หลานเยาเยาพยักหน้า
นางก็สังเกตได้ เอาความคิดในใจพูดออกมา ดูว่าความคิดเหมือนกับเย่แจ๋หยิ่งหรือไม่ “ราวกับว่าพวกเขาร้อนใจเป็นอย่างมาก”
“อืม!” เย่แจ๋หยิ่งก็พบจุดนี้แล้ว
แต่เพราะว่าจุดนี้ เย่แจ๋หยิ่งกลับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ก็กลัวว่าการเข้าบุกรุกครั้งหน้าของพวกเขา จะเร็วมากกว่าที่พวกเราคิดไว้ หากว่าเป็นเช่นนั้น อาวุธโบราณอีกมากมายของพวกเรายังมีไม่เพียงพอ”
เห็นระหว่างคิ้วที่งดงามของเย่แจ๋หยิ่งมีความกังวล หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปตกอยู่ระหว่างคิ้วของเขา ค่อยๆทำคิ้วที่ขมวดลึกของเขาให้ราบเรียบ
“ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง จะต้องมีหนทางแก้ไขได้ ก่อนที่เรื่องจะเกิดอย่าเพิ่งกังวลเมื่อประสบปัญหาจะต้องมีทางแก้เสมอ พวกเราทุ่มสุดความสามารถก็ได้แล้ว หากสุดท้ายยังไม่สามารถหยุดยั้งคนจากนอกแผ่นดินได้ ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยถึงจะตายพวกเราก็ได้อยู่ด้วยกัน”
เย่แจ๋หยิ่งมองดูหลานเยาเยาอย่างลึกซึ้ง มุมปากยกขึ้น เบาๆ “อืม”เสียงหนึ่ง ทันทีจากนั้นจุ๊บลงไปที่คิ้วของนางเล็กน้อย
หลานเยาเยายิ้มแล้ว
และมือสองข้างกุมแก้มของเขาเอาไว้ จูบริมฝีปากบางๆที่เย็นของเขาเบาๆ…….
——
เป็นดั่งที่อ๋องเย่คาดการณ์
การเข้าบุกรุกครั้งที่สองของคนจากนอกแผ่นดินเร็วกว่ากำหนด ครั้งนี้ไม่เพียงเร็วกว่ากำหนด แม้แต่สวมสีฟ้า สีเงิน กระทั่งคนจากนอกแผ่นดินที่สวมชุดเกราะสีเหลืองทองก็ปรากฏตัวแล้ว
หากแยกแยะตามสี
สีบรอนซ์แดงคือคนจากนอกแผ่นดินชั้นต่ำที่สุด จากหลักการเช่นนี้ สีฟ้า สีเงิน จนถึงสีเหลืองทอง สีเหลือทองในนั้นคือผู้ปกครองสูงที่สุดของคนจากนอกแผ่นดิน
พลทหารหลากหลายประเภทแต่ละชนิดของคนจะนอกแผ่นดิน ทยอยปรากฏตัวต่อหน้าคนในโลกกระทั้งยังมีสัตว์พาหนะของคนจากนอกแผ่นดินที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
สัตว์พาหนะเหล่านั้นมีจำนวนน้อยมาก ดูดุร้ายเป็นพิเศษ มีเพียงผู้ที่สวมชุดสีเงินและผู้บัญชาการทหารถึงจะมีสิทธิ์นั่งบนสัตว์พาหนะ
นี่คือท่าทีในการส่งทหารทั้งหมดพุ่งเข้าโจมตีของศัตรู
ดูแนวโน้มสถานการณ์เหมือนว่าพวกเขาต้องการจะยึดแผ่นดินใหญ่ผืนนี้ในคราเดียวแล้วเป็นแน่
จากบริเวณรอบๆชายฝั่งของประเทศเชียนหลิงเชื่อมต่อมาถึงบริเวณรอบๆชายฝั่งประเทศก่วงส้าเขตท้องที่นั้น คนจากนอกแผ่นดินกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ทยอยผุดศีรษะขึ้นมาจากผิวทะเล สาวเท้าอย่างเป็นระเบียบ เดินไปทางด้านหน้าทีละก้าวๆ
ริมฝั่งบริเวณรอบๆชายฝั่งอื่นๆ คนจากนอกแผ่นดินก็ทยอยปรากฏตัวขึ้นฝั่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ
แต่ว่า ยังดีที่ปีกข้างของคนจากนอกแผ่นดิน มีคนจากนอกแผ่นดินที่เป็นผู้นำสีเงินเพียงไม่กี่คน และคนจากนอกแผ่นดินสีฟ้าส่วนหนึ่ง มากที่สุดก็เป็นคนจากนอกแผ่นดินสีบรอนซ์แดงแล้ว
ดูเหมือนว่าคนจากนอกแผ่นดินที่ปรากฏตัวตรงบริเวณรอบๆชายฝั่งอื่นๆ ทำเพียงการโอบตีข้าศึกจากทางด้านข้างเท่านั้น จำนวนไม่มากนัก กองกำลังหลักของคนจากนอกแผ่นดินอยู่บริเวณรอบๆชายฝั่งของพรมแดนที่เชื่อมต่อกันของประเทศเชียนหลิงและประเทศก่วงส้าท้องที่นั้น
จากการทำสงครามกับคนจากนอกแผ่นดินครั้งที่แล้ว อ๋องเย่ได้กลายเป็นแกนหลักของการต่อสู้กับคนจากนอกแผ่นดินไปนานแล้ว ตอนนี้ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ ก็เห็นเทพธิดาต้องการเอายาน้ำแต่ละชนิดรวมทั้งอาวุธโบราณที่ได้สร้างขึ้นทั้งหมด ทุ่มเข้าสู่สนามรบทั้งหมด
ฮ่องเต้ทุกประเทศรู้
ครั้งนี้ไม่ได้เพียงแค่สงครามความเป็นความตาย
ยังเป็นถึงสงครามการดำรงอยู่หรือล่มสลายของแผ่นดินใหญ่ผืนนี้อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทั้งหมดล้วนหยิบอำนาจทางการทหารออกมา ให้เย่แจ๋หยิ่งบัญชาการพลทหารม้าของแผ่นดินใหญ่ผืนนี้
เย่แจ๋หยิ่งไม่พูดพร่ำ ตัดสินใจอย่างฉับพลัน
จัดสรรพลทหารม้าในการต่อต้านไม่กี่กลุ่ม นำอาวุธโบราณและยาน้ำที่จัดแบ่งอย่างเท่าๆกันไปต่อต้านคนจากนอกแผ่นดินทางปีกข้าง และทิ้งกองกำลังทหารหลักไว้ด้านหน้ากองกำลังทหารหลักของคนจากนอกแผ่นดิน
ยาน้ำแต่ละชนิดและอาวุธโบราณล้วนหยุดการสร้างหมดแล้ว
ทั้งหมดติดตามเทพธิดา ไปที่สนามรบ นายทหารของราชสำนักทุกประเทศทั้งหมดออกเคลื่อนไหว ขุนนางฝ่ายพลเรือนก็สวมชุดเกราะ กลัวไม่กลัวตาย ยินไม่ยินยอม ทั้งหมดปรากฏตัวอยู่บนสนามรบ
เพราะว่า แผ่นดินใหญ่ผืนนี้ในเวลานี้ ประชาชนแทบจะทั้งหมดล้วนเป็นทหาร
ไม่มีราชสำนัก วงการยุทธจักร ความแตกต่างของดินแดนในอุดมคติ
การต่อสู้ของสนามรบตรงริมฝั่งปีกข้างดังขึ้นแล้ว สนามรบหลักยังคงไม่ได้เคลื่อนไหว ทั้งสองฝั่งล้วนเร่งเพิ่มการรวมตัวกันของพลทหารม้า
ผู้บัญชาการทหารของคนจากนอกแผ่นดิน แวบแรกก็เหลือบเห็นอาวุธโบราณขนาดใหญ่ เขาขมวดคิ้วอย่างหนัก คิดว่าเพราะรู้ว่านั่นคืออาวุธที่ใช้สำหรับพวกเขาโดยเฉพาะ
อย่างไรเสีย!
