หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 389 ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ! / ตอนที่ 390 เหนียนเสี่ยวมู่ แบบนี้เรียกว่าโรแมนติกเหรอ

ตอนที่ 389 ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ!

 

 

พ่อบ้านสังเกตเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยดี จึงอยากเข้ามาหยุดยั้ง

 

 

ทว่าคำพูดของเสี่ยวลิ่วลิ่วโพล่งออกมาแล้ว จะเรียกกลับคืนไปคงไม่ได้!

 

 

นอนด้วยกัน…

 

 

ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน…

 

 

โอ๊ยย!!

 

 

คุณนายใหญ่อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้นด้วยความตื่นเต้นทันที แถมยังลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้เสียด้วย

 

 

เธอเป็นห่วงว่าจะเกิดการเข้าใจผิด เพราะเสี่ยวลิ่วลิ่วยังเด็ก หญิงชราสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วถึงมองไปทางพ่อบ้าน

 

 

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เธอรีบพูดมาให้ชัดเจนเดี๋ยวนี้!”

 

 

พ่อบ้าน “…” !

 

 

“พวกเขาสองคนไปเดตกันแล้วเหรอ”

 

 

“เมื่อคืนนอนด้วยกันจริงๆ เหรอ”

 

 

“พวกเขาญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ ทำไมถึงปิดเป็นความลับได้ถึงขนาดนี้…”

 

 

คุณนายใหญ่ถามคำถามเป็นพรวนด้วยความร้อนใจ!

 

 

ครั้นเห็นพ่อบ้านไม่พูดจา สีหน้าของเธอก็หม่นลง

 

 

“ถ้าเธอกล้าปิดบังแม้แต่คำเดียว ยายแก่อย่างฉันจะไล่เธอออกเอง ไม่ต้องรอคุณชายหานกลับมาหรอก!”

 

 

พ่อบ้าน “…” !!

 

 

แม้คุณนายใหญ่จะอายุมากแล้ว แต่ก็เป็นคนที่มีประสบการณ์โชกโชนทีเดียว

 

 

เมื่อเธอเข้มงวดขึ้นมา ก็น่ากลัวเสียจนใครๆ หวาดหวั่น

 

 

พ่อบ้านอดไม่อยู่ จึงเล่าทุกเรื่องที่ตัวเองรู้ออกมาในเวลาไม่นาน

 

 

หลังจากคุณนายใหญ่ฟังจบแล้ว เธอก็อ้าปากเล็กน้อย “นอนด้วยกันจริงๆ ด้วย…”

 

 

โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าเหนียนเสี่ยวมู่ใส่เสื้อผ้าของอวี๋เยว่หานลงมาชั้นล่างในวันต่อมา แถมยังนั่งกินข้าวบนตักของอวี๋เยว่หานด้วย

 

 

ในดวงตาซุกซนของหญิงชรา ปิดบังความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่แล้ว!

 

 

เด็กบ้า!

 

 

ตรงไปตรงมาเหลือเกินนะ!

 

 

คิดไม่ถึงว่าจะกินคนเข้าไปอย่างลับๆ ล่อๆ โดยไม่บอกไม่กล่าวใคร…

 

 

“เสี่ยวลิ่วลิ่วบอกว่าพวกเขาไปดูหนัง แล้วไปดูที่ไหนกันล่ะ ดูหนังอะไร” คุณนายใหญ่ถาม พร้อมกับสั่งให้คนที่คอยปรนนิบัติเธอไปหยิบเสื้อนอกของเธอมาด้วย

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น พ่อบ้านพลันตัวสั่นด้วยความกลัว

 

 

เขารีบโน้มน้าวว่า “คุณนายใหญ่ครับ ฟ้ามืดแล้ว ข้างนอกก็หนาวด้วย เย็นขนาดนี้…”

 

 

“เธอจะไปเข้าใจอะไร! ตีเหล็กต้องตีตอนที่ร้อนๆ!” คุณนายใหญ่พูด พลางใส่เสื้อนอกเรียบร้อย

 

 

จากนั้นเธอก็รับถุงมือมาใส่อย่างสง่างาม

 

 

สายตาตอนที่เธอมองพ่อบ้านดูใจเย็นมาก แต่คำพูดที่ออกจากปากกลับไม่มีการเก็บงำเลยแม้แต่น้อย “บริษัทตระกูลอวี๋มีโรงหนังเป็นของตัวเอง ต้องปิดโรงหนังสร้างบรรยากาศโรแมนติก ทำให้อาณาเขตของตัวเองสะดวกที่สุด อย่ามาบอกว่าเธอไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน”

 

 

พ่อบ้าน “…” !!

 

 

‘คุณชาย ผมถูกบีบบังคับ คุณก็ขอให้ตัวเองโชคดีแล้วกันนะครับ’

 

 

 

 

ในโรงหนัง

 

 

พล็อตเรื่องกำลังค่อยๆ เข้าสู่จุดที่เข้มข้น อวี๋เยว่หานกำมือแน่น และนั่งตัวตรงไปก่อนแล้ว

 

 

เขาเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้ใกล้มือแล้วเรียบร้อยด้วย

 

 

ขอแค่เธอเริ่มร้องไห้เพราะอดไม่ไหว เขาก็จะยื่นกระดาษทิชชู่ให้เธอทันทีด้วยความใส่ใจ และถือโอกาสกอดเธอไว้ในอก

 

 

ตอนที่เธอร้องได้เพราะพระเอกกับนางเอกกำลังจะแยกทางดัน ไฟทั้งโรงหน้าก็จะสว่างขึ้น

 

 

เขาจะนำดอกกุหลาบหนึ่งช่อมาให้เธอในเวลานั้น ส่งมันให้เธออย่างอบอุ่น

 

 

สุดท้ายก็พูดกับเธอด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้งว่า ‘พวกเราจะไม่เหมือนกับในหนัง ชีวิตนี้ของผม จะไม่ยอมปล่อยมือคุณเด็ดขาด!’

 

 

อวี๋เยว่หานกวาดสายตามองกลยุทธ์บนอินเทอร์เน็ตครั้งหนึ่ง

 

 

คอมเมนต์ด้านล่างเป็นไปในทางเดียวกัน

 

 

[สุดยอด มุขนี้ผู้หญิงชอบกันหมดแหละ!]

 

 

[ผมเป็นผู้ชาย พูดแบบไม่ปิดบังเลยนะ นี่รู้สึกว่าตัวเองจะหลงกลแล้ว…]

 

 

[ถ้ามีผู้ชายสักครสร้างบรรยากาศโรแมนติกให้ฉันขนาดนี้ ฉันต้องซึ้งตายแน่นอน!]

 

 

[ขอแค่มีผู้ชายดีๆ คิดทำให้ฉันแบบนี้ ฉันจะรับกลับบ้านไปมอบกายถวายชีวิตให้เลย]

 

 

[เห็นด้วย!]

 

 

มอบกายถวายชีวิต…

 

 

อวี๋เยว่หานมองคอมเมนต์นี้ มุมปากพลันยกขึ้นเล็กน้อย

 

 

เขาเริ่มคาดหวังแล้ว ว่าอีกเดี๋ยวเธอจะต้องโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาด้วยความประหลาดใจ และซาบซึ้งจนร้องไห้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะกอดจูบเขา…

 

 

 

 

ตอนที่ 390 เหนียนเสี่ยวมู่ แบบนี้เรียกว่าโรแมนติกเหรอ

 

 

ในที่สุดหนังก็มาถึงช่วงที่อวี๋เยว่หานรอคอย

 

 

เพื่อให้ภารกิจของตัวเองไม่ดูจงใจจนเกินไป เขาจึงไม่ได้หันหน้าไปมองเธอ

 

 

แต่เขาเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวข้างกายอย่างละเอียด

 

 

ในใจคิดว่า ขอเพียงได้ยินเสียงเธอสะอึกสะอื้น ก็เริ่มปฏิบัติการได้เลย

 

 

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า…

 

 

คนที่อยู่ข้างๆ เขาเงียบอยู่ตลอด

 

 

อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว ในใจคิดว่าเธออาจจะเป็นคนร้องไห้ยาก อาจจะต้องรออีกสักหน่อย

 

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนแค่กะพริบตาเท่านั้น

 

 

หนังตรงหน้าใกล้จะจบแล้ว แต่เหนียนเสี่ยวมู่เหมือนจะไม่มีความรู้สึกซึ้งอะไรทั้งนั้น

 

 

เขานึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะหันหน้าไปมองเธอ

 

 

ในโรงหนังแสงสลัวอยู่บ้าง

 

 

แสงจากหน้าจอตกกระทบบนเครื่องหน้าสะสวยของเธอ ยิ่งทำให้เครื่องหน้าอันโดดเด่นของเธอนั้นดูงดงามยิ่งกว่าเดิม

 

 

ดวงตาทั้งสองข้างของเธอปิดสนิท แม้จะขาดความสดใสเหมือนปกติไป แต่กลับดูสงบขึ้นมาก

 

 

หน้าอกของเธอยกกระเพื่อม ลมหายใจยาวสม่ำเสมอ หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว…

 

 

อวี๋เยว่หาน “…” !!

 

 

ใครบอกเขาได้บ้าง ว่าเวลาที่สร้างความโรแมนติกแล้วแฟนสาวหลับ ควรจะทำอย่างไรต่อไป

 

 

ชายหนุ่มมีสีหน้าหม่นหมองขึ้น

 

 

เขาพลันนึกถึงแผนการของตัวเอง จึงเตรียมจะปลุกเธอ

 

 

แต่เมื่อเห็นใบหน้ายามหลับใหลอันสงบเงียบของเธอแล้ว ในหัวของเขาก็มีภาพเมื่อคืนผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

 

 

ความรักใคร่เอ็นดูก่อตัวขึ้นในใจของอวี๋เยว่หานในทันที

 

 

จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อนอก แล้วคลุมบนตัวของเธอ

 

 

สุดท้ายแล้วก็ใช้มือข้างหนึ่งหนุนหัว พร้อมกับตะแคงข้างมองเธอ…

 

 

ทุกอย่างรอบข้างเหมือนกับหายไปจนหมดสิ้น ในสายตาของเธอมีแค่เธอเท่านั้น

 

 

ครั้นเห็นเธอขมวดคิ้วเหมือนจะฝันเห็นอะไรที่ไม่สบายใจ นิ้วเรียวของเขาก็ยื่นออกไป ราวกับแทบไม่ได้มีความลังเล และลูบหว่างคิ้วเธอให้เรียบ

 

 

ชายหนามเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “นอนเถอะ มีผมอยู่ตรงนี้”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่คล้ายกับรับรู้ได้ จึงวางใจลงได้อย่างแท้จริง

 

 

จนกระทั่งหนังจบลง เมื่อเพลงช่วงท้ายดังขึ้น ในที่สุดหญิงสาวก็ลืมตาขึ้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก่อนจะหาวไปพลาง หันหน้ามองรอบข้างไปพลาง

 

 

หลังจากพบว่าบนตัวมีเสื้อนอกของอวี๋เยว่หานอยู่ เธอก็ตะลึงไป

 

 

ทันใดนั้นเธอมองเห็นชายหนุ่มที่กำลังมีสีหน้าลำบากใจนั่งอยู่ข้างๆ ตัวเอง

 

 

เธอเม้มปาก แล้วถามว่า “คุณเป็นอะไรไป หนังไม่สนุกเหรอ”

 

 

‘…ความโรแมนติกที่วางแผนไว้ดิบดีพังทลาย ไม่เกี่ยวอะไรกับหนังหรอก!’ อวี๋เยว่หานคิดในใจ

 

 

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อน จากนั้นก็จูงมือเธอเดินออกจากโรงหนังไป

 

 

เมื่อเดินออกจากโรงหนัง ทั้งคู่เจอกับลมยามค่ำคืนอันหนาวเหน็บที่ปะทะเขามา

 

 

อวี๋เยว่หานชะงักฝีเท้า พร้อมกับหมุนตัวกลับไปตามสัญชาตญาณ เพื่อกอดเธอไว้แนบอก

 

 

เขานึกถึงกลยุทธ์บนอินเทอร์เน็ตได้ทันที

 

 

ว่ากันว่า การทำแบบนี้สามารถทำให้แฟนสาวประทับใจได้อย่างแน่นอน

 

 

ชายหนุ่มหลุบตาลงมองคนในอ้อมกอดด้วยความหวังเต็มเปี่ยม แต่กลับเห็นใบหน้าเบื่อหน่ายของเธอ กำลังมองไปไกลโพ้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

 

 

เธอกำลังมองคู่รักวัยรุ่นซื้อดอกไม้ ดวงตาเป็นประกายทีเดียว

 

 

“โรแมนติกจังเลย!”

 

 

อวี๋เยว่หาน “… ” !!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ แบบนี้เรียกว่าโรแมนติกเหรอ

 

 

ถ้าเมื่อกี้เธอไม่ได้หลับ เธอต้องเห็นความโรมแมนติกจนร้องไห้ออกมาแน่!

 

 

อากาศหนาวมาก

 

 

หญิงสาวตั้งใจยื่นมือเย็นๆ ของตัวเองเข้าไปในเสื้อของเขา

 

 

ท่าทางอยากจะจับเขาไว้

 

 

แต่ทันใดนั้นเขากลับจับมือเธอเอาไว้จนแน่น ให้ฝ่ามือของเธอแนบสนิทรับความอบอุ่นบนผิวหนังของเขา

 

 

“ทำไมมือเย็นแบบนี้ หนาวหรือเปล่า” อวี๋เยว่หานขมวดคิ้วมุ่น

 

 

เขาพูดพลางใช้มือใหญ่ๆ จับหน้าผากของเธอ ด่อนจะใช้เสื้อนอกของตัวเองพันตัวเธออย่างแน่นหนา

 

 

แล้วม้วนเธอเข้ามาในอกอีกครั้ง

 

 

เพียงแค่การกระทำอันเรียบง่ายนี้ หัวใจของเธอก็วูบวาบขึ้นมาในทันที

 

 

อาการหัวใจเต้นแรงอย่างไม่อาจอธิบายได้กระจายอยู่ทั่วทั้งตัวแล้ว!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset