บทที่ 89 อ๋องเย่ปกป้อง
ใครจะกล้าส่งเสียง?
ถ้าให้เขารู้ว่าตอนนี้พระชายาเขาถูกบังคับให้ทำการแสดงผลที่ตามมาจะเป็นยังไงนะ?
คนที่ออกปากสั่งหลานเยาเยาเมื่อครู่นี้ก็เริ่มนึกเสียใจ
พวกเขาคิดว่าวันนี้อ๋องเย่คงไม่มาแล้ว จะรู้ที่ไหนว่าจู่ๆอ๋องเย่จะมาปรากฏตัวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ นี่คงไม่ใช่จะจับพวกเขาที่ทำอย่างงี้อยู่ใช่ไหม?
อ๋องเย่ก้าวมาช้าๆอย่างราชา พอเขาเดินเข้าไปในห้องโถง สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่หลานเยาเยาที่ยืนอยู่กลางห้องโถง······
เขามายืนอยู่ข้างๆนางแล้วยกมือคำนับฮ่องเต้นั่นก็ถือว่าทำความเคารพแล้ว
ฮ่องเต้ชินกับพฤติกรรมของเขาแล้วก็รีบสั่งให้นั่งลง
ตอนแรกที่ฮ่องเต้สั่งให้นั่งลงก็คือนั่งลงล่างเขา จะรู้ที่ไหนว่าอ๋องเย่ไม่มองที่นั่งนั่นแม้แต่น้อย กลับเดินตรงไปนั่งข้างหลานเยาเยา
หลังจากนั่งลงเขาก็เทชาให้ตนเองแล้วก็จิบแล้วก็พูดขึ้นมาอย่างช้าๆว่า:
“เมื่อครู่ที่อยู่ด้านนอก ข้าได้ยินหลายๆคนอยากให้พระชายาข้าแสดงความสามารถ ไม่รู้ว่ามีเรื่องเช่นนี้หรือไม่?”
เสียงของเขาเย็นชาและน่าเกรงขาม การบีบบังคับที่ไร้รูปร่างเช่นนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก
หมดกัน หมดกัน
อ๋องเย่จะคิดบัญชีแล้ว!
“แจ๋หยิ่ง! เมื่อครู่คุณหนูแต่ละตำหนักและคุณชายก็แสดงความสามารถหมดแล้ว ฮองเฮาก็คิดเพื่อข้าถึงบอกให้เยาเยาเพิ่มความสนุกให้แก่งานเลี้ยงของข้า”
เห็นสีหน้าเย็นชาของเย่แจ๋หยิ่งจนชินแล้วพระราชินีจึงค่อนข้างนิ่ง
แม้เย่แจ๋หยิ่งจะไม่ได้ชื่นชอบฮ่องเต้และฮองเฮานักแต่เขาก็ยังนับว่าเคารพท่านแม่
แม้เขาจะไม่ใช่คนที่นางให้กำเนิดมาแต่ก็เลี้ยงเขาอยู่ข้างกายแต่เด็กเขาจึงยังฟังคำพูดนาง
“สร้างความสนุก?”
เย่แจ๋หยิ่งดูเหมือนกำลังไตร่ตรองคำนี้อยู่ มือนึงเขย่าถ้วยน้ำชาเบาๆอีกมือนึงเคาะโต๊ะเตี้ยเบาๆ ผ่านไปสองสามวิเขาพูดนิ่งๆอีกครั้ง
“ในเมื่อเป็นการสร้างความสนุกให้แก่พระราชินี ฮองเฮาไม่ควรเป็นคนแสดงสร้างความสนุกก่อนหรอ?”
พูดเช่นนี้ออกมาทุกคนก็ทยอยกันหันไปมองฮองเฮา
ใช่สิ!
แม้ฮองเฮาจะเป็นแม่ของแผ่นดิน ภายนอกดูเหมือนจะสูงส่งกว่าหลานเยาเยา พระชายาเย่ผู้นี้
แต่โดยส่วนตัวไม่มีใครรู้ อ๋องเย่มีอำนาจมากจนเกินใครๆ ฮ่องเต้ต้องยอมเขา พระชายาของเขาก็พอๆฮองเฮา
นับแล้วพวกเขาก็ยังคงเป็นความสัมพันธ์แบบพี่สะใภ้น้องสะใภ้
ยิ่งกว่านั้น!
อ๋องเย่พูดมาแล้วฮองเฮาจะกล้าปฏิเสธหรือ?
