หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 551 การประลองฝีมือครั้งสุดท้าย

บทที่ 551 การประลองฝีมือครั้งสุดท้าย

“เจ้าตัดสินใจเรื่องอะไร? บอกข้า ข้าพิจารณาให้เจ้า” เย่แจ๋หยิ่งยังคงยกมุมปาก มองดูด้วยความรักความเอ็นดู

“จะไม่บอกท่าน”

หลานเยาเยารู้ คนชราผู้หนึ่งอายุเกือบร้อยปี ออดอ้อนอยู่ด้านหน้าของหนุ่มน้อยผู้หนึ่งที่สง่างามเกินคนทั่วไป เป็นเรื่องที่น่าขันเรื่องหนึ่ง

แต่เย่แจ๋หยิ่งกลับยิ้มแล้ว

จ้องดูนางอย่างใจเย็น ตั้งใจฟังทุกคำที่นางเอ่ย

หลานเยาเยายื่นมือที่แก่ชราออกไป ลูบใบหน้าของเย่แจ๋หยิ่ง เอ่ยชัดถ้อยชัดคำ

“รับปากข้าเรื่องหนึ่งได้ไหม”

“ได้!”

“เวลาที่ข้าเกิด ท่านไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่น หลังจากข้าตาย ท่านก็อย่าแต่งงานกับคนอื่น? ได้หรือไม่?” ในน้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยการขอร้องเล็กน้อย

เย่แจ๋หยิ่งกุมมือของนาง กำไว้ในมือแน่น

“……อย่าพูดเลอะเทอะ เจ้าจะไม่ตาย”

หลานเยาเยา : “รับปากข้า”

“ได้!” เย่แจ๋หยิ่งสาบานต่อฟ้าทันที : “ชาตินี้ชีวิตนี้ ชาติหน้าชีวิตหน้า ทุกๆชาติ ฟ้าดินเป็นพยาน พระอาทิตย์พระจันทร์ชี้ขาด ข้าเย่แจ๋หยิ่งมีเจ้าเพียงผู้เดียว หากว่าผิดคำสาบาน ไม่ให้มีชีวิตอยู่ต่อ ตกนรกตลอดไป”

น้ำเสียงไม่เร็ว เอ่ยคำชัดเจน ทุกคำล้วนประทับอยู่ในกระดูกของหลานเยาเยาอย่างหนักหน่วง

หลานเยาเยายิ้มแล้ว!

ยิ้มไปยิ้มมาน้ำตาของนางก็ไหลลงหยดหนึ่ง น้ำเสียงสั่นเครือ :

“ข้าก็เช่นกัน!”

“อ๊า ความจริงข้านอกจากจะโปรดปรานอาหารรสเลิศ เงินทองและยาสมุนไพร ยังชอบท่องเที่ยวไปทุกที่ ชมทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาแม่น้ำทั้งสี่ฤดู หากข้าตายแล้ว ท่านไปดูแทนข้าได้หรือไม่?”

พูดจบประโยคนี้

ก็ไม่รอการตอบสนองใดๆของเย่แจ๋หยิ่ง นางผละออกจากมือของเขาโดยตรง จี้จุดของเขา จากนั้นก็ดูท้องฟ้าที่เหมือนหลุมดำแวบหนึ่ง แฉลบตัวไปที่ราชครูเทียนเวิงทางนั้น

“ราชครูเทียนเวิง ข้าสามารถยับยั้งพิษสองชนิดในร่างกายของท่าน และสามารถเปิดกล่องในมือของท่านได้ ยังสามารถเป็นตัวประกันให้ท่านได้อีก พวกเรามาทำการแลกเปลี่ยนกันเป็นอย่างไร?”

ได้ยินดังนั้น!

ราชครูเทียนเวิงก็ฝ่ามือหนึ่งตีจื่อเฟิงออกไป หมุนตัวมองไปทางหลานเยาเยา ในตาไม่มีความดีใจแม้แต่น้อย มีเพียงการจ้องดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน

“คิดอยากจะใช้กลอุบายอะไรอีก?”

เผชิญหน้ากับความแก่ชราหลานเยาเยา ราชครูเทียนเวิงก็ไม่ได้มีกระจิตกระใจที่จะหัวเราะเยาะเย้ย เรื่องที่มีประโยชน์ต่อเขาอย่างมากและไม่ได้มีผลเสีย มีแปดถึงเก้าในสิบที่จะเป็นกลอุบาย

แต่กลอุบายนี้ชั่งล่อใจคนนัก

ถอนพิษ……

ยาฉางตาน……

ก็คือสิ่งที่เขาอยากได้ที่สุดตอนนี้ แม้ว่าจะเป็นอุบาย เขาก็ยินยอมพร้อมใจจะกระโดดเข้าใป อย่างไรเสีย ใครก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าผู้ที่เข้าไปในอุบายจะพลิกเกมได้หรือไม่

หลานเยาเยามุมปากยกขึ้นกล่าวเสียดสี :

“ที่แท้ราชครูเทียนเวิงที่ไร้คู่ต่อสู้บนโลกนี้ก็กลัวข้าหรือ? กลอุบายหนึ่งเท่านั้น ในนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นยาฉางตานร้อยละเก้าสิบเก้าจุดเก้า นั้นเป็นถึงของที่ท่านใฝ่ฝัน ไม่คิดจะลองดูหรือ?”

พูดพลาง หลานเยาเยาลูบเส้นผมที่ห้อยอยู่ตรงด้านหน้า แฝงด้วยความเสียดายเล็กน้อย

“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าหลานเยาเยาเป็นเพียงหญิงผู้อ่อนแอผู้หนึ่ง ตอนนี้ยังจะเหมือนกับท่าน เป็นคนแก่ที่อายุเกือบร้อยปีแล้ว มือเท้าไม่ว่องไว ความสามารถของร่างกายค่อยๆเสื่อม ใกล้ความตายเข้ามาเรื่อยๆแล้ว”

เวลานี้การชักจูงอย่างอดทนได้ผลแล้ว

อย่างไรเสีย!

ความเป็นอมตะก็เป็นจุดอ่อนอย่างเดียวของราชครูเทียนเวิง

ราชครูเทียนเวิงหวั่นไหวแล้ว เขายื่นมือชี้ที่นาง ในตาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง

“ได้ เจ้าเข้ามา” เพราะอยู่ที่นี่จะค่อยๆเสียเวลาจนตาย เดิมพันสักตายังจะดีซะกว่า

มองดูท่าทางของหลานเยาเยา จากความรวดเร็วในการแก่ชราของนางตอนนี้ คาดว่าคงร้อนใจต้องการอยากได้ยาฉางตานมากกว่าเขาสินะ?

“เยาเยา อย่าเข้าไป”

เย่แจ๋หยิ่งที่ถูกจี้จุด พยายามตะโกนเสียงดัง เพิ่มความรวดเร็วในการคลายจุดให้ตัวเอง ตาสองข้างจ้องมองหลานเยาเยาติดๆ กลัวว่านางจะมีการพลาดพลั้ง

นางต้องการทำอะไรกันแน่?

ความคิดหนึ่งแวบผ่านเข้ามาในจิตใจ ทำให้จิตใจของเขาไม่สงบสุข

คนที่เหลือล้วนบาดเจ็บสาหัสทั้งหมด มีที่ถึงกระทั่งล้มอยู่ที่พื้นลุกไม่ได้ พวกเขาแต่ละคนมองดูหลานเยาเยา ไม่รู้ว่านางต้องการทำอะไร และตกตะลึงที่พบการเปลี่ยนแปลงของรูปลักษณ์ภายนอกของนางในตอนนี้

พวกเขาไม่รู้ว่านางต้องการทำอะไร……

เพียงแค่รู้สึกว่าเหมือนจะมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้น แต่กลับไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร?

ต้องหยุดยั้งไหม?

แต่พวกเขาจะเอาอะไรมาหยุดยั้ง?

ทำได้เพียงมองดูเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นอยู่เฉยๆ

ไม่ฟังเสียงตะโกนของเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาไม่กล้าแม้จะหันหน้ากลับมา กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนในชั่วขณะ ทำใจกับการอยู่ด้วยกันครั้งสุดท้ายไม่ได้

นางยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มของเทพธิดาเหมือนที่ผ่านมา แม้ว่าโฉมหน้าจะไม่อยู่แล้ว นางก็ยังคงยิ้มอย่างผ่าเผยงดงาม ไม่มีใครรู้สึกว่าเสียบรรยากาศ แต่กลับเกิดความเศร้ารันทดขึ้น

มาถึงด้านหน้าของราชครูเทียนเวิง นางยื่นมือออกไปให้เขา

“ให้ข้า”

ที่นางพูดคือกล่องในมือของราชครูเทียนเวิง สีหน้าไม่เพิกเฉย แววตาไม่เปลี่ยน ราวกับว่าตอนนี้สำหรับนางแล้วเรื่องทุกอย่างล้วนไม่สำคัญ

แต่ทว่าราชครูเทียนเวิงยังคงระมัดระวัง หดมือที่ถือกล่อง

“เอายาถอนพิษให้ข้าก่อน!” น้ำเสียงเด็ดขาด

หลานเยาเยาถอนหายใจ หัวเราะเบาๆเสียงหนึ่ง

“ก็ได้ ก็แค่ยาถอนพิษเอง!”

มือที่ยื่นออกไปข้างนั้น ไม่ได้เก็บกลับมา แต่ยื่นไว้เช่นนี้ตลอด อยู่ที่ด้านหน้าของราชครูเทียนเวิง อุ้งมือปรากฏยาลูกกลอนเม็ดกลมๆสองสามเม็ดทันใด กลมอวบแวววาว ทันทีที่ดูก็เป็นของที่ล้ำค่าไร้ที่เปรียบ

“ยาอยู่ที่นี่ แต่ว่าไม่ใช่ยาถอนพิษ พิษกู่ฝ่างซินถอนไม่ได้ และพิษที่ท่านโดนเมื่อครู่ หากว่าข้าเดาไม่ผิด ก็ถอนไม่ได้ พวกมันทำได้เพียงยับยั้งสารพิษของยาพิษสองชนิดที่แก้ไม่ได้ไว้ชั่วคราวเท่านั้น”

นี่เป็นความจริง

หลานเยาเยาไม่อยากโกหก และไม่จำเป็นต้องโกหก

มองดูยาลูกกลอนสองสามเม็ดนั้น ราชครูเทียนเวิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ในแววตาเต็มไปด้วยการดูหมิ่น

แน่นอนเขารู้ว่าพิษที่เขาโดนไร้ทางแก้ แต่ สามารถยังยั้งสารพิษได้ชั่วคราวก็ไม่เลว เพียงแค่เขากินยาฉางตาน หลังจากนี้ก็มีเวลามากมายให้คนศึกษาปรุงยาถอนพิษ

“มีระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บก็คือความแตกต่าง เพียงแค่ใช้บนร่างของเจ้าชั่งน่าเสียดายจริงๆ”

ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บในช่วงที่ยังไม่ถึงวาระสุดท้ายของยุคซอมบี้ ก็ได้มีคนศึกษาออกมาแล้ว เพียงแค่ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บแบบนี้สามารถพบได้แต่ร้องขอไม่ได้ บุคคลที่สามารถปลูกถ่ายระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ นอกจากจะต้องมีวิชาการรักษาล้ำเลิศแล้ว ยังจำเป็นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขทั้งหมดของระบบด้วย

ขาดอย่างหนึ่งไม่ได้

ไม่เช่นนั้น……

ทั้งหมดจะเป็นการเสียแรงเปล่า

ในคนหลายพันล้านคนยากที่จะหาออกมาหนึ่งคน คิดไม่ถึงสุดท้ายกลับเสียเปรียบหลานเยาเยาแล้ว

ชั่งน่าเสียดายจริงๆ……

เขาคว้ายาสองสามเม็ดในมือของหลานเยาเยามา หลังจากที่สงบจิตใจ ก็กินลงไป

รอไม่กี่นาที หลังจากที่รู้สึกได้ว่าร่างกายสบายขึ้นมากแล้ว ราชครูเทียนเวิงจึงได้ยิ้ม

เพื่อยาฉางตาน หลานเยาเยาไม่กล้าเอายาพิษให้เขาตามที่คาด

ด้วยเหตุนี้!

เขาหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง ยื่นกล่องในมือไปให้หลานเยาเยาอย่างสบายใจ

“ไม่อยากให้คนในนี้ตาย ดีที่สุดก็เปิดกล่องอย่างเชื่อฟัง อย่าคิดเอาผลประโยชน์ไว้ผู้เดียว ไม่เช่นนั้นผลที่ตามไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะแบกรับได้”

หลังจากกล่าวเตือนอย่างเฉียบขาด ราชครูเทียนเวิงก็ไม่ได้วางใจแม้แต่น้อย ในมือแอบขับเคลื่อนกำลังภายในแล้ว ทันทีที่มีความผิดปกติ หลานเยาเยาจะต้องตายคาที่อย่างที่กำหนดไว้

ในมือที่ได้ทายาน้ำไว้ชั้นหนึ่งแล้ว อีกทั้งหลานเยาเยายังใส่ถุงมือกันยาพิษอีก ถึงได้รับกล่องมา

เมื่อมองอย่างตั้งใจ ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างหนึ่งพวยพุ่งเข้ามาในห้องหัวใจ

หลานเยาเยายกมุมปากขึ้น

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!

หลังจากกดกลไกเล็กๆสองสามกลไกบนกล่องอย่างระวัง ทันใดนั้นก็ปรากฏรูเข็มกลมๆรอบๆกล่อง เข็มเงินแหลมคมที่มีพิษนับไม่ถ้วนยิงออกจากในกล่องโดยตรง

หลานเยาเยายกมือขึ้น เข็มพิษทั้งหมดเหล่านั้นยิงในอากาศ

หลังจากที่คลำอีกรอบ เสียง “กึก” ดังขึ้นเบาๆ หลานเยาเยาเงยหน้าสบสายตากับราชครูเทียนเวิงในพริบตา เวลานี้ราชครูเทียนเวิงก็มองดูนางเช่นกัน

แต่……

มือที่ขับเคลื่อนกำลังภายในสิบส่วนได้โจมตีมาทางนางแล้ว

แต่นางกลับยิ้มมุมปาก โยนกล่องขึ้นสูงไปในอากาศทันที ฝืนรับฝ่ามือที่ถึงแก่ชีวิตไว้

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset