ได้ยินเช่นนี้!
เย่แจ๋หยิ่งมองหลานเยาเยา
บัดนี้ตัวอยู่ชายแดน ด้านนอกมีศัตรูตัวฉกาจ ต่อให้เขาอยากที่จะอยู่ด้วยกันกับคนตรงหน้าตลอดเวลา เขาก็ต้องคิดถึงในระยะยาว
จำเป็นต้องแก้ไขการบุกรุกของข้าศึกก่อน จึงจะสามารถให้ชีวิตที่ปราศจากความขัดแย้งและสงครามกับนาง
จึงเดินไปตรงหน้าของหลานเยาเยาด้วยฝีเท้าที่เร็ว หันหน้าไปทางลม ชายผ้าพลิ้วไหว น้ำเสียงที่กังวานส่งออกมาอย่างช้าๆ
พักผ่อนให้ดี!
อ๋องเย่อยากที่จะเอาหลานเยาเยาแขวนไว้ตรงเข็มขัดไปด้วย เห็นความเหนื่อยล้าตรงหว่างคิ้วของนาง ทนไม่ได้ที่จะให้นางไปๆมาๆกับเขา ทำได้เพียงให้นางไปนอนก่อน กลัวจะเหนื่อยเกินไป
ไม่ว่ายังไงก็หนีไม่รอด
ต่อให้หนีไป ไม่ว่าจะสุดหล้าฟ้าเขียวเขาก็ต้องไปตามกลับมา
“ได้ ท่านไปเถอะ!” หลานเยาเยาพยักหน้า
เดินทางมาก็เหนื่อยมากแล้ว วันนี้ก็ได้รักษาผู้บาดเจ็บไปทั้งวัน นางอยากจะดื่มกินของอร่อย แล้วก็นอนหลับอย่างสบายสักตื่น ก็ไม่มีความต้องการอื่นแล้ว
เมื่อถึงกลางดึก
ห้องที่หลานเยาเยาอยู่ ประตูห้องถูกเปิดพร้อมกับ “เสียงดังเอี๊ยด” ในเสียงที่ระมัดระวังแฝงไว้ด้วยความเร่งรีบ
ก็มีร่างร่างหนึ่ง สวมชุดสีดำ ก้าวเดินด้วยฝีเท้าที่เร็วและเบา เดินไปที่เตียงทีละก้าวพร้อมกับมีดคมในมือ…
ทันใดนั้น!
ร่างที่แข็งแรงได้ทะลุเข้ามาทางหน้าต่าง กลิ้งลงบนพื้น และเข้ามาใกล้เท้าของชายชุดดำในทันที ยื่นมือออกไปใช้อาวุธมีคมในมือของเขาแทงเข้าไปในท้องของชายชุดดำโดยตรง
ท่าทางพลิ้วไหวเหมือนสายน้ำ รวดเร็วและแม่นยำมาก
จากนั้นเขาก็ยืนอยู่ข้างๆ จ้องมองชายชุดดำอย่างเย็นชา เพื่อดูว่าเขาตายแล้วหรือไม่ และถ้าไม่ เขาจะก้าวไปข้างหน้าและแทงซ้ำอีกหนึ่งที
แน่นอน!
ไม่ใช่ว่าชีวิตของชายชุดดำจะไม่แข็งเหมือนกับที่นางคิด
หลังจากถูกแทงที่ท้อง เลือดก็ไหลไม่หยุด คนชุดดำกุมแผลที่ท้องเอาไว้ ฝืนได้ไม่นานก็ล้มลงบนพื้น สิ้นใจในไม่ช้า
เวลานี้!
เทียนในห้องก็ถูกจุดขึ้นมาทันที ทำให้ห้องที่มืดสลัวสว่างขึ้นมาในพริบตา
หลานเยาเยาที่อยู่ในชุดนอน บนไหล่คลุมด้วยเสื้อคลุมสีอ่อนที่นางมักใช้เป็นประจำ เธอยืนอยู่ข้างขอบเชิงเทียน ถือกระดาษจุดไฟไว้ในมือ สายตาจ้องไปที่คนที่ฆ่าชายชุดดำ
คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น
แต่เป็นฮัวหยู่อันที่นิสัยเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล
วันนี้ที่รักษาทหารที่บาดเจ็บนั้น นางก็อยู่ในนั้นด้วย ไม่รู้ว่าจะเห็นกระบวนการทั้งหมดหรือไม่ หลานเยาเยาก็ไม่รู้ แต่นางพอที่จะเดาความคิดที่อยู่ในใจฮัวหยู่อันได้แล้ว
หลานเยาเยาที่เงยหน้ามองนาง
แววตาของฮัวหยู่อันเต็มไปด้วยความสับสน เดิมมีคำพูดจะพูด แต่เมื่อถึงปากก็กลืนมาลงไป
ฮัวหยู่อันก้มหน้าลง หันหลังจะเดินจากไป จากนั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยและทั้งห่างเหินของหลานเยาเยาดังตามหลัง
“เสี่ยวฮัวฮัว!’
เพียงแค่ตัวอักษรไม่กี่ตัวนี้ ก็ทำให้หัวใจของฮัวหยู่อันสั่นไหวโดยตรง
เสียงเรียกที่หายไปนาน จนรู้สึกห่างเหิน กลับทำให้น้ำตาของนางไหลออกมา นางหันหลังกลับมา มองหลานเยาเยาในชุดผู้ชายที่งดงาม ยังคงมีความรู้สึกที่ผสมปนเปอยู่ในใจ
คือหลานเยาเยา……..
แต่ก็ไม่ใช่หลานเยาเยาคนก่อน……….
นางสูงกว่าร่างเก่าที่เคยเป็น ใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหญิงงามของประเทศไม่มีอีกต่อไป แต่เป็นใบหน้าที่กล้าหาญ และสวยงามไม่มีใครเทียบได้
หลานเยาเยาที่ทั้งสวยทั้งหล่อแบบนี้ ทั้งๆที่ดีเหลือเกิน แต่นางก็ยังคงอยากจะร้องไห้
“ทำไมต้องปิดบัง?”
เป็นไปได้ยังไงที่คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาโดยที่ไม่มีเหตุผล การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวง นอกเสียจากว่านางได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากที่ประสบกับการสิ้นหวังมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ ทำให้นางกลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ปีนั้น เจ้าไปตายที่ไหนแล้ว?”
นี่คือคำถามที่ฮัวหยู่อันถามหลังจากที่แน่ใจแล้วว่าคนตรงหน้าก็คือหลานเยาเยา
นางอยากรู้อย่างมาก ว่าหลานเยาเยานั้นประสบกับอะไรมาบ้าง
“การเดินทางไปทะเลทราย ที่เป็นเหมือนพระราชวังลวงตา เราเอาชนะราชครูเทียนเวิงได้ แต่เราก็สูญเสียกองกำลังของเรา สูญเสียผู้คนเป็นจำนวนมาก และสูญเสียกองทัพไปทั้งหมด
ข้าตกลงไปในคลื่นทะเลทราย สลบไปเป็นเวลานาน ข้าคิดว่าชีวิตของข้าก็จะถูกฝังอยู่ในทะเลทรายสีทองแบบนี้
ใครจะไปรู้ สวรรค์เมตตา เป็นอาส้งที่ช่วยข้าไว้ ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไร ตื่นขึ้นมาก็เป็นเช่นนี้แล้ว ต่อให้เป็นเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่าร่างนี้เหมาะกับข้ามากกว่า
เมื่อเทียบกับการข้ามภพที่ไม่เคยได้ยินกันมาก่อน
บางทีการอธิบายเช่นนี้อาจจะทำให้ฮัวหยู่อันรับได้ง่ายกว่า
อย่างไรเสีย!
ส้งเย่นกุยที่ลึกลับคาดเดายาก เดิมก็แปลกมากแล้ว ขอให้เป็นคนต่างก็สามารถมองออก
ประกอบกับที่ฮัวหยู่อันก็รู้จักคนหลายคนที่เคยไปที่ทะเลทรายและรอดชีวิตกลับมา ก็ต้องรู้ความลึกลับของส้งเย่นกุยเป็นธรรมชาติ
แม้ว่าคำพูดของนางจะไร้สาระมากก็ตาม
แต่ก็เป็นคำพูดที่ดีที่สุด ที่สามารถทำให้ฟังยอมรับ
ฮัวหยู่อันรู้สึกเหลือเชื่อ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ นางนึกถึงส้งเย่นกุยที่เหมือนจะแยกตัวจากโลก แล้วนึกถึงตอนที่นางอยู่ในถ้ำคนนอกประเทศที่ใหญ่เท่าภูเขา
ก็เลยเชื่อ!
โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลเรื่องแปลกๆอะไรก็มี ไม่ว่ายังไงขอเพียงมีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว
นางก็ไม่ได้ถามความเจ็บปวดทุกข์ทรมานในนั้นอีก
รู้เพียงว่านางยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้าของนาง
เห็นฮัวหยู่อันไม่พูด
หลานเยาเยาหัวเราะเจื่อนๆ “มันเหลือเชื่อเกินไปใช่มั้ย?”