ครั้งนี้ ฮองเฮาไม่พอใจ: “ข้าเป็นแม่ของประเทศ อ๋องเย่พูดเช่นนี้คิดอยากวางข้าไว้ในสถานการณ์อย่างไร?”
ตลก!
นางเป็นฮองเฮาของประเทศ ยังต้องแสดงให้ขุนนางและบรรดาครอบครัวหรอ?
“งั้นเจ้าอยากวางพระชายาข้าไว้ในสถานการณ์ไหน?”
สิ้นเสียงของเย่แจ๋หยิ่ง ก็เอาชาที่อยู่ในมือคว่ำแรงๆลงบนโต๊ะ
ถ้าน้ำเสียงเมื่อครู่ถือว่าสุภาพ
งั้นน้ำเสียงตอนนี้ก็ชัดเจนว่าไม่พอใจนาง
คนที่ทำให้อ๋องเย่ไม่พอใจมักจะจบลงอย่างน่าสงสาร!
สีหน้าของฮองเฮาซีดเผือด นางมองไปที่อ๋องเย่อย่างหวาดกลัว ถ้วยชาที่อยู่ในมือก็สั่นเล็กน้อย
นางลืมไป!
ไม่ว่าหลานเยาเยาจะได้รับความชื่นชอบหรือไม่ตอนนี้นางก็เป็นคนของอ๋องเย่ แม้จวนอ๋องเย่จะไม่ชื่นชอบนางแต่อ๋องเย่ก็ต้องปกป้องนางแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ดูแล้วอ๋องเย่ดูเหมือนจะชอบนางมาก!
ในสถานการณ์เช่นนี้ นางจำเป็นต้องแสดง แม้เพียงจะเป็นแค่แสดงๆไป
โดยไม่มีทางเลือกใดๆ
ฮองเฮาก็เต้นรำด้วยทักษะธรรมดาๆภายใต้สีหน้าหลากหลายของทุกคน
แต่ทุกคนก็ดูเหมือนปรบมือให้นางอย่างชื่นชม!
เย่แจ๋หยิ่งเอียงตัวไปทางหลานเยาเยาเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “รู้สึกอย่างไร?”
ที่เขาพูดก็คือทักษะการเต้นของฮองเฮา
อันนี้หลานเยาเยารู้อยู่แล้ว
ดังนั้นนางจึงห่อปากพูดอย่างรังเกียจว่า: “อุจาดตา!”
นางไม่รู้ว่าฮองเฮาคิดอะไร?
เห็นๆอยู่ว่าทักษะการเต้นก็ธรรมดาๆ กระโดดก็แปลกๆแต่ยังจะบิดเอวทำท่าทางต่างๆ
ไม่เห็นตาของผู้ชายรึไงว่าจะหลุดออกมาอยู่แล้ว?
แม้แต่ฮ่องเต้ที่ปกติหรี่ตาอยู่แล้วยังต้องก้มหัวลงไป
น่าเกลียดมากจริงๆ!
“อุจาดตา?”
เย่แจ๋หยิ่งไม่ค่อยเข้าใจ
แต่เขารู้ว่าต้องไม่ใช่คำที่ดี
“ก็คือน่าเกลียดที่สุด!”
“อื้ม มีนางอยู่อันดับสุดท้ายอยู่ เจ้าคงไม่ขายหน้าละนะ!”เขาพูดจริงจัง
“เจ้าวางใจเถอะเจ้าก็หนีไม่พ้น”ยังไงสนุกอยู่คนเดียวก็สู้สนุกกันทุกคนก็ไม่ได้!
“หา!”
เย่แจ๋หยิ่งมองแววตาที่ฉายความเจ้าเล่ห์ของนาง อดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัย
นางจะทำบ้าอะไรอีก?
สุดท้ายการเต้นอย่างอยากลำบากของฮองเฮาก็จบลง หยุดทรมานสายตาของทุกคน
“ต่อไปก็เป็นพระชายาเย่แล้ว!”
ในที่สุดฮองเฮาก็กลับมานั่งที่บัลลังก์ของตนเองด้วยใบหน้าที่แดงก่ำจากความอาย
แต่ก่อนนางรักการเต้นรำที่สุดและนางก็เต้นรำออกมาได้ดีที่สุดแต่ตอนนี้กลับดูแปลกแทบตาย ดังนั้นนางจึงพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อให้ออกมาดีแต่สุดท้ายก็พบว่ามันเป็นเพียงการต่อต้าน
นางอับอายต่อหน้าทุกคน!
