หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 42 ลอบสังหารใคร?

บทที่ 42 ลอบสังหารใคร?

“ขอรับ” หลังจากที่คนขับรถม้าน้อมรับบัญชาก็กระโดดลงจากรถม้าทันที ตามด้วยเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆไกลออกไป

หลานเยาเยารู้สึกสงสัย

คนของยิงจวนแต่ละคนใจดำอำมหิต ลึกลับไม่อาจหยั่งได้ ทั้งยังมาเป็นโขยง ต่อให้คนขับรถม้าจะมีวิทยายุทธที่สูงมาก แต่ทว่าคนเดียวไยจะไปสู้คนทั้งโขยงได้ล่ะ?

ดังนั้น

นางรีบเปิดม่านออก เพื่อตามหาเงาร่างของคนขับรถม้า แต่สิ่งที่กระทบสายตากลับเป็นนักฆ่าที่เหมือนซากศพที่เดินได้ ค่อยๆเดินล้อมเข้ามาที่รถม้า ทั้งตัวของพวกเขากระจายกลิ่นอายแห่งความตาย ดั่งผีร้ายที่คลานออกมาจากนรก และสายตาเพ่งมองมาทางรถม้า

“เว่ย เว่ย เว่ย เว่ย อ๋องเย่ ท่านจะให้คนขับรถม้าไปรนหาที่ตายคนเดียวหรือไง พวกมันมากันเป็นโขยง แต่คนขับรถม้า…”

หลานเยาเยาที่มองดูใบหน้าเรียบเฉยของคนขับรถม้าที่พุ่งตัวไปยังกลุ่มนักฆ่า ตวัดกระบี่ฆ่าคนฉับพลัน เลือดอุ่นๆสาดกระเด็นไปบนใบหน้าของเขา และเขาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วสักนิดเลย

นางยกนิ้วชื่นชมเขาอย่างเงียบๆ ขณะเดียวกันก็รอจุดธูปให้เขาหนึ่งดอก

แต่ทว่ายังไม่ทันพูดจบ ทันใดนั้นนักฆ่าก็ถูกดาบยาวที่ลอยมาฟันเข้าที่ท้องอย่างจัง พริบตาเดียวล้มลงไปตั้งเจ็ดแปดคน ตามด้วยองครักษ์ลับเจ็ดถึงแปดคนลอยลงมา ดึงดาบยาวบนท้องของนักฆ่าออกมาก

นางรีบหุบปากทันที

โอ้โห

สุดยอดมาก

มีองครักษ์ลับซ่อนตัวอยู่ในที่ลับทุกที่ทุกเวลา เย่แจ๋หยิ่งได้สร้างศัตรูไว้มากเท่าไหร่กันเชียวถึงต้องเตรียมการถึงขนาดนี้?

หากเป็นอย่างที่ตนคิด แล้วที่นางต้องแต่งงานเข้าไปอยู่ในจวนอ๋องเย่ก็เท่ากับว่าถูกผลักไปอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายใช่รึเปล่า?

คิดคิดดูแล้วก็มีความเป็นไปได้สูง

ดังนั้น

หลานเยาเยาตัดสินใจทันที เรื่องบางเรื่องก็ต้องพูดต่อหน้าให้รู้เรื่องไปเลย

ขณะที่ปิดผ้าม่านลงอย่างรวดเร็ว ม่านยังไม่ทันปิดสนิท นางเบิกตากว้างทันที ดวงตาสะท้อนอาวุธลับที่ฉายแสงวูบวับทะลุผ่านมาในอากาศ

เพียงไม่นานก็มาถึงตรงหน้านาง นางรีบเอียงตัวหลบเอาตัวรอดทันที มองดูอาวุธลับปลิวผ่านอย่างรวดเร็ว และนางเพิ่งนึกได้ว่าผู้นั่งอยู่ตรงข้ามคือเย่แจ๋หยิ่ง จึงรีบหันกลับมาดูทันที

พริบตาเดียวตาทั้งคู่ห้ามไม่ได้ที่จะเบิกกว้าง……

อาวุธลับแหลมคมสองชิ้น ถูกเย่แจ๋หยิ่งใช้มือหนีบไว้อย่างรวดเร็ว ตามด้วยใช้สายตาที่เย็นเยือกกวาดดูอาวุธลับในมือ กระตุกมุมปากเล็กน้อย ดวงตาที่สื่อความเย็นเยือกหรี่ลงเบาๆ มือที่หนีบอาวุธลับไว้กระดิกเบาๆอาวุธลับทั้งสองชิ้นก็ปลิวผ่านอากาศกลับไปทางเดิม

เพียงแค่หนึ่งวินาทียังไม่ถึง เสียงร้องโหยหวนก็ลอยมา

“อ้าก อ้าก อ้าก……”

ให้ตายเถอะ

แค่กระดิกเบาๆเอง ความเร็วของอาวุธลับนี้ดูเหมือนจะเร็วกว่ากระสุนเสียอีก

วิทยายุทธของเขาจะต้องสูงแค่ไหนกันแน่นะ?