“นอกจากนี้ก็ไม่มีคำอธิบายที่ดีกว่านี้แล้ว!”
ฮัวหยู่อันเดินไปข้างหน้า มาถึงตรงหน้าของหลานเยาเยา นางอยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของหลานเยาเยา ดูว่าใบหน้านี้ได้แปลงโฉมมาหรือเปล่า
ผลลัพธ์
หลานเยาเยาได้คว้ามือของนางเอาไว้ก่อน วางไปบนแก้มของตัวเอง กล่าวอย่างเรียบเฉย
“เป็นของจริง ความจริงที่ไม่เคยมีมาก่อน”
และแล้วในเวลานี้
ได้ยินการเคลื่อนไหวของคนที่ข้างใน ก็บุกเข้ามา กลุ่มคนพรึบๆพลับๆ เรียงกันเข้ามา เหมือนกับได้นัดกันเอาไว้
พวกเขาบังเอิญเห็นชายหญิงกำลังมีท่าทางที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน
ทุกคนตกใจจนหน้าถอดสี!
เนื่องจากกลุ่มคนที่บุกเข้ามา มีหลายคนที่เป็นแม่ทัพที่สมคบคิดวางแผนเพื่อแยกหลานเยาเยาและอ๋องเย่ออกในวันนี้
ดังนั้นเมื่อเห็นท่าทางหลานเยาเยากับฮัวหยู่อัน แม้แต่ศพชายชุดดำที่อยู่บนพื้นยังถูกละเลยไปแล้ว และสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่คนสองคนที่อยู่ใกล้ชิดกันมาก
“โอ้สวรรค์ คุณชายซ่างกวง กลางคืนดึกๆดื่นๆ พวกเจ้ากำลังทำอะไร?”
แม่ทัพคนหนึ่งหลังจากที่ได้สติ ปรับโทนเสียงให้สูงแล้วตะโกน อยากที่จะให้เสียงนั้นดังเข้าไปถึงในหูของอ๋องเย่
ฮัวอันหยู่ก็ดึงรีบมือกลับมาทันที
เพราะในกลุ่มคนที่บุกเข้ามา นางเห็นร่างที่เหนื่อยล้าจนไม่รับรู้อะไรแล้วร่างหนึ่ง นั่นก็คือคุณชายเหลียงเฉิน
ช่วงเวลานี้คุณชายเหลียงเฉินรับผิดชอบจัดหาเสบียงให้กับกองทัพมาโดยตลอด รวบรวมเสบียงแล้วรีบส่งไปที่ด้าน ก็เพราะกลัวว่าเมื่อด่านเกิดศึกสงคราม แล้วเสบียงจะไม่พอ
มันเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก โม่เหลียงเฉินไม่อยากให้ฮันหยู่นางอันต้องมาลำบากกับเขา
แต่คิดยังไงก็คิดไม่ถึง
คืนนี้เขาเพิ่มจะส่งเสบียงมาถึงที่ชายแดน ก็ได้ยินว่านางก็มาถึงที่ชายแดนแล้ว ก็ดีใจเป็นอย่างมาก ไม่แม้กระทั่งที่จะพัก ก็เพื่อจะมาเจอนางโดยเร็ว
แต่ใครจะไปรู้……..
สิ่งที่เห็นคือภาพแบบนี้
นางกลับชอบซ่างกวงหนานซู่ ผู้ชายคนที่เพิ่งจะรู้จักได้ไม่นาน
มันทำให้โม่เหลียงเฉินสะเทือนใจมาก
เหมือนหัวใจถูกแทงด้วยมีด แล้วใช้มีดกรีดที่หัวใจของเขา ทำให้เขาเจ็บจนเกือบจะหยุดหายใจแล้ว
โม่เหลียงเฉินหันหลังทันทีและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว อยากจะหลีกหนีสถานที่ที่ทำให้หัวใจเขาสลาย กลับพบว่าในสมองได้บันทึก ภาพมือคู่นั้นของฮัวหยู่อันที่ไม่เนียนละเอียดแล้วแต่ยังคงขาวบอบบาง กำลังสัมผัสใบหน้าที่งดงามของชายหนุ่มอย่างเสน่หา
ตอนนี้เวลานี้โม่เหลียงเฉินถึงจะเข้าใจอย่างแท้จริง
เมื่อเทียบกับการได้เห็นฮัวหยู่อันที่ทำร้ายตัวเอง มีแต่ความคิดที่อยากจะแก้แค้นอย่างเดียว ทำให้เขาทั้งเจ็บปวดทั้งละอายใจและโทษตัวเอง
ตอนนี้มันยิ่งกว่าเอาชีวิตของเขาเสียอีก!