บทที่ 531 จิตใจตรงกัน แก่ชราด้วยความรวดเร็ว
—
ในช่วงนาทีที่หลานเยาเยากระโดดลงไปนั้น หลานเยาเยาตัวจริงได้เฝ้ามองอยู่ด้านข้างอย่างเย็นชา
นางไม่ได้หยุดยั้งตัวเองที่กระโดดลงไปในภาพลวงตา เพราะนางรู้ ตัวเองเสียดายชีวิตขนาดนั้น จะสามารถกระโดดลงไปตายอย่างง่ายดายได้เช่นไร?
ยิ่งไปกว่านั้น นางรู้ว่าตัวเองในภาพลวงตาหลังจากนั้นจะต้องมีความรักกันกับฮ่องเต้ หลังจากที่ฮ่องเต้ได้ทำสงครามใหญ่กับศัตรูจากนอกแผ่นดิน ขณะที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ทำการรักษาจนแทบตาย นางคิดปรุงยาอายุวัฒนะโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น คิดต้องการอยู่กับฮ่องเต้นิรันดร
ที่สุดหลังจากนั้น นางประสบความสำเร็จแล้ว
แต่ก็นำพาการแย่งชิงมาให้แผ่นดินใหญ่ผืนนี้ไม่รู้จักจบจักสิ้น สุดท้ายก็จบชีวิตทั้งคู่ กลายเป็นต้นบุพเพ
เสียงพิณของจิ่วเซียวหวงเพ่ยเวลานี้ได้หยุดแล้ว หลานเยาเยาตื่นจากภาพลวงตา สภาพจิตใจหนักหน่วงไร้ที่เปรียบ
ที่แท้ตัวเองไม่ได้ข้ามเวลาแค่ครั้งเดียว
แต่ตัวเองก็ยังเป็นตัวเอง จากนิสัยที่สุดขีดของฮ่องเต้ นางจะชอบเขาได้อย่างไร?
อาจจะเป็นเพราะในใจมีแต่เย่แจ๋หยิ่งเป็นเหตุ นางไม่อยากรู้เรื่องราวที่ผ่านมาของฮ่องเต้กับตัวเองเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ใช่ร่างกายเดียวกัน นางก็ไม่ยินยอมจะพบเห็น
เฮ้อ……
นางถอนหายใจเบาๆ
เอาจิ่วเซียวหวงเพ่ยวางไว้ด้านข้าง เงยหน้าก็เห็นส้งเย่นกุยยืมอยู่ด้านหน้าของตัวเอง ในมือถือขาหมูจานหนึ่ง มองดูนางด้วยแววตานิ่งเฉย มีอารมณ์แปลกประหลาดในดวงตา
แววตาที่นางมองเขาเปลี่ยนไปแล้ว……
เปลี่ยนเป็นลักษณะที่เขาเคยไม่ชอบ แต่ก็เป็นลักษณะท่าทีที่เขาหวังจะได้เห็นเป็นที่สุด
“เจ้า……”
หลานเยาเยาสลัดความทรงจำภาพลวงตาที่ได้ประสบเมื่อครู่ทิ้ง เอียงศีรษะเลิกคิ้วเล็กน้อยมองดูเขา กล่าวหยอกล้อว่า : “เรียกเจ้านายออกมาให้ฟังสักคำ?”
ได้ผ่านความทรงจำภาพลวงตาเมื่อครู่ นางมั่นใจอย่างแน่นอนแล้วว่าส้งเย่นกุยเป็นใคร
มิน่าล่ะวิชาการรักษาของเขาถึงได้เหมือนกับนาง……
มิน่าล่ะเขาถึงสามารถเอาอาหารที่นางเก็บไว้ในช่องว่างที่ระบบรักษาออกมาได้อย่างง่ายดาย……
มิน่าล่ะเขาไม่เหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ต้องกินดื่มขับถ่าย เพียงเพราะว่าเขาไม่ใช่คน แต่เป็นเจ้าระบบที่ปลูกฝังอยู่ในจิตใจของนางหยั่งรากลึกลงไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณของนาง
หากบอกว่าก่อนหน้าที่ยังไม่ได้เจอส้งเย่นกุย เสียงพูดคุยแรกเริ่มของระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บในสมองเป็นเหมือนกับกลไก หลังจากนั้นจากการเลื่อนขั้นของระบบทีละขั้นทีละขั้นแปรเป็นความเป็นมนุษย์ แม้ว่าจะมีความสามารถในการจัดรวมคำของตัวเอง แต่สุดท้ายสิ่งที่เป็นเหมือนจิตวิญญาณขาดหายไป
และสิ่งของที่ขาดหายไป ก็คือส้งเย่นกุยในตอนนี้
เมื่อทั้งสองพบกัน ห่างกันเป็นสองสามพันปี จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่แน่นอนในการหลอมรวม ดังนั้นหมู่บ้านฝันฮั๋วที่เป็นภาพลวงตา ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บสัมผัสถึงส้งเย่นกุย ด้วยเหตุนี้ก็เหมือนกับที่ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บบอกเองว่า ร่างกายของมันถูกควักจนว่างเปล่าแล้ว
ช่วงเวลาระยะหลังจากนั้นก็เป็นเวลาที่ส้งเย่นกุยและระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บหลอมรวมกัน
“เจ้านาย”
ส้งเย่นกุยเรียกออกมาคำหนึ่งอย่างเก้ๆกังๆ
หลานเยาเยากลับส่ายศีรษะ กล่าวอย่างจับผิด : “กริยาการแสดงออกไม่ถูกต้อง”
ส้งเย่นกุยกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในพริบตา จากนั้นก็กัดฟันคุกเข่าข้างหนึ่งลงที่พื้น กล่าวด้วยท่าทางสีหน้าที่จริงจัง :
“ข้ามาช้าไปแล้ว เจ้านายของข้า”
“เอ๊ เชื่อฟังขนาดนี้ ในระบบมีรูปแบบอะไรทำให้เจ้าได้รับการควบคุมจากข้าใช่หรือไม่?” หลานเยาเยาค่อนข้างสงสัย
ไม่เช่นนั้น จากความสามารถของส้งเย่นกุยในตอนนี้ ไม่ต้องฟังคำสั่งหรือได้รับการควบคุมจากนางโดยสิ้นเชิง
ได้ยินดังนั้น!
ส้งเย่นกุยเงยหน้าอย่างตกตะลึง จากนั้น ในดวงตามีประกายวาบผ่าน ทันใดนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นมาก
ดูเหมือนว่าความทรงจำยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างสมบูรณ์ เขายังต้องอดทนอีกระยะหนึ่งแล้ว
ด้วยเหตุนี้ รีบตอบกลับทันที : “ไม่มี ไม่มีแน่นอนขอรับ”
“เช่นนั้นเกิดอะไรขึ้นกับอุกกาบาตก้อนนั้นที่วางอยู่ที่ห้องหนังสือ?” ดูท่าแล้วส้งเย่นกุยกลัวมันมาก
หรือว่าเมื่ออุกกาบาตออกมา สติที่สงบของส้งเย่นกุยก็รวนขึ้นมาทันทีแล้ว?
กำลังคิดทดสอบ ทันใดนั้นทั้งพื้นผิวก็สั่นไหวขึ้นมา ดั่งเช่นแผ่นดินไหวเช่นนั้นสั่นไหวเป็นอย่างมาก
หลานเยาเยา : “นี่เกิดอะไรขึ้น?”
ส้งเย่นกุยแววตาคิดหนัก น้ำเสียงเคารพเป็นที่สุดแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา : “กลไกทางเข้าวังทองถูกฝืนทำลายแล้ว”
ฝืนทำลาย?
ดูเหมือนว่าราชครูเทียนเวิงพวกเขาถึงแล้ว
หลานเยาเยายืนขึ้นมาทันที โบกมืออย่างไม่ได้ตั้งใจ จิ่วเซียวหวงเพ่ยหายไปต่อหน้านางในพริบตา ทำให้ฝีเท้านางชะงักลง
ความรู้สึกคุ้นเคยและทั้งแปลกประหลาดชนิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัวใจ
ข้อตกลงของจิตวิญญาณ
จิตใจตรงกัน
สามสี่คำนี้ปรากฏขึ้นในสมองชั่วพริบตา นางสามารถรับรู้ความคงอยู่ของช่องว่างที่ระบบรักษา อีกทั้งความรู้สึกรุนแรงเป็นพิเศษ และเห็นสิ่งของที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจน
ช่องว่างใหญ่ขึ้น ระดับสูงขึ้น ราวกับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด แม้แต่ระบบเองก็ได้เลื่อนขึ้นเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดแล้ว เหมือนดั่งโรงพยาบาลล้ำสมัยแห่งหนึ่งได้ติดตั้งอยู่ในสมอง
ระหว่างที่ดีอกดีใจ หลานเยาเยาเหลือบมองส้งเย่นกุยแวบหนึ่ง
“พวกเราจิตใจตรงกันแล้ว”
นี่คือผลลัพธ์จากการเลื่อนขึ้นครั้งสุดท้ายของระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เพียงแค่จิตใจตรงกัน และไม่ว่าร่างกายนางอยู่ที่ใด เพียงแค่จิตวิญญาณของนางยังอยู่ ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บก็จะติดตามนางไปนิรันดร์
จากตรงนี้ เห็นได้ว่า
การข้ามเวลาครั้งแรกของนาง ได้ทำการเลื่อนขั้นขั้นสูงสุดสำเร็จทั้งหมดอย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นนางข้ามเวลามาอีกครั้ง ในสมองยังคงมีระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บอยู่
“ขอแสดงความยินดี……”
คำพูดยังไม่ทันจะพูดจบ
สีหน้าส้งเย่นกุยที่ดีใจแทนนาง สลดลงด้วยความเร็วที่ดวงตาสามารถเห็นได้ ฉับพลันนั้นสายตาได้ตกมาอยู่บนเส้นผมของหลานเยาเยา
ผมดกดำเป็นประกาย เส้นผมงดงามดำดังหมึก ปรากฏเป็นสีเงินขึ้นสองสามปอยทันใด อีกทั้งค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาว……
“ทำไมหรือ? บนหัวของข้ามีสิ่งของ?”
หลานเยาเยาสังเกตได้ถึงความหนักใจในแววตาของส้งเย่นกุย ด้วยเหตุนี้ได้ลูบผมของตัวเอง เหมือนว่าไม่ได้มีอะไรแปลก
นาทีที่มือวางผมลงนั้น นางชะงักในทันที
มือ……
มือของนางเปลี่ยนเป็นเหี่ยวย่นขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? สูญเสียลักษณะขาวละเอียดนุ่มนวลไปแล้ว เฉกเช่นหญิงชรา
ระหว่างที่ตกตะลึง นางรีบยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้น เข้าไปในตายังคงเป็นมือที่แก่ชราข้างหนึ่ง
ฉับพลันนั้นก็นึกอะไรได้ หลานเยาเยารีบลูบใบหน้าของตัวเอง
“ใบหน้าของข้าด้วยใช่หรือไม่……” เกิดรอยย่น เปลี่ยนเป็นลักษณะของคนแก่?
นางควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว
แม้ว่าร่างกายนี้จะมีชื่อเดียวกันนามสกุลเดียวกันและกรุ๊ปเลือดเดียวกันเข้ากับจิตวิญญาณของนางได้ เวลานานไป การเลื่อนขั้นระบบถึงขั้นสุดท้ายก็จะทนรับไม่ไหว แก่ชราไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งเสียชีวิต
“ไม่มี ยังคงงามหยาดเยิ้มเป็นที่สุด งดงามราวเทพธิดาขอรับ”
“ตึ่ง……”
สั่นไหวรุนแรงขึ้นแล้ว เชิงเทียนทองคำอันหนึ่งหล่นลงพื้น ส่งเสียงดังแสบหู ดึงอารมณ์ที่ตกต่ำอย่างอธิบายไม่ถูกของหลานเยาเยาให้เข้าลู่เข้าทาง
“จื่อเฟิงและเย็นหงจะเกิดเรื่องหรือไม่? ?”
ส้งเย่นกุย : “อากาศด้านในไม่เหมาะสมให้คนนอกฟื้น ดังนั้นจื่อเฟิงและเย็นหงถึงได้สลบไม่ฟื้นโดยตลอด ตอนนี้กลไกทางเข้าได้ถูกฝืนทำลาย อากาศด้านนอกค่อยๆผสานกับอากาศข้างในนี้ พวกเขาสองคนจะฟื้นขึ้นในไม่ช้าขอรับ”
กลไกทางเข้าคือเมื่อพันปีก่อน เหลือไว้ สติปัญญาของคนโบราณล้ำหน้ากว่าคนตอนนี้มาก กลไกที่พวกเขาติดตั้งโดยธรรมชาติไม่สามารถที่จะหาพบและทำลายได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้ได้ถูกฝืนทำลาย เห็นได้ว่าคนเหล่านั้นได้ทุ่มเททุกอย่างไม่ว่าจะต้องชดใช้ด้วยสิ่งใด
“ไป พวกเราไปหาพวกเขาสองคนก่อน ค่อยไปต้อนรับศัตรู”
“ขอรับ!”
ทั้งสองคนไปที่ห้องโถงใหญ่อย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปยังวังที่จื่อเฟิงพวกเขาอยู่
รอจนพวกเขาถึง เพิ่งเหยียบเข้าวังก้าวหนึ่ง ดาบที่แหลมคนสาดแสงเย็นยะเยือกเล่มหนึ่งโจมตีมาทันใด หลานเยาเยาเอียงตัวหลบ คว้าด้ามจับของดาบที่แหลมคม
“หยุด จื่อเฟิง เป็นข้า”
ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย จื่อเฟิงจึงได้เก็บดาบที่แหลมคมกลับ มองดูหลานเยาเยาอย่างตกตะลึง ในตาเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ
จากนั้นก็โกรธเกรี้ยวอย่างฉับพลัน ชี้ดาบตรงไปยังส้งเย่นกุย ตะโกนอย่างเย็นชา :
“เจ้าทำอะไรกับนาง?”