แต่ว่า!
ไม่เป็นไร
นางเชื่อว่าการแสดงของหลานเยาเยาจะต้องแย่กว่านาง
ขณะนี้ หลานเยาเยายืนขึ้น
นางเดินไปยังกลางห้องโถงเสียงไพเราะก็ดังออกมาจากปากของนาง:
“ข้าจะร้องเพลงให้ทุกคน!”
ร้องเพลง?
ร้องเพลงไม่ใช่มีเพียงนางระบำหรือหญิงโสเภณีที่อยู่ในลานเท่านั้นถึงร้องได้ไม่ใช่หรือ?
“งั้นพวกเราขอเชิญพระชายาเย่มาทำการร้องเพลงแสดง!” สำหรับหลานเยาเยาที่ต้องการร้องเพลง ฮองเฮาแทบจะรอโอกาสที่เกิดยากเช่นนี้ไม่ไหว
หลานเยาเยาต้องการสร้างความอับอายให้ตนเองแน่นอนว่านางต้องปรบมือต้อนรับ!
ใครจะรู้……
หลานเยาเยาพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ข้าจะร้องเพลง
สองสามเพลงให้แก่พวกเจ้า แต่ว่าทุกคนที่นั่งอยู่ต้องให้ความร่วมมือกับข้า ข้าสัญญาว่าจะทำให้ทุกคนได้เล่นอย่างมีความสุข”
เมื่อนางพูดเช่นนี้ ก็มีความอยากรู้ตลบอบอวลไปทั่วห้องโถง!
“พระชายาเย่ เจ้าบอกว่าแม้แต่ฮ่องเต้ก็ต้องร่วมมือกับเจ้าหรือ?”
ฮองเฮาไม่เข้าใจว่าสุดท้ายหลานเยาเยาคิดจะทำอะไร
“ใช่สิ! แม้แต่ท่านอ๋องของข้าก็ต้องร่วมมือ”
เมื่อพูดเช่นนี้ทุกคนก็หันไปมองอ๋องเย่ก็พบว่าอ๋องเย่เพียงแค่ดื่มชาอย่างเนือยๆไม่ได้โต้แย้งอะไร
ดูแล้วอ๋องเย่จะให้ความร่วมมือจริงๆ!
อย่างนี้แล้วทุกคนจะพูดอะไรได้อีก?
อ๋องเย่ให้ความร่วมมือ พวกเขากล้าไม่ให้ความร่วมมือหรอ?
เว้นแต่อยากตาย!
หลังจากนั้นหลานเยาเยาก็ให้ทุกคนนั่งเป็นวงกลม ด้านหน้าทุกคนมีโต๊ะเตี้ยอยู่หลังจากนั้นนางก็หยิบของที่เหมือนถุงผ้าฝ้ายมาทำเป็นกระสอบทราย
พระราชินีอายุเยอะแล้วตอนแรกนางจึงไม่อยากร่วม
แต่หลังจากที่ได้ฟังกฏที่หลานเยาเยาพูดก็มีความอยากลอง หลานเยาเยาเห็นดังนั้นก็ลากนางมานั่งข้างๆฮองเฮา
กฎของการเล่นนี้คือ:
หลานเยาเยาจะยืนหันหลังร้องเพลง กระสอบทรายก็จะเริ่มถูกส่งไป เมื่อเสียงเพลงหยุดกระสอบทรายไปหยุดอยู่บนโต๊ะใคร คนนั้นก็ต้องทำหน้าตาต่างๆหรือทำเสียงสัตว์
บางอย่างเริ่มต้นเร็วมาก
เมื่อหลานเยาเยาร้องเพลงทุกคนก็ต้องตะลึง
เสียงเพลงนี้เพราะเกินไปไหม?
เสียงของธรรมชาติ!
เป็นเสียงของธรรมชาติ
แม้แต่นัยต์ตาของเย่แจ๋หยิ่งก็ยังประกาย มองไปที่สายตาของนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นขึ้น
นางทำให้เขาประหลาดใจขึ้นเรื่อย!
ตอนแรกทุกคนต่างถูกเสียงของหลานเยาเยาดึงดูดแต่ไม่ช้าพวกเขาก็ถูกปลุกด้วยกระสอบทรายที่อยู่ตรงหน้า……