ตอนที่ 181 จ้องตาเขม็งแล้ว!
เทียบกับอวี๋เยว่หานแล้ว คนอื่นในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวไม่ได้ใจเย็นขนาดนั้น
โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานชายที่อยู่ในห้อง
ปกติเหนียนเสี่ยวมู่สวมชุดทำงานเวลาออยู่ในบริษัท และถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น หน้าตาสวยโดดเด่นของเธอก็พอจะดึงดูดสายตาคนได้แล้ว!
หากเปลี่ยนมาใส่กระโปรงเซ็กซี่สักตัว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ผู้ชายในที่นี้จ้องตาเขม็งกันทันที!
อยากจะควบคุมอยู่หรอกนะ แต่ปฏิกิริยาทางกายกลับซื่อสัตย์
ลูกตาของแต่ละคนแทบจะเหมือนติดกาวไว้บนตัวเธอ…
อวี๋เยว่หานสังเกตเห็นเรื่องนี้ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตอนนั้นเขาหยิบกระโปรงตัวหนึ่งมาลวกๆ ไม่ได้สนใจแบบของกระโปรงเลย โดยเฉพาะผลจากการที่เธอใส่ประโปรงตัวนั้นไปแล้ว ช่าง…น่าโมโหจริงๆ!
การออกแบบของคอร์เซ็ท ช่วยดึงสัดส่วนน่าหลงใหลของเธอออกมาโดยสมบูรณ์
เธอผอมมาก แต่ตำแหน่งที่ควรมีก็มีทั้งหมด
ผิวพรรณผ่องใสดุจคริสตัล ขาวนวลเปล่งประกาย…
อวี๋เยว่หานนัยน์วูบไหวไปเล็กน้อย ก่อนจะยกมือเรียกพนักงาน
เสียงเบาจนไม่รู้ว่าสั่งอะไร
ไม่นานพนักงานก็ออกไป แล้วกลับเข้ามาพร้อมผ้าไหมยาวชิ้นหนึ่ง พร้อมทั้งเดินมาข้างๆ เหนียนเสี่ยวมู่
“…” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึง กำลังคิดจะบอกว่าตัวเองไม่ต้องการไร แต่พอเห็นผ้าไหมตรงหน้าก็ตาเป็นประกายทันที
เธอเหมือนกับได้เห็นดาวช่วยชีวิต จึงหยิบขึ้นมาพันร่างกายเอาไว้
ผ้าไหมผืนยาวเข้าชุดกับกระโปรงของเธออย่างมาก ปิดบังจุดที่โป๊ออกมาได้พอดิบพอดี
และไม่ทำคนอื่นรู้สึกว่าเกินไปด้วย
เหนียนเสี่ยวมู่พันผ้าไหมเรียบร้อยแล้ว เธออยากถามพนักงานว่าใครให้เขาส่งมา ก็เห็นว่าพนักงานมองไปทางอวี๋เยว่หาน จากนั้นก็โค้งตัวถอยออกไปจากห้องจัดลี้ยงส่วนตัว
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตาสีดำคลับคู่นั้นพอดี
เธออยากกล่าวขอบคุณ แต่เขาก็หลุบตาเบือนหน้าออกไปด้วยความเย็นชา
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
อาหารค่อยๆ ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง
ทุกคนต่างก็กินอาหารกันอย่างมีความสุข นับว่าช่วยคลายความตื่นเต้นที่เกิดจากเหนียนเสี่ยวมู่ขึ้นมาได้บ้าง
เหวินหย่าไต้ก็แนะนำอาหารให้อวี๋เยว่หานฟังอยู่ตลอด “คุณชาย ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งชุดอาหารทะเลเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณอยากสั่งอย่างอื่นเพิ่มไหมคะ”
“…” อวี๋เยว่หานชำเลืองมองเธอ แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยกแก้วไวน์แดงขึ้นมาจิบเบาๆ คำหนึ่งเท่านั้น
จากนั้นก็หันหน้าไปมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ข้างๆ เขา
หญิงสาวมีผ้าไหมแล้ว แต่กลับทำท่าทางประหลาดไม่เหมือนกับทีแรก ในมือเธอคว้าปูก้ามขน กำลังแทะกินด้วยความเบิกบานใจ
เธอก้มหน้าเล็กน้อย ผมยาวถูกรวบเป็นหางม้า เผยให้เห็นลำคอขาว หูเล็กน่ารักออกสีแดงระเรื่อเล็กน้อย
มุมปากเปื้อนน้ำซอส แต่ตัวเธอไม่รู้ตัวเลย
นิ้วมือของเขาขยับเล็กน้อย อยากจะใช้กระดาษทิชชู่เช็ดให้เธอตามสัญชาตญาณ
แต่พอเขารู้สึกได้ถึงความคิดของตัวเอง ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอีก
อวี๋เยว่หานเอ่ยปากตอบคำถามที่เหวินหย่าไต้ยังคงรอคอยอยู่ “ไม่ต้องหรอก สั่งอาหารที่พวกคุณชอบก็พอ”
จากนั้นเขาก็ดื่มไวน์แดงรวดเดียวจนหมดแก้ว
เขาเห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่เอาแต่ตั้งใจกินอาหาร จนไม่ได้สังเกตเลยว่าท่าทางเปิดเผยของตัวเองกำลังดึงดูดสายตาของผู้ชายในห้องนี้อยู่…
ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนมีอะไรอัดแน่นอยู่ตรงหน้าอก อึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย
เหวินหย่าไต้ถูกปฏิเสธอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง บนใบหน้าจึงเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ได้แต่ยิ้มเก้ๆ กังๆ
พอผู้จัดการสาวสังเกตเห็นว่าสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เหนียนเสี่ยวมู่ จึงกัดริมฝีปากด้วยความไม่พอใจ
ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตัวเอง แล้วยกแก้วไวน์ขึ้นอย่างสง่างาม “มา ทุกคนชนแก้วกัน ถือว่าเป็นการต้อนรับเพื่อร่วมงานใหม่ของพวกเรา และขอบคุณคุณชายหานที่ยอมมาร่วมงานเลี้ยงของเราทั้งๆ ที่งานยุ่งมาก”
“…” เหนียนเสี่ยวมู่กำลังแทะก้ามปูอย่างมีความสุข อยู่ๆ พบว่าทุกคนยืนขึ้นกันหมด ตัวเองจึงยกก้ามปูขึ้นสองข้าง และลุกขึ้นตาม
ตอนที่ 182 คุณชายหาน ฉันขอยกย่องคุณ
เมื่อพบว่าทุกคนจับจ้องมาที่เธอ ทันใดนั้นเธอก็รู้ตัว รีบวางก้ามปูในมือลง แล้วยื่นมือไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแทน
“ครั้งนี้ทำให้ซ่างซินตกลงเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้อย่างราบรื่น ก็เพราะซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ขอต้อนรับเข้าสู่แผนกประชาสัมพันธ์ของพวกเราค่ะ หวังว่าคุณจะขยันทำงานต่อไปนะคะ” ขณะพูด เหวินหย่าไต้ไม่ได้มองเหนียนเสี่ยวมู่เลย เธอเอาแต่มองอวี๋เยว่หาน
คำพูดแต่ละคำล้วนเป็นการชื่นชมเหนียนเสี่ยวมู่ แต่กลับเหมือนกำลังให้เกียรติอวี๋เยว่หาน
อย่างไรเสียทุกคนตรงนี้ก็รู้ ว่าเหนียนเสี่ยวมู่เข้ามาในแผนกของพวกเขาได้ ก็เป็นเพราะอวี๋เยว่หานล้วนๆ
เมื่อทุกคนดื่มหมดแก้วแรก เธอก็เทไวน์ให้ตัวเองอีกเป็นแก้วที่สอง
จากนั้นเธอก็มองไปทางอวี๋เยว่หาน “คุณชายหานคะ แก้วนี้ฉันขอยกย่องคุณค่ะ”
ใบหน้าค่อนไปทางสะสวยของเธอเริ่มแสดงอาการเมาออกมาเล็กน้อย ทุกคนยังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็พูดต่ออย่างมีมารยาท
“แผนกของพวกเรามีผลงานดีขนาดนี้ได้ ก็เพราะการชี้แนะอันเฉลียวฉลาดของคุณชายหาน วันนี้คุณมาที่นี่ ถือเป็นการยืนยันต่อการทำงานของฉันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ฉันจะขอยกย่องคุณจนหมดแก้วค่ะ”
เธอพูดจบก็เงยหน้าขึ้นดื่มไวน์ในแก้วจนเกลี้ยง
คำพูดยืดยาวนี้อ้อนน้มถ่อมตัวมาก
แต่ความหมายในคำพูดนี้ กลับเหมือนเป็นการบอกทุกคนเป็นนัยๆ ว่าคุณชายหานมางานเลี้ยงอย่างผิดวิสัยในวันนี้ ก็เป็นเพราะเธอ
“…”
อวี๋เยว่หานมองเธอ นับน์ตาสีดำดูเยียบเย็น เขากวาดมองคนอื่นๆ บนโต๊ะอาหาร จากนั้นนิ้วเรียวยาวก็ยกแก้วไวน์ขึ้น เป็นการบอกให้พนักงานมารินไวน์ให้
เหวินหย่าไต้มองเขาอย่างมีความสุข พลางรอชายหนุ่มดื่มเหล้า แต่เขากลับยกแก้วไวน์มองไปทางคนอื่นบนโต๊ะอาหาร
“ทุกคนล้วนเป็นหัวกะทิของบริษัทตระกูลอวี๋ บริษัทมีวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะความพยายามของพวกคุณ แก้วนี้ผมขอยกย่องพวกคุณ” อวี๋เยว่หานพูด และดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมด
เมื่อได้ยินเขาพูด ทุกคนในห้องอาหารก็ยกแก้วขึ้นดื่มอย่างพร้อมเพรียง
ดื่มร่วมกัน
เหล้าที่เดิมทีเป็นของสองคน กลายเป็นการดื่มเหล้าร่วมกันกับทุกคนอย่างน่าประหลาด
แม้แต่เหตุผลที่อวี๋เยว่หานมาร่วมงานเลี้ยง ก็กลายเป็นการให้รางวัลทุกคนในแผนกประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่เพราะเธอ…
สีหน้าของเหวินหย่าไต้ดูไม่ได้ในทันที
แต่ทุกคนยังไม่ทันได้สังเกตเห็น เธอก็อ้าวว่ามีสายเข้า และออกจากห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวไป
ผู้จัดการสาวยืนอยู่ตรงประตู สองมือกำหมัดเข้าหากันอย่างแรง จนด้านหลังมือมีเส้นเลือดสีเขียวปูดโปนขึ้นมา
ข่มความรู้สึกสูญเสียการควบคุมไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ เธอหมุนตัวเดินไปทางห้องน้ำสาธารณะ อยากจะเติมเครื่องสำอางสักหน่อย
แต่เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู เธอก็ชนเข้ากับใครบางคน
“โอ้ ผมเจอใครเนี่ย ที่แท้ก็คุณเหวิน สาวสวยของพวกเรา มาเที่ยวที่นี่เหรอครับ อยากไปดื่มกับผมสักแก้วไหม” ชายหนุ่มท่าทางดูไม่อยู่กับร่องกับรอยยิ้มกริ่มทันทีที่เห็นเหวินหย่าไต้ ก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกินเหล้า
“หลินเชา…” เหวินหย่าไต้หรี่ตา เธอจำคนตรงหน้าได้ เขาเป็นลูกหลานตระกูลร่ำรวยที่มีชื่อเสียงในวงการ
เธอกลอกตาเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเสียงเบาพร้อมกับหัวเราะไปด้วย
“แล้วฉันเจอใครเนี่ย ที่แท้ก็คุณชายหลินนี่เอง” เหวินหย่าไต้ทักทายเสร็จอย่างง่ายๆ แต่หลินเชายังไม่ได้ตอบ หญิงสาวก็กอดอกมองเขาเชิงเสียดสีแล้ว
“คุณชายหลินยังมีกะใจมาเที่ยวอีกนะคะ ท่าทางคงยังไม่รู้ ว่าซ่างซินตกลงเป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าแล้ว และจะร่วมงานกับพวกเราทันที”
“…คุณว่าไงนะ?” หลินเชาหรี่ตาเจ้าเล่ห์ลงทันที
สายตาดูโหดเ**้ยมขึ้นทันที
ตระกูลหลินเป็นเศรษฐีตามแบบฉบับ ตัวหลินเชาเองยิ่งเป็นพวกมีเงินสกปรก และคิดว่าตัวเองเป็นคุณชายจริงๆ
ตอนเพิ่งเข้าทำงานในบริษัทของตัวเอง เขาโชคดีได้เจอสาวสวยอย่างซ่างซิน จากนั้นก็พูดไปเรื่อยว่าตัวเองจะต้องเชิญเธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ได้
ผลสุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องตลกเสียแล้ว…