดส่งผ่านเข้าไปบนกระบี่อ่อน จากนั้นก็แทงไปที่คอของหลานเยาเยา

แต่หลานเยาเยาได้หลบไปกายจากกระบี่นั้น เอื้อมมือออกไปบีบคอเขา จากนั้นเสียง “แครก” ดังขึ้น ได้บิดคอเขาอย่างแม่นยำว่องไว

อย่างไรก็ตาม!

สิ่งที่หลานเยาเยานึกไม่ถึงคือ กระบี่อ่อนเล่มนั้นขององค์ชายสี่ จริงๆ แล้วเป้าหมายของกระบี่ไม่ได้มุ่งไปทางคอของนาง

หลังจากนางหลบออกไปแล้ว กระบี่อ่อนได้ลอยผ่านคอของนางมุ่งไปยังผนังที่อยู่ไกลออกไปด้านหลังนาง

เสียง “เช้ง” ดังขึ้น

กระบี่อ่อนที่ได้รับกำลังภายใน แทงทะลุเข้าไปบนกำแพง เข้าไปถูกสิ่งที่เหมือนจะเป็นกลไกโดยตรง

เพียงได้ยินเสียงปังที่ดังมาก ก้อนหินขนาดใหญ่ก็ตกลงมา

ทางเดินได้ถูกปิดกั้นไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ทั้งสุสานหลวงสั่นสะเทือนสองสามครั้ง

หลานเยาเยาขมวดคิ้วอย่างแรง

เมื่อหันกลับไปมององค์ชายสี่ เขาก็ได้สิ้นใจลงแล้ว

นางได้รีบมายังด้านหน้าหินใหญ่พันชั่ง ใช้กำลังภายในเต็มพิกัด ผลักหินใหญ่ด้วยฝ่ามือ หินใหญ่ไม่ขยับแม้แต่น้อย แต่สุสานหลวงกลับสั่นสะเทือนขึ้นมา

ให้ตายสิ!

แบบนี้ไม่ได้!

หากปล่อยกำลังภายในทั้งหมดลงไปละก็ หินใหญ่ก็ไม่แตกออก สุสานหลวงก็คงจะถล่มลงมาก่อน

หากใช้ระเบิดละก็ คาดว่านางก็คงจะถูกฝังทั้งเป็นอยู่ด้านในนี้

หมดหนทาง หลานเยาเยาได้แต่เพียงเดินไปยังด้านข้างของโลงศพทองคำและมองไปที่เย่หลีเฉินที่อยู่ในโลงศพ

ตอนนี้ได้แต่เพียงรอให้เขาฟื้นขึ้นมา

องค์ชายสี่รู้จักอาวุธลับแห่งกลไกสุสานหลวงเป็นอย่างดี หนำซ้ำยังเข้าใจอย่างถ่องแท้ เย่หลีเฉินก็คงจะรู้เช่นกัน

มีแต่รอให้เขาฟื้นขึ้นมา จึงจะรู้ว่านอกจากตรงนี้ยังมีทางออกอื่นอีกหรือไม่

ในระหว่างที่รอ

หลานเยาเยาก็ได้เปิดโลงศพอีกโลงหนึ่ง นำศพขององค์ชายสี่ใส่เข้าไปในโลงศพ จากนั้นก็ตอกตะปูปิดตายอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว

ทันใดนั้นเสียงที่อ่อนแรงก็ดังออกมาจากด้านในโลงศพทองคำ หลานเยาเยาขยับหู ยังรู้สึกว่าเย่หลีเฉินน่าจะฟื้นแล้ว

มองไปยังด้านในโลงศพทันที

เย่หลีเฉินยังคงนอนปิดตาแน่น เพียงแต่ริมฝีปากขยับเล็กน้อย

ตื่นแล้วไม่ใช่หรือ

ทว่าเป็นคำพูดที่เหลวไหล

น้ำเสียงทุ้มต่ำ อ่อนแรงมาก อีกทั้งยังคลุมเครือไม่ชัดเจน จริงๆ แล้วไม่รู้ว่าเขากำลังพูดอะไร

อย่างไรก็ตาม ดูไปดูมา ดูเหมือนจะพูดอยู่สองสามคำ

หลานเยาเยาค้ำโลงศพด้วยมือทั้งสองข้าง และโน้มตัวลงเพื่อจะฟังอย่างละเอียด

“หลาน……เยา……เยา……”

เมื่อได้ยินสองสามคำนี้ หลานเยาเยาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

……

เมื่อเข้าไปใกล้ เย่หลีเฉินก็ขมวดคิ้วแน่นและค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ร่างกายของเขาเจ็บปวดมาก ศีรษะรู้สึกหนักอึ้งเล็กน้อย

ทันทีที่ลืมตา ก็เห็นเงาสีแดงที่เลือนราง

“ฟื้นแล้วหรือ” เสียงอันมีเสน่ห์ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา

เย่หลีเฉินต้องการจะลุกขึ้นมา แต่กลับไม่ทันระวังจึงทำให้บาดแผลฉีกขาด เขาขมวดคิ้วแน่น

“ข้า ข้ายังไม่ตายหรือ”

ก่อนที่จะถูกดาบแทงจนสลบ ความเจ็บปวดปางตายแบบนั้น ทำให้เขาคิดว่าเขาได้ตายไปแล้ว

“อืม!”

