บทที่ 8 โปรยเหรียญเงิน
หลังจากนั้นไม่นาน ในห้องเหลือแค่หลานเยาเยากับหลานเฉินมู๋
ขณะนี้ฝนฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ หลานเยาเยามองเลือดที่อยู่บนโต๊ะขณะนี้ถูกน้ำฝนชะล้างจนสะอาดแล้ว และมองหลานเฉินมู๋ที่ยืนเปียกฝนอยู่ในห้องใต้สายฝนอีกครั้ง เปิดปากพูด:
“ท่านไม่ต้องกังวล เรื่องของพี่สี่ข้าไม่มีวันพูดออกไปแน่นอน”
เธอรู้จุดประสงค์ที่หลานเฉินมู๋ยังอยู่ ไม่รีรอให้เขาพูด เธอก็พูดออกไปก่อน
“เฮ้อ!เยาเยา ข้าสั่งคนไปตามหมอด้วยตนเองแล้ว ห้องนี้คนอยู่ไม่ได้แล้ว สักครู่ข้าให้คนมาซ่อม เจ้าไปอยู่ห้องฝั่งตรงข้ามชั่วคราวก่อนเถิด!”
ดูเหมือนตรงหน้าจะเป็นลูกสาวที่แปลกหน้าสำหรับเขาแล้ว หลานเฉินมู๋รู้ว่าเป็นความผิดพลาดของเขาถึงเป็นแบบนี้ ภายในใจรู้สึกติดค้าง
“ข้ารู้แล้ว!”
หลานเยาเยาท่าทางอ่อนแรง และไม่อยากสนทนากับเขา
หลังจากนั้นทั้งสองก็เงียบไป!
ในไม่ช้าหมอก็มา หลังจากวัดชีพจรรู้สึกเหลือเชื่อ พูดอีกว่าที่เธอรอดมาได้เป็นเรื่องที่ปาฏิหาริย์
เรื่องนี้ หลานเยาเยาเพียงแค่ยิ้ม
หลังจากหมอจ่ายยา หลานเฉินมู๋ก็ไม่ได้อยู่ต่อ เพียงแค่สั่งคนส่งของบำรุงให้บ้างแล้วเดินจากไป!
หลานเยาเยายื่นมือออกมา มองดูขวดยาขนาดเล็กในมือหายไปในมือของตน ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ผลลัพธ์ของยาที่สามารถทำให้คนหงุดหงิดได้ก็ไม่เลวนี่นา!
คาดว่าหลายวันนี้พวกเธอคงจะไม่มาหาเรื่อง เธอจะได้พักผ่อนรักษาตัว
ผ่านไปสี่วันติด เธอใช้เฉพาะยาในระบบ ยาที่หมอจ่ายเธอไม่แตะต้องแม้นิดเดียว
เช้านี้ สาวใช้คนหนึ่งเพียงแค่ส่งยาอย่างเช่นเคยเสร็จก็เดินจากไป หลานเยาเยาถือถ้วยยาเปิดหน้าตา “ซ่า” เทออกนอกหน้าต่าง
มองดูนอกหน้าต่างที่หลายวันมานี้หญ้าบริเวณที่เธอเทยาก็เฉาตายหมดแล้ว เธอก็ไม่สนใจ
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ส่งยา เธอก็พบว่ายามีปัญหา ในยาถูกคนใส่ยาพิษปนมาด้วย
แต่แค่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของหนิงซื่อ หรือฝีมือของหลานชิวหยุน?
ยังไงซะ!
เธอไม่อยู่ที่จวนแม่ทัพเป็นระยะยาวแน่ เมื่อหาโอกาสที่เหมาะสมได้ก็จะไปจากจวนแม่ทัพ ตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกับหลานเฉินมู๋
ก่อนอื่นใด เธอต้องมีเงินมากพอถึงจะไม่มีความกังวลในภายหลัง
และแล้ว!
เธอแอบปีนกำแพงหลังบ้านออกไปอย่างเงียบๆ
บนถนนมีคนไปมาอย่างไม่สิ้นสุด และครื้นเครงแออัด สองข้างทางคือโรงน้ำชา โรงเตี๊ยม โรงจำนำ โรงงาน
นอกจากนี้ยังมีผู้ค้าขนาดเล็กจำนวนมากที่กางร่มขนาดใหญ่ในพื้นที่เปิดโล่งทั้งสองด้าน ที่กำลังตะโกนเสียงดัง
หลานเยาเยารู้สึกตื่นตาสงสัยกับของสมัยโบราณพวกนี้มาก มีของแปลกมากมายที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เธอมายังที่หน้าแผงลอยหนึ่ง มือถือหวีไม้อันหนึ่ง กำลังจะถามราคา
ทันใดนั้น!
เสียงเกือกม้าดังขึ้น จากที่ไกลเข้าใกล้เรื่อยๆ เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
“จา……”
“จา……”
“จา……”
“……”
มีชายหนุ่มแต่งตัวหรูหราหลายคนอยู่เบื้องหน้าไม่ไกล ขี่ม้าวิ่งอยู่กลางถนน ฝูงชนต่างพาหลบหลีก
อื้อฮือ!
บนถนนคนเยอะขนาดนี้ พวกเขาขี่ม้าแบบนี้ ไม่กลัวเหยียบคนรึไง?
แต่ที่แปลกก็คือ ว่าจะเป็นคนที่เดินอยู่บนถนน หรือร้านค้าแผงลอย ทุกๆ คนก็แสดงออกถึงสีหน้าที่มีความสุข “เถ้าแก่ คนเหล่านั้นที่ขี่ม้าอย่างภาระการอยู่บนถนน lร้างความวุ่นวาย ทำไมพวกท่านถึงดีใจขนาดนี้?”
“แม่นาง เจ้าอย่าขวาง เหล่าคุณชายจะโปรยเหรียญเงินแล้ว!”
เวลานี้เถ้าแก่ไม่มีกะจิตกะใจพูดกับเธอ!สายตามองเพียงม้าแข็งแรงที่วิ่งอยู่ ไม่แม้แต่กะพริบตา กลัวว่าจะพลาดเหรียญเงิน
โปรยเหรียญเงิน?
คือเงินเยอะจนไม่รู้จะใช้ที่ไหนรึไง?
ขณะกำลังคิดเสียง “ตุ๊บๆๆ” ในสมองเหมือนถูกหินจำนวนมากขว้างเข้าใส่ ขว้างใส่เธอเหมือนฝนตก
หลานเยาเยาจับที่หัว พอหันกลับพร้อมกับค่าเสียงดัง: “เจ้าบ้าเอ๊ย ใครตีข้า?”
พอหันกลับก็มีคนจำนวนมากถาโถมเข้ามา และล้วนแต่จะพุ่งเข้าหาเธอ
เธอรู้สึกไม่ดี รีบหลบหลีกและซ่อนไปยังด้านหนึ่ง ได้ยินเสียงบนม้าพูดขึ้นพอดี: “พี่เซียว เหรียญเงินของเจ้าตีโดนแม่สาวน้อยคนนั้นแล้ว ดูสิ นางไม่พอใจด้วย”
เหรียญเงิน?
เดี๋ยวนะ!
‘หิน’ เหล่านั้นที่เพิ่งตีเข้าที่เธอเป็นเหรียญเงินงั้นหรือ?
พอดีตอนนี้เธอกำลังขาดเหรียญเงิน รีบก้มลงมองไปยังตำแหน่งที่เธอยืนเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว เศษเหรียญเงินที่เต็มพื้น เวลานี้ทุกคนกำลังแย่งกันอยู่
หลานเยาเยาดวงตาเปล่งประกาย!
โอ้โห เป็นเหรียญเงินจริงๆ ด้วย!
เธอไม่คิดอะไรมาก รีบเข้าไปในฝูงชน แล้วก้มเก็บเหรียญเงิน
ระหว่างนี้ เหมือนเธอได้เสียงชายหัวเราะอย่างอ่อนโยน และเสียงเกือกม้าที่วิ่งห่างออกไป
หลังจากนั้นไม่นาน!
ในสายตาที่อิจฉาของฝูงชน หลานเยาเยาเก็บเหรียญสิบกว่าตำลึงเข้าที่แขนเสื้ออย่างใจเย็น หลังจากนั้นก็มาที่หน้าแผงลอยก่อนหน้า
“เถ้าแก่ เจ้าเก็บเหรียญเงินได้เท่าไร?”
“ร่างกายข้าไม่คล่อง เก็บได้แค่ไม่กี่สิบหุน”
ถึงจะได้เท่านี้เขาก็ดีใจมากแล้ว เขามองหลานเยาเยาอย่างอิจฉาเล็กน้อย “แม่นาง เจ้าโชคดีจริงๆ เพียงครู่เดียวเก็บเหรียญเงินได้มากขนาดนี้”
มันแน่นอนอยู่แล้ว!