หลานเยาเยาประสานมือคารวะชื่นชมทันที “เลื่อมใส เลื่อมใส”

กลับเห็นเพียงเย่แจ๋หยิ่ง ฮึ้มเสียงเบา ส่งสายตาดูถูกมาที่นาง นางไม่สนใจแม้แต่น้อย นัยน์ตาฉายแววแฝงนัย คาดหวังมากที่จะพูดอีกครั้ง

“อ๋องเย่ ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะไม่แต่งงานกับท่านแน่นอน”

ล้อเล่นอะไรกัน

เย่แจ๋หยิ่งเก่งซะขนาดนั้น ศัตรูของเขาก็ต้องเก่งอย่างแน่นอน มิฉะนั้นทำไมถึงต้องจ้างนักฆ่าจากยิงจวนมาลอบสังหารเขาด้วยล่ะ?

ดังนั้น

ต่อให้อยากจะได้สมบัติของตระกูลเขามากแค่ไหน เห็นจะต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน

เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ ค่อยๆหาเงินไปอย่างสบายใจเสียดีกว่า

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

เขาดูเหมือนคิดไม่ถึงว่านางจะพูดเช่นนี้ เย่แจ๋หยิ่งตะลึงไปชั่วครู่ หรี่สายตาพิฆาตมองมาที่นาง

“อ๋องเย่ ท่านอย่าเข้าใจผิดนะ ที่ข้าไม่เลือกแต่งงานกับท่าน เพียงแค่รู้สึกว่าหนึ่งข้าไม่มีกำลังสองข้าไม่มีอำนาจ เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาก็เทียบเคียงไม่ได้ และไม่คู่ควรกับท่านอ๋องผู้สูงส่ง

ท่านดูตัวท่านสิ ท่านถูกยกให้เป็นเทพนักรบแห่งประเทศก่วงส้า ที่มีอำนาจนอกจากกษัตริย์ และมีศักดิ์เป็นพี่น้องเพียงหนึ่งเดียวของฮ่องเต้ในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่อยู่ใต้คนๆเดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่น ทั้งยังร่ำรวยมหาศาล

รูปลักษณ์หล่อเหลาที่พื้นพิภพนี้ยากที่จะพานพบ เป็นดวงดาวที่ฉายแสงเจิดจ้ามากที่สุด แต่ข้าเป็นเพียงเม็ดทรายเล็กๆในผงคลีดิน ต่างกับท่านราวสิบหมื่นแปดพันลี้เลยล่ะ

เหตุที่ข้าเลือกเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะฆ่ากลัวตายอย่างแน่นอน แต่ล้วนคำนึงถึงตัวท่านทั้งนั้นเลยนะ”

นางพูดอธิบายเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด

พูดเยินยอความสมบูรณ์แบบของเย่แจ๋หยิ่ง แล้วพยายามพูดให้ตัวเองดูไร้ค่า เย่แจ๋หยิ่งน่าจะไม่โกรธมั้ง?

เป็นอย่างที่คิด

เขาแค่มองเธออย่างเงียบๆ นัยน์ตาเย็นเยือกก็ยังคงเย็นเยือก ใบหน้าเงียบสงบไร้อาการใดๆ

เสียงฆ่าฟันและเสียงอาวุธปะทะกันภายนอกรถม้าค่อยๆจางหายไปจากหูของทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาได้ยินคือเสียงหัวใจของตัวเอง

ผ่านไปเพียงครู่

“เจ้าแน่ใจ?” เสียงเบาๆของเขา สายตาเยือกเย็นค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นไม่แยแส

“อืม อ้าก…”

“นางเพิ่งจากพยักหน้าตอบรับ รู้สึกเหมือนปะทะเข้ากับลมแรง ถูกโยนออกจากรถม้า ตามด้วย “ตึก” เสียงกระทบกับพื้น

“โอ๊ย เอวข้า เย่แจ๋หยิ่งไอ้สารเลว ไอ้งี่เง่า ไอ้บ้า จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ไหม?

