หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 201 สร้างเรื่อง! / ตอนที่ 202 คนที่เขาชอบ

ตอนที่ 201 สร้างเรื่อง!

 

 

นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานสงบนิ่ง บนใบหน้าเยือกเย็นนั้น ราวกับกำลังตอบเธอว่า ‘ชีวิตของคุณ เกี่ยวอะไรกับผม’

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ถลึงตาในทันที ‘ถ้าฉันตาย ใครจะช่วยคุณดูแลเสี่ยวลิ่วลิ่ว’

 

 

อวี๋เยว่หาน ‘ก็หาพยาบาลรับจ้างคนอื่น’

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ ‘…ฝันไปเถอะ!’

 

 

เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานนั่งนิ่งอยู่นานแล้ว ด้านล่างเวทีก็เริ่มมีคนพูดซุบซิบกัน

 

 

“เกิดอะไรขึ้น ไม่ได้บอกว่าคุณชายหานจะขึ้นไปพูดหรอกเหรอ”

 

 

“ฉันก็รู้นะว่าตัวเองหวังลมๆ แล้งๆ ได้มองแผ่นหลังของเทพบุตรอยู่ไกลๆ ก็น่าจะพอแล้ว ไม่ควรหวังได้เห็นหน้าตรงของเขา…”

 

 

“คุณชายหานไม่ขึ้นเวที ซ่างซินก็ไม่มาปรากฏตัวเลย เกิดอะไรขึ้นกับงานนี้เนี่ย”

 

 

“พอเธอพูดแบบนี้ขึ้นมา ฉันก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติขึ้นมาเลย…”

 

 

“…”

 

 

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ดังเข้ามาในหู

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่จับไมโครโฟนแน่น ตอนที่กำลังจะเตรียมพูดอะไรบางอย่าง หางตาก็เหลือบเห็นอวี๋เยว่หานที่นั่งอยู่ตรงส่วนแขกผู้มีเกียรติตลอดค่อยๆ ลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง

 

 

นิ้วเรียวยาวติดกระดุมเสื้อสูท ก่อนจะสาวเท้าเดินมายังเวทีอย่างสบายๆ ท่ามกลางสายตาของทุกคน

 

 

“โห” วินาทีที่เห็นเขายืนขึ้น ก็เกิดเสียงร้องด้วยความประหลาดใจขึ้นมาทันที

 

 

จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงปรบมือกึกก้อง

 

 

เงาร่างสูงส่งยังคงรักษาความเยือกเย็นของตัวเองได้โดยไม่ได้รับผลกระทบใด ชายหนุ่มเดินขึ้นเวทีไปออย่างสบายๆ และเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

นัยน์ตาสีดำล้ำลึกจับจ้องไปที่ดวงหน้าน้อยๆ ซึ่งกำลังอึ้งงันของเธอ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก

 

 

ราวกับพอใจกับปฏิกิริยาของเธออย่างมาก…

 

 

“…”

 

 

เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมาได้ เธอก็สบสายตาที่เหมือนจะหัวเราะของเขา แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ ถึงจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

 

 

“ขอบคุณค่ะคุณชายหาน ที่ยอมมาแบ่งปันมุมมองที่มีต่อโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้กับฉัน”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ ก็รีบประคองไมค์ด้วยสองมือ แล้วยื่นไปข้างหน้าเขา

 

 

อวี๋เยว่หานกลับไม่ได้ยื่นมือไปรับ เพียงแค่มองเธอด้วยนัยน์ตาสีดำเย็นชาเท่านั้น

 

 

รอยยิ้มของเหนียนเสี่ยวมู่กระตุกขึ้นมา ไม่เคยเห็นแขกผู้มีเกียรติคนไหนไม่ให้ความร่วมมือขนาดนี้มาก่อนเลย

 

 

ทว่าผู้คนด้านล่างเวทีได้เห็นอวี๋เยว่หานแล้วต่างก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ แม้แต่นักข่าวก็ยังได้กลิ่นข่าวพาดหัวครั้งใหญ่ จึงพากันเบียดมาอยู่ข้างหน้า

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ขี่หลังเสือแล้ว ทำได้แค่ถามต่อไป “ไม่ทราบว่าคุณชายหานเคยลองโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ของพวกเราหรือยังคะ คุณรู้สึกยังไงบ้างคะ”

 

 

คำถามประชาสัมพันธ์อันเป็นพื้นฐานแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องคิดเลยด้วยซ้ำ แค่ตอบตามมารยาทว่า ‘ดีมาก’ ‘ใช้ได้’ ‘ผมคิดว่าไม่เลวเลย’ ก็เป็นเกียรติมากแล้ว!

