บทที่ 548 เจ้า……คนโกหก
ราชครูเทียนเวิงมองพวกเขาอย่างเย้ยหยัน เหมือนมองกลุ่มตัวตลก หลังจากที่หยุดหัวเราะ ก็พูดเสียงอึมครึมน่าสะพรึงกลัวว่า:
“พวกเจ้าคิดว่าพวกเขาตายไปแล้ว ข้าก็จะเหลือแต่ทางตายแล้วรึ? น่าขัน ในมือข้านั้นยังมีไพ่ที่สำคัญที่สุดอยู่อีกใบหนึ่ง”
พูดจบ!
ราชครูเทียนเวิงหัวเราะน่าสะพรึงกลัว หยิบขวดเล็กออกมาจากอ้อมแขน ขวดนั้นโปร่งแสง ด้านในมีหนอนที่เป็นสีม่วงทั้งตัว รูปลักษณ์น่ารังเกียจ ตัวอ้วนเงอะงะ คดเคี้ยวอยู่ในขวดไปมา
หนอนแบบนั้นแค่มองก็เป็นสัตว์ที่มีพิษที่สุด
เห็นดังนั้นหลานเยาเยาก็หรี่ตามอง หนอนชนิดนี้นางเคยพบร่องรอยบนหนังสือ หรือทุกแฟ้มเอกสารในการเปิดระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ถึงขนาดกับมาที่แผ่นดินใหญ่นี้ นางเคยสัมผัสมันครั้งนึง
หนอนชนิดนี้เป็นพวกเดียวกับหนอนพิษกู่ สามารถควบคุมสมองคนได้เหมือนหนอนพิษกู่
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนก็คือ มันไม่สามารถทำให้คนกลายเป็นศพเดินได้ สูญเสียสติสัมปชัญญะ เชื่อฟังอย่างไร้ความคิดแบบหนอนพิษกู่
แต่จะทำให้สติสัมปชัญญะของคนยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ ขยายความอยากสังหารในใจไม่มีสิ้นสุด จนกลายเป็น ฆาตกรกระหายเลือด
ถ้าเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่ากลัว ที่น่ากลัวกว่าก็คือ หนอนพิษกู่สามารถเปลี่ยนความคิดในใจไปได้หมด ตัวอย่างเช่น คนข้างกายที่สนิทที่สุด ก็จะถูกเขาฆ่าในฐานะศัตรูที่เกลียดที่สุด
ตอนนี้หนอนที่อยู่ในขวดบนมือราชครูเทียนเวิงก็คือหนอนพิษกู่ และก็คือหนอนพิษกู่ฝ่างซินตัวแม่ และราชครูเทียนเวิงก็ควบคุมคนที่มีหนอนลูกในร่าง โดยผ่านการควบคุมหนอนแม่
ดังนั้น หนอนชนิดนี้จึงถูกเรียกว่าพิษกู่ฝ่างซิน!
หลานเยาเยามองเย่แจ๋หยิ่งแว็บนึง จากนั้นก็มองราชครูเทียนเวิงทันที
“คิดไม่ถึงว่าหนอนพิษกู่ที่หายไปนานอย่างหนอนพิษกู่ฝ่างซินจะมาอยู่ในมือเจ้าได้ ต้องนับถือจริงๆ”
พอพูดว่านับถือ แต่แววตาของหลานเยาเยามีแต่เพียงความเย็นชา
“เทพธิดา……ข้านั้นควรเรียกเจ้าว่าพระชายาเย่ คิดไม่ถึงว่าข้าที่ไปทั่วทุกสารทิศบนแผ่นดินใหญ่นี้มาหลายปีเช่นนี้ แต่กลับถูกคนรุ่นเด็กหลอกเอาเสียได้ การแกล้งตายสามปีก่อนพูดได้ว่ายอดเยี่ยมมาก”
ในตอนบวงสรวงเทพแห่งสวรรค์ที่เมืองหลวง เขาก็เกือบจะมั่นใจแล้วว่านางคือหลานเยาเยา แต่คนคนนึงไม่ว่าวิชาการรักษาจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใบหน้าให้ตัวเองได้ใช่ไหม?
อีกอย่าง เทพธิดาจะใช่หรือไม่ใช่หลานเยาเยา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก อย่างไรเรื่องที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือยาฉางตาน
ดังนั้นเมื่อครู่ เขาเห็นกับตาว่านางเอายาและผ้าพันแผลออกมาจากกลางอากาศ ก็ยิ่งแน่ใจว่าคือนาง หลังจากแน่ใจแล้ว ก็เข้าใจขึ้นมาทันที
ในเมื่อหลานเยาเยายังไม่ตาย
งั้นสิ่งที่เกิดขึ้นที่หุบเขาจิ้นเมื่อสามปีก่อนก็เป็นเพียงสถานการณ์หนึ่ง
อีกทั้งยังมีผู้ให้เลือด ที่เขามองว่าเป็นลูกศิษย์มาตลอด
เป็นบทเรียนที่โหดเหี้ยมแก่เขาจริงๆ
ในปีนั้นวิชาการควบคุมพิษกู่ถูกทำลายกลางคัน ทำให้เขาโดนแว้งกัด แผนการหลายปีหยุดชะงัก ตัวเองก็เกือบจะอยู่ปรโลกแล้ว
การล่าถอยไปสามปี จะศีลอยู่สามปี ตอนนี้เขากลับมาแล้ว
แต่ว่า……
ดอกกระดูกขาวในทุกๆที่ถูกทำลาย อำนาจที่เขาฝังไว้หลายปีก็ค่อยๆหายไป เขารู้ว่าใครแอบก่อเหตุ
แต่เขาไม่ไปสนใจ อย่างไรเสียงสถานที่เพาะพันธ์ุดอกกระดูกขาวและชีวิตของคนพวกนั้น สำหรับเขาแล้วไม่ได้สำคัญเท่ากับยาฉางตาน
ตราบใดที่ได้ยาฉางตาน ของพวกนี้เขาก็มีเวลาเพาะเลี้ยงไปช้าๆ
แต่ตอนนี้ยาฉางตานยังไม่ปรากฏออกมา และพวกคนรุ่นเด็กต่ำต้อยนั่นก็มาปรากฏตรงหน้าเขา ต้องการจะฆ่าจะแกงเขา เขาไม่ส่งพวกเขาไปสวรรค์ ก็ยากที่จะรายงาน‘น้ำใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา’ของพวกเขา
อ๋องเย่เป็นดาบที่ดี!
เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งเขาจะหักหลัง จึงแอบวางพิษกู่ฝ่างซินให้เขา แต่วันนี้ก็ได้ใช้แล้ว เขารอคอยเรื่องที่กำลังจะเกิดต่อไปมาก
“สามปีก่อนที่ถูกแว้งกัดก็ไม่ได้ฆ่าพวกเจ้า น่าเสียดายจริงๆ แต่วันนี้แม้เจ้าจะติดปีกก็หนีไปไม่รอด พิษกู่ฝ่างซินแล้วยังไง คิดว่าข้ากลัวรึ? ล่อมันออกมาไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้เร็ว”
“ไม่สะทกสะท้านเช่นนี้ ดูท่าทางเจ้าคงจะเดาได้แล้วสิ ว่าหนอนลูกนั้นอยู่ที่ตัวใคร แม้วิชาการรักษาของเจ้าจะเก่งกาจสักแค่ไหน ถ้าคนที่โดนหนอนไม่ยอมให้ความร่วมมือดีๆ เจ้าคิดว่าจะล่อมันออกมาได้หรือ?” ราชครูเทียนเวิงส่งเสียงเฮอะอย่างเย็นชา
ที่นี่มีเพียงเย่แจ๋หยิ่งและราชครูเทียนเวิงที่มีความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ หนอนลูกถูกวางอยู่ในตัวเขา เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัด
สีหน้านางสงบนิ่ง วางมาดเทพธิดา ราวกับว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้สักนิด
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ คนที่เข้าใจนางก็ยิ่งดูออกว่าจิตใจนางไม่สงบ
นางหันไปมองเย่แจ๋หยิ่ง อ้าปากเล็กน้อย พูดไร้เสียงออกมาว่า: มีข้าอยู่ ไม่ต้องกังวล
เย่แจ๋หยิ่งเพิ่งจะพยักหน้า ราชครูเทียนเวิงด้านนั้นก็ใช้แรงเขย่าขวดเล็ก เย่แจ๋หยิ่งก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ มองไปทางหลานเยาเยาด้วยความตระหนกเล็กน้อย พูดเสียงดังว่า:
“ออกไปให้ห่างจากข้าหน่อย”
“เย่แจ๋หยิ่ง……”
หลานเยาเยาจะเดินขึ้นไปช่วยเขา แต่สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป ดวงตาเย็นชาสุดขีด มองสายตาของเขาที่ค่อยๆเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีความแค้นบัญชีเลือดต่อกัน “ข้าจะฆ่าเจ้า!”
พูดจบเย่แจ๋หยิ่งก็แฉลบตัวไป
ในใจก็ได้เตรียมป้องกันไว้อยู่แล้ว ดังนั้นในตอนที่เขาแฉลบตัวมา นางก็หลบแล้ว หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พัวพันจนเป็นหนึ่งเดียว กำลังภายในของทั้งสองเกือบจะมีฝีมือพอๆกัน คนนึงก็ฆ่าอย่างไม่ลังเล คนนึงก็มีกระบวนท่าแปลกประหลาด
หลังจากที่พวกเย่หลีเฉินเห็น แต่ละคนก็ต่างสับสน
จะขึ้นไปช่วย?
หรือขึ้นไปไกล่เกลี่ยให้เลิกทะเลาะ?
ส่วนราชครูเทียนเวิงที่เห็นกระบวนท่าของหลานเยาเยา ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตา
คิดไม่ถึงว่านอกจากนางจะครอบครองระบบขั้นสูงแล้ว ยังเคยเป็นทหารพิเศษอีก มิน่าหล่ะถึงมีสถานการณ์อันตรายหลายต่อหลายครั้ง
แต่ว่าแล้วจะยังไง?
ทหารพิเศษจะสามารถสู้กับซอมบี้คนที่มาจากช่วงสุดท้ายของประวัติศาสตร์ได้หรือ?
ดังนั้นขวดที่ใส่หนอนแม่ในมือของราชครูเทียนเวิงยิ่งสั่นก็ยิ่งแรงขึ้น ยิ่งสั่นก็ยิ่งเร็วขึ้น ส่วนเย่แจ๋หยิ่งก็ยิ่งดูดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ
แต่ที่ทำให้ราชครูเทียนเวิงสงสัยก็คือ ที่เย่แจ๋หยิ่งกับหลานเยาเยาสู้กันนั้นฝีมือกลับสูสีกัน ถึงขนาดกับมีกำลังภายในที่ไม่ต่างกันมาก
นี่ทำให้เขานึกนึงคลื่นข่าวลือในเมืองหลวงขึ้นมาทันที:
อ๋องเย่สูญเสียกำลังภายในไปครึ่งหนึ่ง
ดูท่ากำลังภายในครึ่งหนึ่งที่เสียไปคงจะให้หลานเยาเยา แน่นอนว่าคนรักกัน อะไรก็ต้องยอมทำเพื่ออีกฝ่าย
แบบนี้ก็เหมาะสม เห็นพวกเขาทั้งรักทั้งฆ่า นั้นถึงจะเรียกว่าสุขใจ
เพียงแต่ในตอนที่แฉลบตัว ก็มีร่างนึงวิ่งอุตลุดมาตรงหน้า เดิมคิดว่าเพื่อนคนอื่นที่มากับหลานเยาเยา ต้องการจะโจมตี แต่พอจ้องดู กลับพบว่าเป็นเย่แจ๋หยิ่ง
ดูเหมือนเขาจะถูกหลานเยาเยาตีถอยมาตรงนี้
ทันใดนั้นก็เก็บมือกลับมา เขย่าขวดในมือแรงขึ้น
คิดไม่ถึงว่า……
จู่ๆเย่แจ๋หยิ่งจะหันตัวกลับมา และลงฝ่ามืออันรุนแรงไปที่เขา
“พู่ว!”
เลือดพ่นออกมาจากปาก
ราชครูเทียนเวิงถอยหลังไปสองสามก้าว มองเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดของตัวเอง มารู้ตัวอีกทีฮ่องเต้มองไม่ใช่เพราะเย่แจ๋หยิ่งอาฆาตจนเกือบเป็นบ้า มีเพียงอ๋องเย่ที่เย้ยหยันเขาด้วยรอยยิ้มที่ไม่เหมือนยิ้ม
“เจ้า……”
ราชครูเทียนเวิงหันกลับไปมองหลานเยาเยาทันที แต่กลับเห็นนางยกมุมปาก มองเขาด้วยสายตาที่เฉียบแหลม เขาคำรามขึ้นมาทันที
“คนโกหก!”
ถูกนางหลอกอีกแล้ว
น่าเกลียดชัง!
หลานเยาเยา วันนี้นางจะต้องตาย แม้ว่าจะสุดแรงแล้วก็ต้องลากนางลงนรกไปพร้อมกัน