ตอนที่ 193 คุณกำลังพูดมั่วอะไร
บริษัทตระกูลอวี๋
ห้องทำงานประธานบริษัท
อวี๋เยว่หานนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ในมือถือปากกาเอาไว้ กำลังเซ็นชื่อบนเอกสารอย่างว่องไว
หลังจากจัดการเอกสารตรงหน้าเสร็จเรียบร้อย เงาร่างสูงโปร่งก็พิงพนักพิงเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปนวดหว่างคิ้วด้วยความเมื่อยล้าอยู่บ้าง
“คุณชาย คุณทำโอทีมาหลายวันแล้วนะครับ อยากจะไปพักสักหน่อยไหม” ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ อดจะเตือนขึ้นมาไม่ได้ เมื่อเห็นสีหน้าของเขาไม่ค่อยดีนัก
ครั้นได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานก็วูบไหวขึ้นมา
เขาเพิ่งจะเตรียมพูดอะไรบางอย่าง ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เลขาสาวรีบร้อนเข้ามาจากข้างนอก “คุณชาย เพิ่งได้รับข่าวมาจากสถานที่จัดงานค่ะ งานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ากำลังจะเริ่มขึ้น แต่ซ่างซินยังมาไม่ถึง ผู้จัดการของเธอบอกว่าเธอหายตัวไปค่ะ!”
“คุณว่ายังไงนะ?” อวี๋เยว่หานหรี่ตาสีดำขลับลง นัยน์ตาฉายแววคุกคามออกมา
ซ่างซินเป็นตัวละครสำคัญของงานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้า
ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่างานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจะมีอะไรพิเศษ ถึงทำให้ซ่างซินที่ไม่เคยรับงานพรีเซ็นเตอร์ตกลงรับงานนี้ได้
ความเร่าร้อนของเสียงวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ายังไม่ได้ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ ก็สร้างความสนใจให้หลายฝ่ายได้แล้ว คาดว่าปริมาณขายคงจะสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องแน่…
หากวันนี้ซ่างซินไม่มาเข้าร่วมงานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เกรงว่าทุกคนคงจะคิดว่าซ่างซินไม่ได้รับงานพรีเซ็นเตอร์ แต่บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้ากุเรื่องขึ้นมา
มีสื่อมากมายอยู่ที่งาน กลัวแต่ว่างานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ จะกลายเป็นสถานที่วุ่นวายเหมือนเกิดเหตุรถชนเสียมากกว่า!
“เหวินหย่าไต้ล่ะ?” อวี๋เยว่หานเสียงทุ้มต่ำลง
ช่วงก่อนบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าประกาศแล้วว่าจะมอบหมายงานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ให้กับบริษัทตระกูลอวี๋ และผู้ดูแลภาพรวมโครงการก็คือเหวินหย่าไต้
“ผู้จัดการเหวินไปคุยงานที่ต่างประเทศค่ะ ขึ้นเครื่องบินไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว งานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าในวันนี้ ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนเป็นคนรับผิดชอบค่ะ” เลขารายงานอย่างนอบน้อม
เหนียนเสี่ยวมู่…
อวี๋เยว่หานได้ยินชื่อนี้แล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ในหัวของเขาปรากฏภาพเธอนั่งแขวะเขาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างไม่เกรงใจขึ้นมา
ขาดก็แต่เพิ่มบทพูดของเขาขึ้นมาสักช่วง
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนไปถึงที่งานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ ตอนนี้น่าจะกำลังติดต่อซ่างซินอย่างเต็มที่ แต่ถ้าซ่างซินไม่มาปรากฏตัว งานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันนี้…” เลขาพูดต่อไปไม่ได้แล้ว
แผนงานประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่แก้ไขได้ แต่แฟนคลับของซ่างซินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ไหนจะข่าวของสื่ออีก…
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่พวกเขาควบคุมไม่ได้เลย
“ผมรู้แล้ว คุณไปบอกเหนียนเสี่ยวมู่ ให้เธออยู่ที่งาน รอข่าวจากผม” อวี๋เยว่หานหลุบตาลง ก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น
เมื่อพูดจบ เขาก็ต่อสายหาถังหยวนซือทันที
“คุณพาซ่างซินไปเหรอ”
คนทางปลายสายอึ้งงันไปเล็กน้อย แล้วถึงจะย้อนถามขึ้นมา “คุณกำลังพูดมั่วอะไร”
ยิ่งได้ยินแบบนี้ อวี๋เยว่หานก็ยิ่งรู้สึกหนักใจ
เขามีสีหน้าคร่ำเคร่งขึ้น “งานปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าในวันนี้ ซ่างซินรับปากว่าจะไปถึงที่งานตอนนี้ แต่เธอหายตัวไป แม้แต่ผู้จัดการของเธอก็ไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหน”
“…”
“ถ้าคุณไม่ได้พาเธอไป ผมสงสัยว่าเธออาจจะเกิดอุบัติเหตุอะไร”
“…”
อวี๋เยว่หานพูดจบแล้ว ทางปลายสายเงียบอยู่เนิ่นนาน
นานจนเหมือนจะวางสายไปแล้ว
จากนั้นก็วางสายไป โดยไม่หือไม่อืออะไรจริงๆ “คุณไปตรวจสอบว่าซ่างซินอยู่ที่ไหน จะต้องรู้ให้ได้ก่อนงานจะเริ่ม ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!”
ตอนที่ 194 ความสุขเล็กๆ น้อยใจเล็กๆ
เมื่อผู้ช่วยออกไป อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือไปหยิบเสื้อนอกขึ้นมา แล้วสาวเท้าออกจากห้องทำงานไป
หลังจากขึ้นรถแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดการ
ตอนที่บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าเพิ่งเซ็นสัญญาร่วมงานกับบริษัทตระกูลอวี๋ ก็สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายในวงการได้แล้ว
ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทตระกูลอวี๋ในปีนี้
วันนี้เป็นงานประชาสัมพันธ์แรกหลังจากเริ่มโครงการ แต่ก็เกิดประแสฮือฮาขึ้นหนึ่งชั่วโมงก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นเสียแล้ว
แขกผู้มีเกียรติในงานที่นั่งอยู่แถวหน้า ล้วนเป็นคนใหญ่คนโตในวงการธุรกิจ
ถัดจากนั้นก็เป็นสื่อจากทุกสำนัก
ส่วนรอบนอกสุดเป็นผู้ชมทั่วไปและแฟนคลับของซ่างซิน
แฟนคลับของซ่างซินมีอิทธิพลมาก เป็นที่ขึ้นชื่อลือชามาโดยตลอด
ตอนนี้งานยังไม่เริ่ม ข้างนอกงานก็มีแฟนคลับรวมตัวกันหนาแน่นแล้ว ต่างก็ยกป้ายสโลแกนและป้ายไฟรอต้อนรับเธออย่างมีความหวัง
ดูจากภายนอกงาน ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกคนไม่รู้ตัวเลยว่าคนสำคัญของวันนี้หายตัวไปแล้ว
อวี๋เยว่หานวนดูรอบงานแล้วหนึ่งรอบ แล้วถึงจอดรถไว้ตรงลานจอดรถตรงทางเข้าด้านหลังเวที
หลังจากรถจอดนิ่งสนิทแล้ว เขาก็เดินไปด้านหลังเวทีของงาน
เรื่องที่ซ่างซินหายตัวไปแพร่สะพัดอยู่ในหมู่คนทำงานแล้ว
บรรยากาศด้านหลังเวทีจึงตึงเครียดและกดดันมากอย่างเห็นได้ชัด
เดิมทีอวี๋เยว่หานคิดว่าจะเห็นภาพความวุ่นวาย แต่น่าแปลก แม้ทุกคนจะเป็นกังวล แต่กลับไม่ได้ลุกลี้ลุกลนอะไร
ต่างคนต่างยุ่งกับงานของตัวเองต่ออย่างเป็นแบบแผน…
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนมีสติดีมาก ทันทีที่เกิดปัญหา ก็ออกมารับงานด้านหลังเวทีทั้งหมด พนักงานทุกคนได้รับการปลอบโยนจากเธอ ถึงได้ทำงานอย่างเป็นระเบียบแบบนี้” ผู้รับผิดชอบงานอธิบายเสียงเบาอยู่ข้างๆ อวี๋เยว่หาน
เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานก็วูบไหวขึ้นมา
ดวงตาสีดำขลับกวาดมองในห้องพักผ่อนอยู่รอบหนึ่ง สุดท้ายก็มองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยอยู่ตรงจุดที่ใกล้เวทีที่สุด
เธอใส่ชุดทำงาน รวบผมยาวเป็นหางม้า
เรียบง่ายดูดี มีความมั่นใจและดูทำงานเก่งอยู่ในตัว
เธอถือวิทยุสื่อสารอยู่ในมือ ไม่รู้ว่ากำลังสั่งอะไรอยู่
ไม่ได้กระวนกระวาย หรือกลัวจนร้องไห้น้ำตานองหน้าอย่างที่เขาคิด
อยู่ๆ เหนียนเสี่ยวมู่ก็หันมามองข้างหลัง เหมือนรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าหลังเวที หญิงสาวก็อึ้งงันไปเล็กน้อย
เธอจับจ้องมาที่ชายหนุ่มผู้เหมือนเทวดาตรงประตูทางเข้า ลืมไปแล้วว่าต้องพูดอะไร
นอกจากความสูงส่งจากตัวเขาแล้ว ยังมีความสันโดษที่ห้ามคนคนไม่คุ้นเคยเข้าใกล้แผ่ออกมาด้วย
ครั้นเธอนึกได้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ ก็ส่งเสียง ‘โฮ่งๆ’ ขึ้นมาในใจทันที
แต่เธอไม่ใช่ลูกสุนัขนะ!
จากนั้นเธอก็ข่มความกระวนกระวายภายใจในอย่างหนัก แล้วเดินไปอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ให้อวี๋เยว่หานฟัง
“งานในวันนี้ ฉันเตรียมแผนเร่งด่วนเอาไว้แล้ว ถึงแม้ซ่างซินไม่มา ก็ยังพอจะรับมือได้อยู่ แต่ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของซ่างซิน เธอรอคอยงานในวันนี้อย่างมาก เมื่อวันยังบอกกับฉันอยู่เลยว่าจะมาก่อนเวลา เธอไม่น่าจะพลาดงานนี้ไปได้ คุณชาย…”
เหนียนเสี่ยวมู่ยังพูดไม่ทันจบ มือใหญ่ข้างหนึ่งก็พลันกดลงมาบนหัวเธอ
ฝ่ามือของเขาหนักมาก แต่กลับอบอุ่น และแผ่ความรู้สึกที่เชื่อถือได้ออกมาด้วย