ยุคแรกพวกเขาก็เคยมีประสบการณ์แล้ว
หลังจากที่เห็นอาวุธโบราณเหล่านี้แล้ว ผู้บัญชาการทหารมองหาอะไรบางอย่างในกลุ่มคนกลุ่มเล็กดั่งมดในพริบตา
แต่ไม่ช้า
เขาก็เอาสายตาชะงักไว้ตรงที่ขี่ม้า บนร่างของเย่แจ๋หยิ่งที่อยู่ในกองกำลังใหญ่ด้านหน้าสุด
ชุดที่สวมใส่นั่น ก็เป็นยุคแรก ฮ่องเต้รุ่นแรกสวมใส่ชุดนั้น
ตั้งแต่ยุคแรกก็เก็บรักษาอยู่ในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บของหลานเยาเยา มันจากการเริ่มทำงานของกุญแจในช่องว่าง และได้ปรากฏขึ้นต่อหน้านางอีกครั้ง
ตอนนี้หยิบเอามาให้เย่แจ๋หยิ่งใส่ พอดีตัวพอดี
ผู้บัญชาการทหารของคนนอกแผ่นดินเอาสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งใดมาทำเป็นพาหนะ อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปด้านหน้า เพียงเพราะว่าห่างไกลเกินไป ไม่มีทางที่จะมองเห็นคนอย่างชัดเจนได้
แต่ชุดเกราะสีทองที่เหมือนกันทั้งตัวนั่น ทำให้ดวงตาของผู้บัญชาการทหารของคนนอกแผ่นดินหรี่ลงจนเป็นเส้นเดียวแล้ว ในแววตายังมีอารมณ์ความไม่สบายใจแวบผ่านในดวงตา
ดูท่าทางแล้ว ยุคแรกได้สร้างผลกระทบที่รุนแรงให้กับคนจากนอกแผ่นดินเช่นกัน
ไม่รู้ว่าพวกเขาจะบันทึกเรื่องเหล่านี้ไว้หรือไม่ ก็เหมือนแผ่นดินใหญ่ผืนนี้ สิ่งต่างๆผ่านการแปรผันอย่างมหาศาล ตำนานของเทพธิดายังคงเล่าสืบต่อกันมา
รวมทั้งบันทึกของคนจากนอกแผ่นดิน ยังคงมีพูดกันอยู่บ้าง เพียงแค่คนที่รู้มีน้อยมากๆเท่านั้น
วันนี้หลานเยาเยาที่อยู่บนสนามรบ สวมชุดสีแดงทั้งตัว และอยู่ข้างกายของเย่แจ๋หยิ่ง
คนจากนอกแผ่นดินมองไม่ชัด
แต่หลังจากที่เคลื่อนออกจากบนร่างของเย่แจ๋หยิ่งแล้ว สายตาก็ตกอยู่บนร่างของหลานเยาเยาโดยตลอด ไม่รู้ว่านึกถึงอะไร ผู้บัญชาการทหารของคนนอกแผ่นดินก็พูดอะไรกับคนนอกแผ่นดินอีกผู้หนึ่งข้างๆที่เหมือนจะเป็นกุนซือ
คนจากนอกแผ่นดินอีกผู้นั้นที่เหมือนจะเป็นกุนซือก็มองมาทางหลานเยาเยาในพริบตา
นาทีต่อมา พาหนะด้านล่างร่างกายของเขาเหมือนจะถูกทำให้ตกใจแล้ว ปลอบอยู่ครู่หนึ่งถึงจะสงบลงมา
แต่ทันทีหลังจากนั้นคนจากนอกแผ่นดินอีกผู้นั้นที่เหมือนจะเป็นกุนซือก็สั่งการอะไรต่อคนด้านข้าง คนจากนอกแผ่นดินข้างๆที่ชุดสีเงินก็มองทางหลานเยาเยาในพริบตา จากนั้นราวกับว่ายกอาวุธทหารในมือ โห่ร้องสองสามที จึงได้กลับคืนเป็นเงียบสงบ
เย่แจ๋หยิ่งมองดูหลานเยาเยา
แล้วมองดูส้งเย่นกุยที่อยู่ด้านหลังของหลานเยาเยานิดหน่อย จากนั้นกล่าวต่อส้งเย่นกุย:
“อีกเดี๋ยวเปิดศึก คุ้มครองนางให้ดี”
“วางใจขอรับ แค่เพียงข้ายังมีลมหายใจ ชีวิตของเจ้านายก็จะต้องไร้ความกังวล”
หลานเยาเยาเลิกคิ้ว
“อย่าทำเหมือนข้าเป็นกลุ่มคนอ่อนแอ วันนี้ข้ามีการเตรียมพร้อมมาแล้ว”
แม้ว่าจะไม่มีกำลังภายใน แต่ฝีมือของนางไม่เลว การเคลื่อนไหวปราดเปรียว อีกทั้งมีอาวุธยาน้ำที่ปลุกเสกไว้ปกป้อง จะไม่ล้มลงง่ายดายขนาดนั้น
นางมองออกเป็นธรรมดาว่าคนจากนอกแผ่นดินสองคนกำลังกระซิบกระซาบกัน ราวกับว่าผู้ที่กำลังพูดถึงก็คือนาง
คือจับเป็นหรือว่าถลกหนัง?
หึ!
นางไม่ได้อ่อนแอซะหน่อย
“ข้าไม่วางใจ!” เย่แจ๋หยิ่งพูดอีกประโยคหนึ่ง
“เอาเถอะ!” หลานเยาเยายอมรับอย่างยินดี
มือผู้บัญชาการทหารของคนนอกแผ่นดินถือใบมีดคมยาวเหมือนดั่งขวานเหมือนดั่งคราดไว้ ชี้ตรงมาทางด้านหน้าอย่างกะทันหัน และพร้อมกับคำสั่งเสียงหนึ่งที่ฟังไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร
คนจากนอกแผ่นดินรวมพลมากกว่าครึ่งหนึ่ง เดิมทีระงับทหารไว้ไม่เคลื่อนไหว ท่าทางเตรียมพร้อมป้องกัน หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารของคนนอกแผ่นดินออกคำสั่งแล้ว พุ่งตรงมาทางด้านหน้าทันที
เย่แจ๋หยิ่งทางนี้ลั่นกลองศึกเสียงดังทันที
“ตึงตึงตึง…….”