“ก่อนหน้านี้ดูเหมือนข้าจะเห็นน้องสี่ เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ” เขาถามอย่างสงสัย

ก่อนจะฟื้นขึ้นมาเห็นเทพธิดา ยังได้เห็นน้องสี่ที่ถือดาบยาวอยู่ด้านหลังของเทพธิดา เขาต้องการจะฆ่าเทพธิดา ในยามวิกฤต เขาก็ออกไปเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างห้าวหาญ……

“มันเป็นภาพลวงตา!”

ใช่!

มันเป็นเพียงภาพลวงตา

หรือต้องการจะให้นางพูดว่า องค์ชายสี่ยังไม่ตาย และองค์ชายสี่ก็ยังต้องการจะฆ่าเขา สุดท้ายจึงถูกนางฆ่าตายแล้วเอาไปไว้ในโลงศพอย่างนั้นหรือ

“ใช่! ต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ”

มิเช่นนั้นน้องสี่จะฟื้นจากความตายได้อย่างไร

เย่หลีเฉินคค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา หลังจากออกมาจากด้านโลงศพทองคำอย่างช้าๆ ก็ได้เห็นเทพธิดาจ้องมองไปที่หินใหญ่ก้อนหนึ่งที่จู่ๆ โผล่ออกมาจากทางเดิน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เขาอดไม่ได้ที่จะถาม

“หินก้อนใหญ่นี้คือ……” เกิดอะไรขึ้น

ยังไม่ทันที่จะพูดออกมาจนจบ ก็ถูกเทพธิดาขัดจังหวะเข้า

“ไม่ทันระวังจึงได้ไปโดนกลไกปิดกั้นทางออก ไม่ทราบว่าองค์ชายรัชทายาททราบไหมว่าที่นี่ยังมีทางออกอื่นอีกหรือไม่”

“ทางออกอื่นหรือ”

เย่หลีเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นขมวดคิ้วและส่ายหน้า

“เหมือนจะไม่มี”

เขาไม่ได้รู้เรื่องสุสานหลวงมากนัก

หลานเยาเยามองไปยังท่าทีของเขาและไม่ต้องการที่จะโกหกเช่นกัน

“ได้ยินเจ้าเรียกชื่อของหลานเยาเยาขณะที่ยังไม่ฟื้น เจ้าชื่นชอบนางหรือ”

มันเป็นไปไม่ได้

หลานเยาเยาถามไปแบบนี้แค่อยากจะลองเชิงเย่หลีเฉินจะสงสัยว่านางคือหลานเยาเยาหรือไม่

จู่ๆ บทสนทนาก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงนั้นดูเหมือนแค่ถามอย่างไม่ได้มีสารถสำคัญอะไร เหมือนว่าจะรู้หรือไม่รู้คำตอบก็ไม่ได้สำคัญอะไร

คำถามที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เย่หลีเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็เอียงศีรษะไปอีกด้านหนึ่งอย่างเงียบๆ พูดเบาๆ ว่า

“ข้าติดคำขอโทษกับนาง”

สำหรับหลานเยาเยา เขาเพียงติดคำขอโทษเดียวงั้นหรือ

เขาเคยทำสัญญาแต่งงานกับนาง เป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกและนิสัยที่ขี้ขลาดอ่อนแอ ทำให้เขารำคาญนางเป็นอย่างมาก บวกกับการติดตามของนาง ยิ่งทำให้รังเกียจนางเป็นอย่างมาก

เมื่อเทียบกับหลานเยาเยาแล้ว เขาหลงใหลหลานชิวหยุนมากกว่า ในตอนนั้นเขารู้สึกว่าหลานชิวหยุนถึงจะเป็นคู่ที่เหมาะสมของเขา

แต่……

ใครจะไปนึกว่า วันหนึ่งเรื่องทั้งหมดจะกลับตาลปัตร

หลานเยาเยาเป็นผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด แต่หลังจากหลานชิวหยุนผู้มีจิตใจงดงามของเขาได้ถอดหน้ากากของความเสแสร้งออกมา การกระทำทั้งหมดของนางกลับทำให้คนขยะแขยง

แต่เขากลับกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของนาง และเกือบจะทำให้หลานเยาเยาถึงแก่ความตาย

สำหรับเรื่องนี้ เขาตำหนิตนเองอยู่ตลอด แต่หลานเยาเยาที่ได้พลิกโฉมใหม่ได้แสดงความสามารถที่มีออกมาให้เห็น

เสด็จแม่ที่ก่อกรรมทำชั่ว กลับต้องตายเพราะหลานเยาเยา ในใจเขามีความสับสนมาก เขาจึงไม่เคยที่จะเอ่ยคำขอโทษออกมา

คิดไม่ถึงว่าเมื่อไม่พูดก็ไม่มีโอกาสได้เอ่ยคำขอโทษอีกแล้ว

ส่วนเรื่องชื่นชอบ……

เขาชื่อชอบนางหรือไม่

คำตอบคือไม่รู้

บางทีอาจจะใช่ บางทีอาจจะไม่ใช่ ใครจะไปรู้เล่า

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า ตอนที่หมดสติเขาจะเรียกชื่อของนาง

จริงๆ แล้วชื่อนี้ของนาง ได้หยั่งรากลึกลงในก้นบึ้งหัวใจของเขาโดยไม่รู้ตัว……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset