บทที่ 518 โอเอซิสจริงหรือปลอม
เย่หลีเฉินเห็นหลานเยาเยาก้มหัวครุ่นคิด ไม่รู้ว่าคิดอะไรจึงไม่ไปรบกวนนางอีก และเดินไปอีกด้านคนเดียว
หลานเยาเยานั่งลงบนพื้น มองพื้นที่เต็มไปด้วยทรายเหลือง คิดถึงแผนที่ภูมิประเทศม้วนหนังแกะที่จำเอาไว้ในหัว
คิดอย่างละเอียดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ค้นหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ที่ไหนถึงจะมีโอเอซิส?
ในที่สุด ก็ไม่ผิดหวังที่ครุ่นคิดอย่างสุดแรง และมันก็ทำให้นางหาโอเอซิสแห่งหนึ่งบนแผนที่ภูมิประเทศเจอได้จริงๆ ดูเหมือนจะอยู่ไม่ไกลจากที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ด้วย
น่าจะอยู่ทางด้านหน้า
อืม เป็นทางที่ส้งเย่นกุยบอกให้นางไปพอดี……
หลังจากพักผ่อนมาเกือบจะสองชั่วโมง กลุ่มของพวกเขาสี่คนก็ออกเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้เป้าหมายของพวกเขาก็คือหาแหล่งน้ำ
เนินทรายนูนสีเหลืองทองไปตลอดทาง พายุทรายพัดเบาๆ พระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับฟ้า ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่งดงาม
การเดินมาตลอดสองวันติดนี้ กาน้ำที่มีเพียงอันเดียวก็หมดแล้ว
บวกกับพระอาทิตย์ที่รุนแรงขึ้นเรื่องๆ นอกจากส้งเย่นกุยที่ไม่เปรอะเปื้อนทรายดังเช่นเคย มีกำลังวังชาเหมือนปกติ
คนที่เหลือ ก็ค่อยๆไม่มีพลัง
ไม่รู้ว่าเสียงใครพูดขึ้นมาว่า:
“ดูนั่น น้ำ ตรงนั้นมีแหล่งน้ำ”
หลานเยาเยาที่ค่อนข้างงง หลังจากได้ยินเช่นนั้น สีหน้าก็นิ่งไปเล็กน้อย
แหล่งน้ำ?
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บนเนินทราย นางแน่ใจว่าเคยมองรอบๆแล้ว และก็ไม่เห็นว่ามีแหล่งน้ำ
ตอนนี้เพิ่งผ่านมาแค่เนินเดียว จะมีแหล่งน้ำปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร?
แม้ในใจจะสงสัย แต่พอหลังจากที่ได้ยินเสียง ก็รีบหันไปมองคนที่ส่งเสียงออกมา
คือเย็นหง
มีแสงสว่างภายในนัยน์ตาที่หม่นหมองของนาง
คือแสงสว่างของความหวัง เมื่อมองตามสายตาของนางไป ด้านหน้าไกลๆทางด้านขวา ความเขียวขจีก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ทะเลทรายที่ไกลสุดลูกหูลูกตาเหมือนกับไม่เห็นจุดสิ้นสุด มีผืนสีเขียวไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่ ตรงกลางสีเขียวนั้นก็คือน้ำสีคราม
เห็นได้ชัดว่าสีเขียวนั้นมากกว่าสีฟ้าของน้ำ เหมือนกับความฝันและเหมือนกับมีอยู่จริงๆ เพราะการส่องแสงของดวงอาทิตย์ทำให้เกิดเป็นเงาตะคุ่มๆ เหมือนกับภาพจินตนาการที่ว่างเปล่า
หลานเยาเยาค่อยๆขมวดคิ้ว
มันคือภาพลวงตา!
ตอนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน นางเคยเห็นที่ริมทะเลครั้งนึง แต่ว่าที่เห็นครั้งนี้ดูสมจริงกว่า
นางกวาดตามองส้งเย่นกุย
เขาเองก็มองไปทางภาพลวงตานั่นด้วยสายตานิ่งๆ มองสีหน้าใดๆไม่ออก
แต่พอตอนที่มองไปทางเย็นหงและจื่อเฟิง
เย็นหงนั้นตื่นเต้น ตาแดงเล็กน้อย น้ำตาคลอเบ้า
ในที่สุดก็เห็นแหล่งน้ำ
ถ้าเทพธิดาผู้สูงส่งต้องมาหิวน้ำตายในทะเลทราย นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุด
แต่ทว่าสายตาของจื่อเฟิงนั้นเป็นประกายก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยๆหม่นมัว ต่อมาก็เป็นความสงสัยเข้ามาแทนที่
เงียบไปพักนึง จื่อเฟิงก็หันกลับมา ขยับริมฝีปาก
“คุณหนู……”
ยังไม่ได้พูดในสิ่งที่คิดออกมา หลานเยาเยาก็ตัดบทเขา
“คือโอเอซิสจริงๆ!”
ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ คนมักจะต้องมีความหวัง
บวกกับทิศทางที่ภาพลวงตาปรากฏ ก็คลาดเคลื่อนไปจากทิศทางที่พวกเขาต้องไปเพียงเล็กน้อย ตอนนี้ทำได้เพียงเดินไปดูไป
หลังจากที่มีการรับรองของนาง จื่อเฟิงก็ปล่อยวางความสงสัยในใจ
หลังจากนั้นทั้งกลุ่มก็พักผ่อนเงียบๆสักครู่ และรีบออกเดินทางไปข้างหน้า
ครั้งนี้ส้งเย่นกุยยังคงเดินอยู่หน้าสุด แต่หลานเยาเยาที่ชอบเดินเคียงข้างกันกับส้งเย่นกุย กลับเดินอยู่ข้างหลังสุดอย่างหาได้ยาก
เดินไปด้วยแล้วก็ใช้ความคิดตรวจสอบระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
ก็ยังไม่ได้!
ไม่ว่าจะลองวิธีไหน ก็ยังไม่มีวิธีเปิดระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บอีกครั้งได้
เป็นเจ้าระบบที่แย่จริงๆ
ปกติไม่เห็นเกิดเรื่องอะไร พอถึงเวลาฉุกเฉินยังไม่ทันไร ก็จำศีลตัวเองเลย
ช่างเถอะ
พรุ่งนี้ค่อยตรวจสอบดีๆ ตอนนี้ร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์
เดินไปได้ไม่นาน หลานเยาเยาก็หยุดฝีเท้าลงฉับพลัน มุมปากก็ยกยิ้มที่ดูลึกซึ้งขึ้นมา
หากไม่ได้จริงๆ พวกเขาก็ยังสามารถคิดวิธีโจมตีกลุ่มที่แอบสะกดรอยตามพวกเขามาก็ได้ คาดว่าอาหารและน้ำของพวกเขาน่าจะมีเพียงพอ
เพียงแต่ ถ้ายังไม่ถึงช่วงเวลาสุดท้ายจริงๆ จะให้คนกลุ่มนั้นรู้ไม่ได้ว่านางพบพวกเขาแล้ว
กลุ่มพวกเขาเดินมานาน และเมื่ออยู่ห่างจากภาพลวงตานั้นไม่ไกลนัก ผืนโอเอซิสที่เต็มไปด้วยความหวังก็หายวับไป
“ไม่มีแล้ว โอเอซิสหายไปแล้ว”
“ที่แท้ก็เป็นเพียงภาพลวงตา เทพธิดา ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
เย็นหงมองหลานเยาเยาอย่างกังวล เมื่อเห็นใบหน้าที่ขาดน้ำของนาง ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือตัวเองออกมา แววตาจริงใจ ราวกับได้ตัดสินใจแล้ว
“เทพธิดา เลือดของข้าน้อยเยอะ หากท่านไม่รังเกียจ ก็ดื่มอันนี้ก่อนเถิด”
ศิลปะการต่อสู้ของจื่อเฟิงแข็งแกร่ง ถ้าหากพบอันตรายจะต้องปกป้องเทพธิดา หมอส้งก็ดูเหมือนคุ้นเคยกับภูมิประเทศของทะเลทราย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเทพธิดา
มีเพียงแต่นางที่ตอนนี้ดูไม่มีค่าอะไรสักนิด
เรื่องที่มีประโยชน์สิ่งเดียวที่นางทำได้ในตอนนี้ก็คือ เลือดอุ่นๆที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย
เมื่อเห็นเย็นหงที่ดูอ่อนแรง ใบหน้าซีดเผือด รอบดวงตาสีแดง ภายในดวงตาก็มีความละอายใจ และก็มีความโล่งใจที่สลัดตนเองที่เป็นภาระออกไปได้
เย็นหงเจ้าคนโง่……
หลานเยาเยาหัวเราะเล็กน้อย พูดหยอกนางอย่างน่าสนใจ
“เลือดของเจ้าคนเดียวมันพอให้พวกเราสามคนดื่มที่ไหน?” เมื่อเห็นเย็นหงหน้าซีด นางก็พูดต่อว่า “อีกอย่าง เจ้าคิดว่าข้านั้นน่ารังเกียจเหมือนกับฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าหรือ ที่เมื่อตกอยู่ในสภาพที่อับจน ก็ต้องสละชีพคนอื่นเพื่อให้ตนเองได้อยู่ต่องั้นรึ?”
“มิใช่ ข้าน้อยไม่ได้หมายความเช่นนั้น เทพธิดา ท่านเป็นคนคิดการใหญ่ ไม่ควรที่จะติดอยู่ในทะเลทราย ข้าน้อยเต็มใจสละเลือด”
เย็นหงร้อนรน
นางรู้ว่าเทพธิดาไม่ใช่คนแบบนั้น นางแค่ต้องการถวายเลือดตนเองให้เทพธิดา
“ดูท่าทางเจ้าร้อนรนสิ ข้าแค่ล้อเล่นเพื่อสร้างบรรยากาศบันเทิงเล็กน้อย”
หลานเยาเยายื่นมือไปผลักแขนของเย็นหงกลับไป และตบๆปลอบใจ มองไปยังทิศทางที่ภาพลวงตาหายไป พูดเรียบๆว่า:
“ฟ้าย่อมมีทางออกให้คนเราเสมอ ความหวังก็มีอยู่เสมอ”
พูดถึงตรงนี้ เย็นหงก็ก้มหน้าลงเงียบๆ น้ำตาที่หยุดอยู่ตรงเบ้าตาก็ไหลลงมา
ทั้งกลุ่มค่อยๆออกเดินทางอีกครั้ง
ตอนนี้ หลานเยาเยาและส้งเย่นกุยเดินเคียงข้างกัน ส้งเย่นกุยที่พูดน้อยมาตลอด หันหน้ามามองหลานเยาเยา และพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาว่า
“ก็รู้อยู่ว่าเป็นภาพลวงตา แต่ยังให้ความหวังคนอื่น หลังจากทำลายความหวังไปแล้วก็ยังมีกระจิตกระใจมาล้อเล่น เทพธิดา ข้าประหลาดใจเล็กน้อยว่า เรื่องอะไรที่ทำให้ท่านควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำให้อารมณ์ไม่ดี?”
สายตาของหลานเยาเยาจ้องไปที่หน้าของส้งเย่นกุยสักพัก
ก็นึกถึงฉากผู้ชายคล้ายกับเทพบุตร ใช้สายตาเย็นชาที่สุด จับกระบี่ยาวอันเย็นเยือกแทงมาที่นาง และผลักนางตกหน้าผาให้หนอนพิษกู่นับหมื่นกัดกิน……
นางอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเล็กน้อย
การถูกฆ่าโดยคนที่รัก นางไม่อยากที่จะลองอีกครั้ง
“คาดว่าชีวิตนี้คงไม่แล้วหล่ะ” หลานเยาเยายกยิ้มเบาๆมุมปาก
“ไม่เห็นอนาคต อนาคตอาจจะไม่ได้เป็นดังที่หวัง”
“หมายความว่าอย่างไร?”
หลานเยาเยาสังเกตเห็นความหมายที่แฝงในคำพูดของส้งเย่นกุย ดวงตาก็หรี่ลงทันทีจ้องมองสีหน้าของเขา
“ไปเถอะ! ด้านหน้ามีโอเอซิสอยู่แอ่งนึงจริงๆ” เพียงแต่ว่าไม่ได้อยู่ในทิศทางที่ภาพลวงตาปรากฏขึ้น
พูดจบ!
ส้งเย่นกุยเดินนำไปก่อน
หลานเยาเยาเก็บความสงสัยในใจไว้ มองด้านหลังแว็บนึง และรีบตามขึ้นไป