ทุกเสียงของกลองศึก คล้ายกับกำลังดังทะลุในจิตใจของเหล่าพลทหาร เดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ เสียงหัวใจเต้นก็ค่อยซ้อนทับกันกับเสียงกลองศึก
นี่คือความรู้สึกในจิตใจที่แท้จริงของเหล่าพลทหารทุกนาย
ด้านหนึ่งคือคนจากนอกแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งเช่นนั้น
ด้านหนึ่งคือสงครามเพื่อความอยู่รอด ไม่รู้ว่าจะมีพรุ่งนี้หรือไม่ กลับยังคงเลือกที่จะเชื่อมั่นและศรัทธาในเทพธิดาและอ๋องเย่อย่างเด็ดเดี่ยว
แต่ความศรัทธาและความเด็ดเดี่ยว
ยังมีความหวาดกลัว พวกเขาไม่ขาดไปสักอย่างเดียว
มองดูคนจากนอกแผ่นดินที่พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เย่แจ๋หยิ่งค่อยๆยกมือขึ้น แต่กลับไม่มีคำสั่งให้ใช้อาวุธโบราณสักที เพราะว่าระดับการยิงยังไม่เพียงพอ
อีกทั้ง……
เขายังมีวิธีที่ประหลาดอีก
ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว คนจากนอกแผ่นดินที่สวมชุดสีบรอนซ์แดงพุ่งเข้ามาเร็วที่สุด ระยะห่างยิ่งใกล้กับพลทหารที่เย่แจ๋หยิ่งเป็นผู้บัญชาการทหารขึ้นเรื่อยๆ ดำทะมึนเป็นผืนใหญ่
แต่เย่แจ๋หยิ่งตั้งแต่เริ่มจนจบก็ยังไม่ได้ออกคำสั่ง
พลทหารทุกคนทำได้เพียงตื่นตัวเตรียมพร้อม กำมีดที่แหลมคมในมือแน่น สายตาเพ่งมองคนจากนอกแผ่นดินที่อยู่ด้านหน้าสุดติดๆ
ในไม่ช้า!
บรรดาพลทหารก็รู้แล้วว่าทำไมอ๋องเย่จึงไม่ออกคำสั่งสักที
เพราะว่า เวลานี้คนจากนอกแผ่นดินที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าสุดเหยียบความว่างเปล่าอย่างฉับพลัน ตกลงไปในช่องกว้างลึกๆทางหนึ่ง แม้ว่าคนจากนอกแผ่นดินจะตัวใหญ่เพียงใด อยู่ในหลุมลึกๆที่ใหญ่มหึมาด้านหน้า พวกเขาก็เป็นมด
นี่คือหลุมพราง……
เป็นอ๋องเย่ออกคำสั่งให้คนขุดร่องตามเส้นริมฝั่งของบริเวณรอบๆริมชายหาดโดยไม่ได้พักผ่อน มันทอดยาวและคดเคี้ยวหมุนวนและขยายออก ไม่รู้จุดสิ้นสุดอยู่แห่งใด มีเพียงคนจากนอกแผ่นดินที่เหยียบขึ้นไป และตกลงไปในนั้นแล้ว ถึงจะรู้ว่าที่คล้ายกับยืดยาวอย่างไร้ที่สิ้นสุด สามารถทำให้คนจากนอกแผ่นดินแยกออกจากโลกภายนอกได้
แน่นอน หากว่าเป็นเพียงเพื่อทำให้คนจากนอกแผ่นดินตกลงไปในร่องลึกที่รูปร่างเหมือนดั่งร่องที่ขุดเพื่อป้องกันข้าศึกเท่านั้น เช่นนั้นก็ไม่ใช่ลักษณะการกระทำของอ๋องเย่แล้ว
เขาจัดพลทหารตั้งค่ายกลคำนวณกลยุทธที่ไม่มีข้อผิดพลาดมาโดยตลอด
หลานเยาเยารู้ว่าวิธีการที่ร้ายกาจของเขาอยู่ด้านหลัง
เป็นดังคาด!
รอกระทั่งคนจากนอกแผ่นดินตกลงไปพอประมาณแล้ว อ๋องเย่ออกคำสั่งเสียงหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าไม่ใช่การจุดไฟ และวางเพลิง
มีคนถือคบไฟที่เปลวไฟร้อนแรง พุ่งเข้าไปด้านหน้าของพลทหารทันที เดินมาด้านหน้าของท่อเหล็กขนาดใหญ่มหึมาที่ถูกฝังใต้พื้น เอาคบไฟอุดเข้าไปทันที คบไฟไม่เพียงไม่มอดดับ แต่กลับเผาไหม้รุนแรงยิ่งขึ้นแล้ว
หลานเยาเยาดมได้กลิ่นแล้ว
เป็นน้ำมันก๊าด!