เหรียญน่ะ ถ้าช้าก็อด เธอเป็นถึงทหารแพทย์จากกองกำลังพิเศษ เอื้อมมือได้อย่างคล่องตัวอยู่แล้ว
แต่ว่า……
“ทำไมคนพวกนั้นต้องโปรยเหรียญเงินด้วย?”
“แม่นาง เจ้าน่าจะมาจากที่อื่นยังไม่รู้ คุณชายเหล่านั้นคือคุณชายทั้งเจ็ดแห่งจักรวรรดิ เมื่อกี้เป็นเพียงแค่ห้าคนในทั้งหมด บ้านพวกเขารวยมั่งคลั่ง มีอำนาจมาก บ่อยครั้งเพื่อความสะดวก โปรยเหรียญเงินบนถนนเพื่ออพยพคน ให้สามารถผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว”
อื้อฮือ!
มีเงินก็มักมักเอาแต่ใจ!
“คุณชายทั้งเจ็ดแห่งจักรวรรดิแต่ละคนรูปงามไม่มีที่ติ คนที่เป็นผู้นำเมื่อกี้คือทายาทแห่งจวน เจ้าพระยาซื่อสัตญื ดูสุภาพ ท่าทางอ่อนโยน เป็นหนึ่งในห้าคนเมื่อครู่ที่เพียบพร้อมที่สุด
เสียดาย รัชทายาทที่ขึ้นแท่นอันดับสองไม่มาด้วย มิเช่นนั้นคงเป็นบุญตายิ่ง” หญิงวัยกลางคนที่แผงลอยข้างๆ ก็มารวมสนทนาด้วย
เออ……
……
ราชทายาท?
สวะคนนั้นก็เป็นหนึ่งในคุณชายทั้งเจ็ดด้วย?
อืม ราชทายาทก็ดูรูปงานจริงอย่างว่า แต่นิสัยแย่มากกว่า
“แล้วที่หนึ่งคือใคร?”
พอพูดถึงอันดับที่หนึ่ง ดวงตาของคนสองคนนั้นเปล่งประกายขึ้น ในดวงตาทั้งยำเกรงและกลัว
“หัวหน้าของในคุณชายทั้งเจ็ดเป็นอ๋องแห่ประเทศก่วงส้าของพวกเรา——อ๋องเย่ เขาเป็นที่กึกก้องในสนามรบ ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน แต่เขามีอารมณ์บุคลิกที่เย็นชา และโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาเกินสามก้าว
“แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลก ราวกับเทวดามาจุติ คาดการณ์ไม่ได้ หญิงสาวเพียบพร้อมกี่คนที่เจอเขาก็จะจดจำไปตลอดชีวิต ได้ยินมาว่าอ๋องเย่กลับจักรวรรดิแล้ว ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”
พูดเกินจริงขนาดนี้?
หลานเยาเยาไม่ค่อยเชื่อ เธอรู้สึกอ๋องเย่คนนี้คงเป็นตำนานที่พวกเขาเล่าต่อกันมา โลกนี้จะมีคนแบบนี้ได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามหากเธอเห็นด้วยตาตัวเอง เธออาจจะรู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆ !
จากนั้นก็เข้าใจจากเถ้าแก่ว่า ในจักรวรรดิมีร้านประมูลเสินตู เป็นศูนย์ประมูลที่ใหญ่ที่สุดแห่งประเทศก่วงส้า ข้างในมันมักจะประมูลสิ่งที่หายากและมีค่า
หลานเยาเยาตั้งจะนำเครื่องมือทางการแพทย์บางส่วนไปประมูล ยังไงซะ ที่นี่ก็ไม่มีใครเคยเห็นของในยุคปัจจุบัน
และในของระบบของเธอก็ล้วนแต่จะเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยนี้สุด ขายในราคาที่แพงก็ไม่มีปัญหาแน่นอน
ใครจะรู้……
“รีบไสหัวไป ร้านประมูลเสินตูใช่ว่าหมาแมวจะเข้ามาก็สามารถเข้ามาได้ ดูสภาพจนๆ อย่างเจ้า ยังอยากจะเข้าร้านประมูล?ถุย!”
หลานเยาเยาเพิ่งมาถึงร้านประมูลเสินตูที่ตกแต่งอย่างหรูหรางดงาม ก็ถูกคนร่างกายกำยำที่เฝ้าหน้าประตูขวางไว้ ยังตำหนิเธออยู่ครู่หนึ่ง……
(จบบทนี้)