หลานเยาเยามองจ้องไปที่รถม้าด้วยสายตาโกรธเคือง เสียงที่ตอบกลับนางเป็นเพียงเสียงที่ไร้เยื่อใย

แต่ตอนนี้ เสียงหัวเราะแหบแห้งไม่น่าฟังให้ความรู้สึกหนาวๆเย็นๆ ลอยเข้ามาในหู “เฮย เฮย เฮย…”

อืม?

เสียงนี้ดังขึ้น หลานเยาเยาขนลุกซู่ไปทั้งตัว ในหัวนึกถึงคำสี่คำยายเมิ่งยิงจวนขึ้นมาทันที

ทันใดนั้น ยายแก่ผมขาวรูปร่างหลังค่อมก็ได้ปรากฏในสายตาของนาง ใบหน้าหนาวๆเย็นๆมองมาที่นาง ด้านข้างของนางปรากฏนักฆ่ายิงจวนมากมาย

ที่แท้ก็เป็นนางนี่เอง

หลานเยาเยาตะลึงงันไม่ชั่วครู่

แค่เห็นยายเมิ่งยิงจวน นางมีลางสังหรณ์ ไม่ดีบางอย่าง

นางรู้ในทันทีว่าลางสังหรณ์ ไม่ดีนั้นมาจากไหน เพียงได้ยินเสียงเฉื่อยๆภายในรถม้าดังขึ้น

“กลับจวน”

หลานเยาเยารู้ว่าคำพูดนี้ไม่ใช่พูดกับนาง

แค่เสียงของเย่แจ๋หยิ่งดับลง องครักษ์ลับก็รีบถอยกลับทันที

ตามด้วยองครักษ์ลับหายเข้าไปในที่ลับ คนขับรถม้ารีบมาประจำการในตำแหน่งของตน

“เสียงออกรถม้า……”

คนขับรถม้ามองมาที่หลานเยาเยาอย่างไม่เข้า พร้อมเหวี่ยงแส้ไปที รถม้ารีบออกตัวทันที

เย่แจ๋หยิ่งไปแล้ว

นักฆ่าของยิงจวนกลับไม่ขยับตัวแม้แต่คนเดียว แต่ละคนมองนางอย่างดุร้าย

เออ……

เกิดอะไรขึ้น?

ไม่ใช่ว่าจะลอบสังหารเย่แจ๋หยิ่งหรอกหรือ?

คนก็ไปแล้ว ทำไมยังไม่ขยับตัวกันอีก แต่ละคนมองมาที่นางเพื่อ?

“นรกพื้นที่ว่างมาก ยมบาลมีรับสั่ง หลานเยาเยาจากตระกูลหลานแห่งเมืองหลวงอยู่ในรายชื่อยมราช วันนี้ต้องตาย” เสียงของยายเมิ่งยิงจวนที่เจ้าเล่ห์ชอบกลพูดขึ้นมาอีกครั้ง มองนางด้วยสายตาเย็นๆ

โอ้พระเจ้า

ที่แท้……คนที่ยิงจวนจะลอบสังหารคือนาง ไม่ใช่เย่แจ๋หยิ่ง

ฉะนั้นเมื่อกี้เย่แจ๋หยิ่งกำลังช่วยชีวิตนาง

แต่นางกลับใช้เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนี้ ปฏิเสธการแต่งงานจากจวนอ๋องเย่ ทำให้อ๋องเย่ไม่พอใจ ถึงให้นางชดใช้ชะตากรรมอยู่ที่นี่

หลานเยาเยาในตอนนี้อยากจะใช้มือตบตัวเองให้ตาย

หากรู้เร็วกว่านี้ คนที่ถูกลอบสังหารคือนางเอง นางก็คงจะรอให้เย่แจ๋หยิ่งถึงจวนก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องแต่งงาน แบบนี้จะดีกว่ามิใช่หรือ?

แต่ดันใช้เวลานี้พูดเสียก่อน ก่อเวรก่อกรรมเองจริงๆเลย

มองไปที่ผมเผ้าสีขาวที่ยุ่งเยิงสกปรกของยายเมิ่งยิงจวน หลานเยาเยาเพิ่งจะรู้สึกว่ามือของตนมีบาดแผลและยังคงเจ็บแปล๊บๆ

ความรู้สึกที่โดนแผ่นเหล็กในผมของยายเมิ่งยิงจวนบาดเข้าที่เนื้อนั้นเจ็บแสบจริงๆ…

แต่ว่า

จำได้ว่าหลายวันก่อนในรายชื่อยมราชไม่มีชื่อนางนะ นี่มันแค่ผ่านไปกี่วันเอง ทำไมในรายชื่อยมราชถึงได้มีชื่อนางเพิ่มมากะทันหัน

ใครกันแน่ที่ต้องการฆ่านาง?

 

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset