บทที่ 43 เจ้าตายอย่างเป็นธรรม
ยายเมิ่งยิงจวนที่ถือไม้เท้าหัวงู ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บมา นางเดินกะเผลกๆ จากนั้นก็มองไปทางรถม้าที่เย่แจ๋หยิ่งนั่งอยู่นั้นได้หายไป จึงหัวเราะ “เฮย เฮย เฮย” อีกครั้ง
“อ๋องเย่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ข้าไม่อยากหาเรื่อง และไม่กล้าหาเรื่องด้วย แต่เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ ข้าเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องล่วงเกิน
ถึงแม้ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากับอ๋องเย่มีความสัมพันธ์อันใด? แล้วทำไมเขาต้องปกป้องเจ้า แต่นั่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไป ในเมื่อเขาได้ละทิ้งเจ้าแล้วจากไป ก็ชัดแจ้งแล้วว่าเขาไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นหรือตาย
ดังนั้น หลานเยาเยา ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว” เสียงของยายเมิ่งยิงจวนยิ่งอยูยิ่งหลักแหลม และยิ่งอยู่ยิ่งหนาวเหน็บ
การแต่งตัวก็เหมือนพวกภูตผีปีศาจ และเดินใกล้เข้ามาติดๆ
“ใครกันที่ต้องการฆ่าข้า?” หลานเยาเยาถามยายเมิ่งยิงจวน
ต้องไม่ใช่หลานเฉินมู๋แน่
ที่จริงแล้วหลานเฉินมู๋กับพวกขุนนางที่อยู่ในลานของนางวันนี้ จากเรื่องที่เกิดขึ้นในลานจนถึงตอนนี้ ระยะเวลายังไม่ถึงครึ่งวันเลย
แผลบนร่างกายของพวกเขายังไม่ทันได้รักษา จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีเวลาไปจ้างนักฆ่ามาฆ่าคน?
หลานเยาเยาเอามือซ่อนไว้ด้านหลัง แค่พลิกมือ ก็มีเข็มอาบยาพิษร้ายแรงสิบกว่าแท่งอยู่ในมือ
ตอนนี้ที่นี่นอกจากนักฆ่าแล้วก็ไม่มีบุคคลบริสุทธิ์ที่นางรู้จักผ่านมา
เพียงแค่ฆ่าพวกนักฆ่านี้ให้ตายหมด นางก็ไม่ต้องกลัวว่าความลับของตนจะถูกเปิดโปง
ในมุมระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ นางได้ใส่ของดีๆไว้ตั้งมากมายเชียวนะ
แค่อาวุธในยุคปัจจุบันปรากฏ ต่อให้พวกมันไม่ตาย เกรงว่าจะทำให้พวกมันสั่นสะเทือนกลัวไปเลย
“ยิงจวนมีกฎของยิงจวน เด็กน้อยอย่างเจ้า ตายไปแล้วก็ไปถามยมราชเอาเองนะ เฮย เฮย เฮย……
ยายเมิ่งยิงจวนใช้ไม้เท้าหัวงูในมือชี้ไปยังข้างหน้า พวกนักฆ่าก็พุ่งตรงมาทางหลานเยาเยาอย่างรวดเร็ว
“ในเมื่อเจ้าไม่พูด…” หลานเยาเยาแค่โบกมือ เข็มเงินที่ฉายแสงวิบวับสิบกว่าแท่งพุ่งตรงไปที่พวกนักฆ่า “ข้าจะไปตรวจสอบเอง”
นักฆ่าหลายคนเมื่อถูกเข็มเงินแทงเข้าก็เสียชีวิตเพราะพิษทันที ยายเมิ่งยิงจวนเห็นสถานการณ์ หรี่ตาเบาๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะ “เฮย เฮย” ที่ดังขึ้น ราวกับว่าได้เห็นอะไรสนุกๆ
แต่ทว่าสิ่งที่สนุกกว่านั้นยังอยู่ข้างหลัง ตอนที่พวกนักฆ่าจะพุ่งถึงตัวหลานเยาเยานั้น ในมือของหลานเยาเยาได้ปรากฏสิ่งของกลมๆดำๆ ที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พร้อมกับโยนตรงไปที่พวกมัน
หนึ่งในนักฆ่าที่ไม่รู้ว่าเป็นของอะไร คิดว่าคงเป็นอาวุธลับ เขาไม่ยอมหลบไป แต่กลับยื่นมือไปรับ…
หลังจากนั้น
“ตูม…”
เสียงดังสนั่นมาก ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน นักฆ่ามากมายถูกแรงระเบิดใส่จนปลิวกระจาย และพื้นดินเป็นรอยหลุมขนาดใหญ่
ถึงแม้ยายเมิ่งยิงจวนไม่ได้ถูกแรงระเบิด แต่ทว่าเสียงระเบิดที่ดังมากนั้น ทำให้หูของนางมีเสียงดังวี้ดๆ และมีเลือดซึมออกมาทางหูทันที เสียงอะไรก็ได้ยินไม่ชัด
พวกนักฆ่าที่โชคดีไม่ถูกระเบิดตาย ถูกเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดทำให้ตกใจกลัว มองเห็นคนมากมายถูกระเบิดจนเลือดเนื้อฉีกขาดปะปนกัน แข้งขาไม่สมบูรณ์ ถูกผู้คนขนานนามว่าภูตผีแห่งนรก
พวกเขาแต่ละคนตกใจกลัวจนหน้าซีด
ยายเมิ่งยิงจวนที่เพิ่งเคยเจอสถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก ถึงแม้จะรู้สึกวุ่นวายสับสนจนทำอะไรไม่ถูก แต่ก็รีบทำใจสงบนิ่งอย่างรวดเร็ว
น่ากลัวที่สุด
สิ่งที่หลานเยาเยาโยนเมื่อครู่มันคืออะไรกันแน่?
สิ่งของที่เล็กปานนั้นกลับมีพลังมหาศาลเช่นนี้
นางเป็นเพียงคุณหนูหกแห่งจวนแม่ทัพจริงหรือ?
พอนึกถึงหลานเยาเยา ยายเมิ่งยิงจวนรีบมองหาตัวนางทันที กลับพบว่าหลานเยาเยาหายตัวไปตั้งนานแล้ว ยายเมิ่งยิงจวนห้ามไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น
น่าเกลียดที่สุด
จะต้องฆ่าหลานเยาเยาให้ได้
แต่ทว่า ผ่านไปชั่วครู่
เสียงที่น่าฟังและซุกซนดังขึ้น “พักผ่อนเสร็จกันหรือยัง? หากเสร็จแล้วก็ถึงเวลาไปดื่มเหล้าฉลองกับยมราชของพวกเจ้าได้แล้ว”
เดิมที่คิดว่าหลานเยาเยาได้หนีไปแล้ว กลับปรากฏตัวต่อหน้าพวกนักฆ่าอย่างกะทันหัน
ดวงตาของยายเมิ่งยิงจวนแสดงจิตอาฆาตออกมาทันที
ในเมื่อไม่ไป หลังจับตัวนางได้ จะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้นๆเลย
และหลานเยาเยาคนนี้ นางจะฆ่ากับมือเอง ทั้งยังจะถลกหนังนางออกมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก
เฮย เฮย เฮย……
“เจ้าเป็นใครกันแน่” เสียงแหบแห้งของยายเมิ่งยิงจวนถามอย่างโกรธแค้น
“คนตายไม่มีสิทธิรับรู้” ต่อให้นางกำลังจะตายก็ไม่มีสิทธิ
นอกจากตัวเองแล้ว ผู้ใดที่อยากรู้ว่านางเป็นใครล้วนไม่มีสิทธิทั้งนั้น
“อะไรนะ?”
ได้ยินเช่นนั้น
ยายเมิ่งยิงจวนสะดุ้งตกใจ หลานเยาเยาไม่เคยอยู่ในสายตานางเลย ในสายตานางหลานเยาเยาเป็นเพียงเด็กน้อยที่พอมีความฉลาดอยู่บ้าง รู้วิชาแพทย์และวิชายาพิษก็เท่านั้น
กระนั้นแล้วอย่างไร?
นางไม่มีวิชาวิทยุทธและไม่มีกำลังภายใน คิดจะใช้วิทยายุทธของนางฆ่านางอย่างนั้นหรือ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเพียงแค่กระดิกนิ้วหรอก
แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิมแล้ว ในตัวนางซ่อนพลังบางอย่างที่ร้ายแรงไว้ แค่พริบตาเดียวก็สามารถทำให้คนกลายเป็นเศษเสี้ยวได้
และสิ่งของที่ว่านั้นนางกลับไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ฉะนั้นลึกๆแล้วนางจึงรู้สึกเป็นกังวล น่าเสียดายที่เวลานี้ช้าไป
ตอนนี้ หลานเยาเยากระตุกมุมปากเล็กน้อย สายตาคมกริบอย่างเทียบไม่ได้ ริมฝีปากสีแดงขยับเบาๆ
“มองที่ใต้เท้า” หลานเยาเยาเตือนเพราะหวังดี
ก่อนที่ความตายจะมาเยือนพวกเขา นางเตือนเพราะหวังดี เพื่อให้พวกเขาเตรียมใจก่อนตาย ก็นับว่าเป็นการทำดีอย่างหนึ่งแหละ
จากที่นางได้พูดเตือน ยายเมิ่งยิงจวนและพวกนักฆ่ารีบมองไปที่เท้าตัวเอง
“ติง…”
ทันใดนั้น เสียงแหลมแสบแก้วหูก็ดังขึ้น พวกเขาทนไม่ได้จึงรีบปิดหู และเบื้องหน้าเต็มไปด้วยความขาวโพลนมองยังไงก็มองไม่เห็น
หลานเยาเยาเห็นพวกเขาได้ถูกแรงระเบิดมือระเบิดใส่ และสูญเสียกำลังต่อสู้มากพอสมควร จึงได้หยิบมีดต่อสู้ที่เก็บไว้ในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บออกมา
นี่คือมีดสั้นที่ทำขึ้นเฉพาะกองกำลังพิเศษของพวกเขา
ไม่เพียงแต่คมกริบไร้ที่ติ ทั้งยังมีประโยชน์การใช้งานมากมาย พลังการต่อสู้แกร่งมาก
เหมาะมากสำหรับการเอาชีวิตรอดในเหตุสุดวิสัยเช่นนี้
นำมีดต่อสู้ในมือโยนไปมา ตามด้วยหรี่ตาลง
และหายวับมาถึงข้างกายพวกนักฆ่าโดยพลัน ปาดคอพวกมันทีละคน ลงมือรวดเร็ว มือไม้ฉับไว
พวกนักฆ่าถูกนางฆ่าจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็วมาก
ตอนนี้เหลือเพียงคนเดียว คนนั้นก็คือยายเมิ่งยิงจวน
ตอนนี้นางมองไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียง แต่ระมัดระวังตัวมาก ถือไม้เท้าหัวงูของนางไว้ตลอด ไม่หยุดที่จะสะบัดไม้เท้าไปมา มืออีกข้างกุมพลังภายในระดับสิบไว้ เพียงแค่นางรู้สึกว่ามีคนเข้าใกล้ ก็จะปลิดชีวิตทันที
“เฮอ”
คิดว่าทำอย่างนี้แล้วนางจะหาวิธีไม่ได้หรือไง?
คิดว่านางอยู่ในกองกำลังพิเศษเสียเปล่าหรือ?
ฮึ้ม
หลานเยาเยาหยิบก้อนหินที่อยู่ใต้เท้า โยนไปที่หัวของยายเมิ่งยิงจวนปะทะเข้าอย่างจัง พอก้อนหินในมือโยนออกไป มืออีกข้างที่ถือมีดต่อสู้พุ่งตรงไปที่หัวของนางอย่างว่องไว……
ยายเมิ่งยิงจวนที่เบื้องหน้าเต็มไปด้วยความขาวโพลน รู้สึกได้ถึงแรงอาฆาตที่กำลังมา นางหยิบไม้เท้าตวัดไปมา แต่กลับตีไม่โดนคน รีบใช้มืออีกข้างที่กุมพลังภายในไว้ ปล่อยพลังไปตรงหน้าอย่างแรง
หากโดนใส่คนล่ะก็ จะต้องสิ้นชีวิตอย่างแน่นอน
แต่ทว่า
นางกลับโดนใส่ก้อนหินหนึ่งก้อน พริบตาเดียวก้อนหินที่อยู่ในฝ่ามือของนางแหลกสลายกลายเป็นผงทันที ตอนที่นางรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ไม่ทันเสียแล้ว มีดต่อสู้คมกริบเย็นเฉียบได้แทงเข้ามาที่ทรวงอกของนาง……