 

 

ตอนนี้เหนียนเสี่ยวมู่ไม่หวังให้อวี๋เยว่หานช่วยเธอพูดอะไร ขอแค่เขาเปิดปากตอบคำถามสักหน่อยก็พอแล้ว

 

 

แต่เธอรออยู่เกือบสิบนาทีแล้ว ชายหนุ่มตรงหน้าก็ยังไม่คิดจะเอ่ยปาก

 

 

ทำเอาเธอถลึงตาโตทันที

 

 

เขาขึ้นมาบนเวทีแล้ว แต่ไม่พูดอะไรสักคำ เตรียมจะก่อเรื่องหรืออย่างไร!

 

 

ตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่โมโหจนขมวดคิ้วมุ่น ถึงจะเห็นว่าเขาค่อยๆ ขยับริมฝีปาก “ยังไม่เคยลอง”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

ตอนนี้เธอแน่ใจแล้ว ว่าเขาไม่ได้ขึ้นมาช่วยเธอ แต่ตั้งใจทำให้เธอดูน่าเวทนาเข้าอีก

 

 

หากเปลี่ยนให้แขกผู้มีเกียรติคนอื่นขึ้นมาพูดแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่แทน ผลสุดท้ายกลับตอบว่ายังไม่เคยลองผลิตภัณฑ์ จะต้องถูกคนอื่นก่นด่าแน่

 

 

แต่คำพูดนี้ออกมาจากปากของเขา จึงไม่มีใครด้านล่างเวทีมีสีหน้าประหลาดใจสักคน

 

 

เขาเหมาะสมกับคำพูดที่ว่า ‘เกิดมาหล่อ พูดอะไรก็ไม่ผิด’ อย่างแท้จริง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อไปแล้ว!

 

 

ขณะที่เหนียนเสี่ยวมู่แทบจะสิ้นหวัง อวี๋เยว่หานก็พูดเสริมขึ้นมาอย่างสบายอารมณ์ “อีกเดี๋ยวก็ได้ลองแล้ว”

 

 

 

 

ตอนที่ 202 คนที่เขาชอบ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

พูดอะไรออกมาแค่ครึ่งเดียว น่ากลัวจริงๆ เลย!

 

 

เมื่อได้ยินว่าเขาจะปูทางให้ตัวเองด้วยเจตนาดี เหนียนเสี่ยวมู่ก็ไปตามน้ำโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง แถมยังหาเรื่องให้เขาด้วย “ไม่ต้องรออีกเดี๋ยวหรอกค่ะ พวกเราจะเชิญให้คุณชายหานลองโทรศัพท์ใหม่ของพวกเราตอนนี้เลย!”

 

 

“…” อวี๋เยว่หานเงียบกริบ

 

 

เธอนำโทรศัพท์มือถือมาไว้ข้างหน้าเขาด้วยความเบิกบานใจ ก่อนจะเปิดเครื่องและส่งให้ถึงมือของเขา

 

 

ขอเพียงเขารับโทรศัพท์มือถือนั้นไป โพสท่าสักสองสามครั้ง พูดว่าสวยอีกสักคำ ก็พลิกสถานการณ์ได้แล้ว!

 

 

ทว่าอวี๋เยว่หานแค่ชำเลืองมองโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แถมยังเหลือบมองเธอด้วยสายตาเย็นชา จากนั้น ไม่มีจากนั้นแล้ว…

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ร้อนใจ จึงคว้ามือของเขาขึ้นมา เตรียมจะยัดโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นใส่มือของเขา

 

 

แต่นิ้วมือของเธอเพิ่งจะสัมผัสเขา ก็ถูกอุณหภูมิเย็นเยียบตรงปลายนิ้วมือของเขาทำให้ตกใจ จนคิดจะหดมือกลับไปโดยสัญชาตญาณ

 

 

แต่พอคิดได้ว่าด้านล่างเวทีมีคนจับต้องอยู่มากมาบ จึงฝืนใจดึงมือของเขา และวางโทรศัพท์มือถือลงไปบนฝ่ามือของเขา

 

 

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทตระกูลอวี๋ลงทุนและร่วมมือสร้างออกมา คุณชายก็ชื่นชมสักประโยคเถอะค่ะ!

 

 

อวี๋เยว่หาน “…”

 

 

เป็นครั้งแรก ที่มีผู้หญิงกล้าจับมืออันสูงส่งของเขา อุณหภูมิที่ส่งผ่านมาจากปลายนิ้วทำให้เขาต้องหดลูกตาเลยทีเดียว

 

 

จากนั้นเขาก็หลุบตามองเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่ใต้คาง

 

 

เธอก้มหน้า กำลังมองมือของเขาด้วยความเคร่งเครียด ปอยผมของเธอร่วงหล่นลงมาด้วยความดื้อดึงอยู่บ้าง มองจากมุมของเขาแล้วเธอก็น่ารักอยู่ไม่น้อย

 

 

มือที่จับเขาอยู่ทั้งนุ่ม ทั้งอุ่น ทำให้เขาอยากจะจูงมือเธอไว้ และจับมือของเธออยู่ในฝ่ามือของตัวเองอย่างอดไม่อยู่

 

 

ผ่านไปเนิ่นนาน เขาถึงจะพิจารณาโทรศัพท์มือถือในมืออย่างที่เธอหวังเอาไว้

 

 

“เป็นยังไงบ้างคะ” เหนียนเสี่ยวมู่ถือไมโครไฟ พลางถาม

 

 

เธอกลัวว่าอวี๋เยว่หานจะสร้างเรื่องอะไรอีก จึงเตรียมคำตอบสำหรับเขาไว้เรียบร้อยแล้ว “คุณชายหานรู้สึกว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ ไม่เหมือนกับที่คุณเคยเห็นมาก่อนใช่ไหมคะ”

 

 

แค่ไม่เหมือน ไม่ทำให้เขาแสดงสีหน้าอะไรออกมาหรอก

 

 

อย่างนี้ก็นับว่าเขาให้ความร่วมมือแล้วมั้ง?

 

 

แต่ชีวิตคนไม่มีคำว่าสิ้นหวังที่สุด มีแต่คำว่าสิ้นหวังกว่าเดิม!

 

 

“ไม่เห็นความแตกต่าง” อวี๋เยว่หานช้อนลูกตาสีดำสนิทขึ้น พร้อมทั้งพูดอย่างเย็นชา

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

พวกเขาไม่คุยกันแล้วจะดีกว่าไหมนะ

 

 

ขืนคุยกันต่อไป เธอกลัวว่าตัวเองจะใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ทุบเขาจนตาย!

 

 

เธอเคยเห็นการยกเลิกงานแสดง แต่ไม่เคยเห็นการยกเลิกงานแสดงแบบนี้เลย

 

 

ทั้งงานอึดอัดจนพูดไม่ออกแทนเธอกันหมดแล้ว…

 

 

“ดูภายนอกไม่มีความแตกต่างอะไร แต่ระบบกลับทำออกมาได้เหนือชั้นมาก เป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ไม่เลวจริงๆ” อวี๋เยว่หานชำเลืองมองดวงหน้าเล็กๆ ที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ ก่อนจะยื่นมือไปรับไมโครโฟนมาพูดให้ทุกคนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำ

 

 

นี่เป็นครั้งแรก และครั้งเดียวที่เขาชมโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ตั้งแต่ขึ้นเวทีมา

 

 

เมื่อพูดจบ ทั่วทั้งงานก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นในทันใด

 

 

ที่ตื่นเต้นที่สุด คงจะไม่พ้นคนของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้า

 

 

จากคำตอบสองสามครั้งเมื่อครู่นี้ เมื่อได้ยินคำชมของอวี๋เยว่หานในตอนนี้ พวกเขาก็เกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตัน

 

 

ขาดก็แต่คุกเข่าขอบคุณอวี๋เยว่หานแล้ว!

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนยังมีคำถามอื่นอีกไหมครับ” อวี๋เยว่หานหันหลับมาเลิกคิ้วมองเธออย่างสบายๆ

 

 

ใบในหน้าหล่อเหลานั้นมีรอยยิ้มประดับอยู่ด้วย เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”

 

 

เธอไม่กล้าถามคำถามอะไรเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถืออีกแล้ว และเลือกถามคำถามที่ปลอดภัยขึ้นมาหน่อย

 

 

“ฟังจากเสียงปรบมือของแขกในงานแล้ว คุณชายหานมีชื่อเสียงโด่งดังมาทีเดียว ไม่ทราบว่าคุณชายหานชอบผู้หญิงแบบไหนคะ”

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset