หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 357 งั้นพวกเราไม่เกรงใจแล้ว / ตอนที่ 358 งัดไม้ตาย!

ตอนที่ 357 งั้นพวกเราไม่เกรงใจแล้ว

 

 

อีกด้านหนึ่ง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่สอบถามสถานที่ที่ฟ่านอวี่ไปกินข้าวกับประธานเฉินจากเฉินจื่อซิน ก่อนจะฝ่าลมหนาวอออกจากบริษัทตระกูลอวี๋ไป

 

 

หญิงสาวเรียกแท๊กซี่มุ่งหน้าไปยังร้านอาหาร

 

 

เมื่อเธอไปถึงที่ร้านอาหาร เฉินจื่อซินรอเธออยู่ที่นั่นแล้ว

 

 

ชายหนุ่มเห็นเธอลงจากรถ ก็รีบเดินเข้าไปหาเธอ

 

 

“ผมสอบถามมาแล้ว วันนี้ฟ่านอวี่นัดกับพ่อของผมที่นี่ พวกเขาอยู่ที่ห้องอาหารหมายเลขแปด เพิ่งเข้าไปได้ไม่นาน พวกเราเข้าไปตอนนี้ยังทันครับ!”

 

 

เขาพูดพลางเดินนำอยู่ข้างหน้า

 

 

ทั้งสองคนเดินเข้าร้านอาหารไปพร้อมกัน

 

 

เมื่อมีตำแหน่งที่ชัดเจนแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลามากเกินไป ก็หาประธานเฉินที่เพิ่งเข้าไปในห้องอาหารไม่นานเจอแล้ว

 

 

“พ่อ!”

 

 

หลังจากผลักประตูเข้าไป เฉินจื่อซินเห็นฟ่านอวี่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของประธานเฉิน แต่ยังไม่ทันที่เหนียนเสี่ยวมู่จะพูดอะไร สีหน้าของเขาก็คร่ำเคร่งขึ้นแล้ว

 

 

“พ่อ ผมบอกแล้วไง ผมไม่ยอมเปลี่ยนบริษัทร่วมงานอีก ผู้จัดการเหนียนเป็นเพื่อนของผม เธอเก่งมาก มีเธออยู่แล้ว การร่วมมือของพวกเรามีแต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ!”

 

 

แม้เฉินจื่อซินจะยังหนุ่ม แต่ก็เป็นคนที่มีทัศนวิสัยมาก

 

 

ตั้งแต่เขากลับมาจากต่างประเทศ เขาก็จัดการงานมากมายของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าได้อย่างง่ายดายทั้งหมด

 

 

เมื่อเขาเอ่ยปากปฏิเสธ ประธานเฉินก็ต้องให้ความสำคัญและคิดวิเคราะห์เช่นกัน

 

 

นี่เป็นเหตุผลที่เหนียนเสี่ยวมู่เชิญเขามา

 

 

ประธานเฉินอาจจะมีอคติกับเธออยู่บ้าง เพราะเรื่องของเหวินหย่าไต้

 

 

เขาอาจจะไม่ฟังคำพูดของเธอ แต่เขาต้องฟังคำพูดลูกชายแท้ๆ ของตัวเองแน่นอน!

 

 

ขอเพียงคว้าโอกาสเจรจาได้ เธอก็มั่นใจว่าจะโน้มน้าวประธานเฉิน ให้เชื่อว่าบริษัทตระกูลอวี๋ต่างหากที่เป็นคู่หูร่วมทำงานที่ดีที่สุดของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้า!

 

 

“ลูกบ้า ปกติฉันสอนแกแบบนี้เหรอ มีลูกค้าอยู่ แกพูดมั่วอะไรเนี่ย!” ประธานเฉินตำหนิ พร้อมกับใบหน้าซื่อๆ ที่ดำคล้ำขึ้นเล็กน้อย

 

 

จากนั้นเขาก็มองไปยังเหนียนเสี่ยวมู่ที่ตามหลังเฉินจื่อซินเข้ามา แววตาของเขาพลันวูบไหว

 

 

มีความรู้สึกมากมายอยู่บนใบหน้าของเขาเช่นกัน

 

 

แต่สุดท้ายเขาก็อึ้งงันไป ก่อนจะถลึงตามองเฉินจื่อซิน!

 

 

ผ่านไปหลายวินา เขาถึงจะมองฟ่านอวี่ที่นั่งตรงข้ามกับเขาอย่างเก้ๆ กังๆ “ผมสอนลูกชายไม่ได้ ทำให้คุณชายฟ่านหัวเราะแล้ว”

 

 

ฟ่าอวี่ใส่สูทเนี๊ยบทั้งตัว เขาจิบชาอยู่บนที่นั่งอย่างสง่างาม “รองประธานเฉินมีบุคลิกมี่น่านับถือของประธานเฉิน พ่อเสือไม่มีลูกเป็นหมา ผมจะเห็นเป็นเรื่องตลกได้ยังไงกันครับ”

 

 

สีหน้าของเขาเรียบเฉย สายตาก็อ่อนโยน ดูไม่ออกว่ากำลังไม่พอใจ

 

 

ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองเหนียนเสี่ยวมู่และเฉินจื่อซิน

 

 

“ในเมื่อทั้งสองท่านก็มาแล้ว เห็นแก่หน้าผม กินข้าวด้วยกันสักมื้อดีไหมครับ”

 

 

“คุณชายฟ่าน ทำอย่างนี้ไม่ค่อยถูกต้อง…” ประธานเฉินเพิ่งจะปฏิเสธ แต่เฉินจื่อซินเปิดทางให้เหนียนเสี่ยวมู่เดินไปก่อนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้ว

 

 

“งั้นพวกเราไม่เกรงใจแล้วนะครับ!”

 

 

เฉินจื่อซินดึงเก้าอี้มานั่งลงอย่างสบายใจเฉิบ

 

 

จากนั้นเขาก็ยื่นมือไปหยิบแก้วมารินน้ำชาให้เหนียนเสี่ยวมู่ “ข้างนอกหนาวมาก คุณรีบดื่มชาให้ร่างกายอบอุ่นเถอะครับ”

 

 

“…”

 

 

“คุณวางใจเถอะ ถึงพ่อผมจะบอกว่าไม่สน แต่นอกจากบริษัทตระกูลอวี๋แล้ว ผมจะไม่ร่วมงานกับบริษัทอื่น” เฉินจื่อซินวางแก้วน้ำชาลงตรงหน้าเธอ พลางจงใจพูดเสียงดังไปด้วย

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของประธานเฉินก็ดำคล้ำขึ้นอีก

 

 

“ลูกบ้า ฉันยังไม่ตายเลยนะ!”

 

 

“พ่อ ผมรู้ว่าพ่อรับได้ยากในตอนนี้ เพราะความสัมพันธ์กับตระกูลเหวิน แต่เราต้องตอบแทนน้ำใจคน ธุรกิจก็เหมือนกัน พวกเราทำงานร่วมกับบริษัทตระกูลอวี๋ได้ราบรื่นขนาดนี้ พ่อบอกว่าจะเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนแบบนี้ แล้วพ่อจะบอกกับเพื่อนร่วมงานที่ลำยากตรากตรำเพราะงานก่อนหน้านี้ยังไงครับ”

 

 

เฉินจื่อซินทำหน้าตาจริงจังอย่างหาได้ยาก

 

 

“อีกอย่าง ถ้าตอนนั้นไม่มีผู้จัดการเหนียน พ่อจะเชิญซ่างซินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้เหรอครับ ทำลายสะพานหลังข้ามแม่น้ำแล้วเนี่ย ไม่ใช่สไตล์ของตระกูลเฉินนะครับ” 

 

 

 

 

ตอนที่ 358 งัดไม้ตาย!

 

 

เมื่อเฉินจื่อซินพูดจบ ความลำบากใจพลันฉายชัดบนใบหน้าของประธานเฉิน

 

 

เขามองเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

 

 

กลับเป็นปฏิกิริยาของฟ่านอวี่ ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน

 

 

ดูจากท่าทางของเขาแล้ว เหมือนว่าจะไม่สนใจว่าครั้งนี้จะเจรจาธุรกิจสำเร็จหรือไม่…

 

 

ไม่อย่างนั้นจะยังใจเย็นจิบชา ในขณะที่การร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้นกำลังจะพังลงได้เหรอ

 

 

แต่เฉินจื่อซินก็ไม่สนใจ ว่าเขาจะคิดอย่างไรเช่นกัน

 

 

ชายหนุ่มหยิบเมนูมาเปิด ก่อนจะมองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

“คุณอยากกินอะไรครับ ถ้าคุณไม่รู้ว่าอยากกินอะไร ผมแนะนำอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ให้คุณได้นะ รสชาติไม่เลวเลย!”

 

 

เฉินจื่อซินพูดพลางสั่งอาหารให้เธอสองสามจาน

 

 

จากนั้นก็สั่งให้ประธานเฉินอีกสองสามจาน

 

 

สุดท้ายถึงจะยื่นเมนูไปตรงหน้าฟ่านอวี่อย่างเชื่องช้า “ผมไม่คุ้นเคยกับคุณชายฟ่าน ไม่ค่อยแน่ใจว่าคุณชอบอะไร รบกวนคุณสั่งอาหารเองแล้วกันนะครับ”

 

 

“…”

 

 

ฟ่านอวี่ที่เดิมทีหน้าบึ้งอยู่แล้ว ยิ่งมีแววตาเย็นชายิ่งกว่าเดิม เมื่อเห็นอีกฝ่ายอุทิศตัวให้เหนียนเสี่ยวมู่ขนาดนั้น

 

 

ราวกับดูออกว่าเขาทำไม่ดีกับเหนียนเสี่ยวมู่ จึงขมวดคิ้ว

 

 

ใบหน้าของเขาเผยความไม่พอใจออกมาอย่างหาได้ยก

 

 

เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่รับเมนูอาหารไปสั่งลวกๆ แล้วส่งคืนให้กับพนักงาน

 

 

ไม่นานอาหารก็มาถึง

 

 

ทุกคนต่างก็ใช้ความคิดในการรับประทานอาหารมือนี้ บรรยากาศจึงน่าอึดอัดอยู่บ้าง

 

 

เมื่อฝืนกินจนอิ่มกันแล้ว ประธานเฉินก็พาเฉินจื่อซินกลับไปทันที

 

 

เฉินจื่อซินก็รู้ว่าต้องกลับไปโน้มน้าวพ่อของเขา ถึงจะจัดการความกังวลที่เกิดขึ้นจากผู้ร่วมมือทั้งสองฝ่ายได้อย่างแท้จริง เขาจึงไม่ได้อิดออดอะไร เพียงแต่บอกลาเหนียนเสี่ยวมู่ แล้วออกไปพร้อมกับประธานเฉิน

 

 

ในห้องอาหารดูว่างขึ้นทันที

 

 

“ปัก” เหนียนเสี่ยวมู่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะวางแก้วชาในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง

 

 

จากนั้นถลึงตามองฟ่านอวี่อย่างมาดร้าย

 

 

“คุณตั้งใจพุ่งเป้ามาที่ฉันเหรอ”

 

 

“…”

 

 

กระต่ายน้อยกลายเป็นแม่เสือแล้ว

 

 

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของฟ่านอวี่วูบไหวเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก “ก็แค่ทำธุรกิจเท่านั้น”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ถูเขาหลอกง่ายๆ “คุณจ้องจะทำธุรกิจกับตระกูลเดียวเหรอ อย่าเพิ่งพูดเรื่องที่บริษัทคุณแย่งลูกค้าของบริษัทฉันเลย พูดเรื่องสองครั้งนี้ก่อนดีกว่า คุณออกโรงด้วยตัวเอง แถมยังเลือกลูกค้าคนสำคัญของฉันอีก คุณคิดว่าเหมาะสมแล้วเหรอ”

 

 

ประธานของบริษัทไม่ยอมนั่งอยู่ในห้องทำงานดีๆ แต่กลับออกมาแย่งลูกค้าคนอื่น

 

 

เรื่องนี้ช่างมันเถอะ

 

 

บริษัทตระกูลอวี๋มีลูกค้าสำคัญมากมาย แต่เขาเลือกลูกค้าของเธอติดต่อกันแบบนี้ มันจะเกินไปหน่อยหรือเปล่า

 

 

เธอเห็นว่าเขาหยุดเคลื่อนไหวไปหลายวัน คิดว่าเขาจะคิดได้แล้ว

 

 

แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะงัดไม้ตายออกมาโดยไม่พูดจาสักคำ!

 

 

“ผมแย่งไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ” ฟ่านอวี่พูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา

 

 

ก่อนจะชำเลืองมองท่าทางโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเธอ

 

 

ยิ่งเธอทำแก้มป่อง ก็ยิ่งทำให้ใบหน้าที่เดิมทีโดดเด่นอย่างยิ่งดูจริงจังเพิ่มขึ้นหลายส่วน

 

 

เหมือนกับคนในความทรงจำของเขา เหมือนมาก…

 

 

สองมือของฟ่านอวี่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาหมุนตัวเดินออกไป แต่เพิ่งเดินไปถึงประตู เขาก็หยุดฝีเท้า แล้วหันมามองเธอ “ผมขับรถมา อยากให้ผมไปส่งไหม”

 

 

“…”

 

 

ผีสิอยากจะนั่งรถของเขา!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กลอกตาขาวใส่เขาครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินผ่านตัวเขาออกจากห้องอาหารไป

 

 

ขณะที่เธอเฉียดผ่านตัวเขา อยู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมา

 

 

“ถึงแม้ต่อไปผมจะไปเจอประธานซู คุณก็จะไม่ไปเหรอ”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” ·!!

 

 

เขาจะแย่งลูกค้าของเธออีกแล้ว

 

 

เธอทนไม่ได้แล้ว!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หมุนตัวกลับไปที่หน้าโต๊ะ แล้วหยิบส้อมคันหนึ่งขึ้นมา จากนั้นค่อยเดินไปข้างนอกอย่างหัวเสีย

 

 

ฟ่านอวี่ตามเธอไป “คุณจะทำอะไร”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ชะงักฝีเท้า พลางยื่นส้อมไปตรงหน้าเขา “เจาะยางคุณน่ะสิ! ถ้าคุณกล้าขวางฉันอีก ฉันจะระบายความโกรธบนหน้าคุณนี่แหละ!”

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset