หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 665 บางที อาจไม่ใช่เจ้าของห้อง / ตอนที่ 666 หลักฐาน ผู้ร้ายตัวจริง

ตอนที่ 665 บางที อาจไม่ใช่เจ้าของห้อง

 

 

“ตอนนั้นพี่สะใภ้บอกกับฉันว่า เธอร่างกายไม่แข็งแรงกลัวว่าจะเรียนตามคนอื่นไม่ทัน เลยจ้างคนมาสอนให้แบบส่วนตัว”

 

 

พอพูดถึงตรงนี้ ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบไป

 

 

คนในตระกูลสิงต่างก็นึกว่าสิงซิงเป็นลูกสาวแท้ๆ ของสามีภรรยาสิงมาโดยตลอด

 

 

พ่อแม่ดีกับลูกสาวของตัวเองก็ไม่มีอะไรน่าขัดอยู่แล้ว

 

 

แต่ถ้าสิงซิงเป็นแค่เด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง นี่มันก็ค่อนข้างแปลกแล้ว

 

 

แต่ว่า ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเธอร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เด็กๆ

 

 

ถ้าเลี้ยงไม่ดีอาจอยู่ไม่ถึงโต

 

 

อย่างไรซะ ต่อให้เป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยงแต่ก็เลี้ยงมาตั้งแต่เพิ่งลืมตาดูโลกได้แปบเดียว มันก็ต้องมีความผูกพันกันบ้าง

 

 

“พ่อแม่บุญธรรมดีกับฉันขนาดนี้ สิงลี่ก็รู้มาโดยตลอดว่าฉันถูกเก็บมาเลี้ยง เธอไม่เคยบอกกับพวกคุณเลยเหรอ”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เอ่ยถามต่อ

 

 

“ไม่มีนะ ถ้าเธอบอกออกมา เราก็คงไม่ต้องมืดมนกันอยู่นานขนาดนี้ ถ้ารู้มาก่อนว่าเธอมันเป็นตัวกาลกิณี ทำให้พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ต้องตาย เราก็คงไม่ยอมให้เธออยู่ที่ตระกูลสิงต่อหรอก แล้วก็คงไม่เป็นแบบทุกวันนี้……”

 

 

ป้าสะใภ้รองพูดแล้วจู่ๆ ก็รู้สึกถึงไอเย็นจากทางด้านหลัง

 

 

ร่างสั่นสะท้านน้อยๆ ไปทั่วร่าง

 

 

พูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ต้องรีบกลืนคำพูดนั้นลงไป

 

 

เมื่อสบกับสายตาเย็นชาของอวี๋เยว่หาน ก็ตกใจจนไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา

 

 

“พวกคุณเอาแต่บอกว่าฉันเป็นคนทำให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนั้น สรุปใครเป็นคนเห็นฉันจุดไฟกันแน่” เหนียนเสี่ยวมู่จับแขนของอวี๋เยว่หานเอาไว้แล้วเอ่ยถาม

 

 

“……”

 

 

ภายในห้องรับแขก จู่ๆ ก็เงียบสงัดลง

 

 

ลุงรองกับป้าสะใภ้รองตระกูลสิงมองสบตากัน ต่างมองเห็นความงุนงงจากสายตาของฝ่ายตรงข้าม

 

 

“ตอนนั้นพวกเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ตายแล้วจึงได้รีบไปที่เกิดเหตุ ตอนนั้นบ้านเก่าตระกูลสิงแทบเหลือแต่ซากแล้ว พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ตายแล้ว เธอก็หายตัวไป สิงลี่ถูกไฟครอกที่ใบหน้า……”

 

 

ลุงรองกับป้าสะใภ้รองหวนระลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

 

 

“ต่อมา ตำรวจที่มาตรวจสถานที่เกิดเหตุก็บอกว่าต้นไฟมันมาจากที่ห้องของเธอ แล้วห้องของเธอก็มีกะละมังที่ใช้เผาของวางอยู่ด้วย ดังนั้นเลยหาสาเหตุแน่ชัดได้แล้ว ก็คือมีคนเผาของในห้องแล้วก็ไม่ทันระวังเตะไปโดนกะละมังนั้นจนคว่ำทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นมา”

 

 

พอได้ยินคำพูดของลุงรอง ป้าสะใภ้รองก็เอ่ยเสริม

 

 

“ใช่ๆ เป็นแบบนั้นแหล่ะ ผลสรุปของทางตำรวจบอกว่าห้องของเธอทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น บวกกับที่พอสิงลี่ตื่นขึ้นมาก็บอกกับพวกเราว่าคืนนั้นเธอทะเลาะกับพ่อแม่ โกรธจนตะโกนออกมาว่าจะฆ่าทุกคนให้หมด นอกจากเธอแล้ว ใครจะเป็นคนจุดไฟเผาได้อีก”

 

 

ตอนนั้นตระกูลสิงมีเสียชีวิตสองคน คนบาดเจ็บอีกหนึ่ง มีเพียงสิงซิงที่หายตัวไป

 

 

ทางตำรวจไปตรวจสอบจากเถ้าถ่านที่มอดไหม้ไป แต่ก็ไม่พบศพของหญิงสาว

 

 

ตอนนั้นเธอเป็นแค่เด็กอายุสิบกว่าขวบ เด็กอายุสิบขวบจะหนีไปที่ไหนได้

 

 

หาศพไม่พบ ทุกคนจึงได้แต่คิดว่าเธอถูกเผาจนกลายเป็นผุยผงไปแล้ว

 

 

ไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่

 

 

“ต้นไฟมาจากห้องของฉัน……” สีหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่ซีดเผือด

 

 

ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง อย่างนั้นสาเหตุทำให้เกิดไฟไหม้ก็อาจจะเป็นเพราะเธอจริงๆ

 

 

เธอจำเรื่องในอดีตไม่ได้แล้ว

 

 

ถ้าหากสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้มาจากเธอจริงๆ อย่างนั้นการตายของพ่อแม่บุญธรรมของเธอ……

 

 

“ไม่มีทางเป็นคุณ” อวี๋เยว่หานกำมือของหญิงสาวไว้แน่น

 

 

“ความทรงจำของคนอาจจะลืมมันไปได้ แต่ว่านิสัยที่แท้จริงของคนคนนั้นไม่มีทางเปลี่ยนได้ คุณไม่ใช่คนประเภทที่พอทะเลาะกับพ่อแม่แล้วจะพูดออกมาว่าอยากให้พวกท่านตาย”

 

 

แววตาของชายหนุ่มขรึมลง

 

 

“อีกอย่าง คุณยังลืมประเด็นสำคัญไป ไฟมาจากห้องไหน ไม่ได้หมายความว่าคนที่เผาของอยู่ในห้องจะเป็นเจ้าของห้องเท่านั้น!”

 

 

 

 

 

ตอนที่ 666 หลักฐาน ผู้ร้ายตัวจริง

 

 

น้ำเสียงของอวี๋เยว่หานต่ำแต่มีพลัง

 

 

เต็มไปด้วยเสน่ห์อันห้าวหาญ

 

 

สิ้นเสียงนั้น ลุงรองกับป้าสะใภ้รองตระกูลสิงก็อึ้งงันไป

 

 

สีหน้าเต็มไปด้วยร่อยรอยแห่งความสงสัย เอ่ยแย้ง

 

 

“ตอนนั้นที่บ้านสิงมีแค่พวกเขาสี่คน ถ้าสิงซิงไม่ได้เป็นคนจุดไฟ แล้วตอนนั้นเธออยู่ที่ไหนล่ะ ไฟลุกไหม้จนเผาทุกอย่างมอดวายหมด คนในครอบครัว มีทั้งตายทั้งบาดเจ็บ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้หายไปไหน แล้วตอนนี้ก็มายืนอยู่ตรงหน้าพวกเราอย่างปกติที่สุด คุณคงจะไม่ได้บอกว่า สิงลี่วิ่งไปเผาของในห้องของสิงซิง แต่สุดท้ายสิงซิงไม่เป็นอะไรเลย ส่วนสิงลี่ทำให้หน้าของตัวเองเสียโฉมหรอกใช่ไหม นี่มันไม่มีเหตุผลเลยนะ”

 

 

สิ้นคำพูดของลุงรองกับป้าสะใภ้รอง ทุกคนต่างก็เงียบไปอีก

 

 

เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นผ่านไปนานมากเกินไปแล้ว

 

 

มีหลายอย่างที่ไม่สามารถกลับไปตรวจสอบได้อีก

 

 

ก็เหมือนกับที่ลุงรองสิงพูด ครอบครัวทั้งสี่คน คนตายกับคนเจ็บรวมกันสามคน มีแค่สิงซิงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นอะไรเลย

 

 

ประกอบกับคำให้การของสิงลี่

 

 

ตอนนี้ไม่ว่าใครจะตัดสินก็ต้องคิดว่าสิงซิงคือผู้ร้ายที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนั้น!

 

 

“ฉันเห็นเสี่ยวลี่มาตั้งแต่เด็กๆ แม้นิสัยเธอจะแข็งกร้าวไปบ้าง แต่ว่าก็เป็นเด็กกตัญญู ปกติเวลาพูดกับคนอื่นก็ไม่เคยเสียงดัง เธอไม่ใช่คนที่จะเกลียดคนอื่นเพียงเพราะเรื่องเล็กๆ ถ้าไม่ใช่เพราะสิงซิงทำให้พ่อแม่ของเธอตาย สิงลี่ก็คงไม่อยากให้เธอตายตั้งแต่เจอหน้ากันแบบนั้น ถึงขนาดไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองวิ่งไปหานักข่าวแบบนั้น”

 

 

ป้าสะใภ้รองสิงพูดถึงตรงนี้ ดวงตาก็เริ่มแดงก่ำขึ้น

 

 

อย่างไรก็เป็นลูกสาวที่เธอเลี้ยงดูมาเป็นสิบปี

 

 

“ถ้าไม่ใช่เพราะสิงซิง ตระกูลสิงของเราก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพเหมือนอย่างทุกวันนี้ สิงลี่ก็คงไม่ต้องเสียทั้งพ่อทั้งแม่กลายเป็นเด็กกำพร้าเพียงชั่วพริบตาแบบนี้ เธอยังเก็บความเคียดแค้นเอาไว้อยู่ตลอดเวลา!”

 

 

ถ้าสิงซิงตายไปแล้วก็ว่าไปอย่าง แต่เธอยังอยู่ดีเป็นสุข พูดออกมาคำเดียวว่าลืมสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้ทั้งหมดไปหมดสิ้น

 

 

ในสายตาของลุงรองและป้าสะใภ้รองสิง สิงลี่ต่างหากคือผู้ที่ได้รับความเสียหาย

 

 

สูญเสียพ่อแม่ไป ใบหน้าเสียโฉม ตอนนี้ยังต้องมองดูผู้ร้ายตัวจริงมีชีวิตอย่างมีความสุขอีก

 

 

ไม่มีใครนึกถึงว่าสิงลี่จะไปเปิดเผยตัวตนกับนักข่าว แต่พอได้ยินข่าวนี้ ในใจของพวกเขาก็รู้สึกสะใจอยู่ไม่น้อย

 

 

แม้ว่าตระกูลสิงของพวกเขาจะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ว่าตอนที่พ่อแม่ของสิงลี่ยังอยู่ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้องของตัวเอง

 

 

จะตกอยู่ในสภาพที่ต้องออกไปทำงานขอคนอื่นกินอยู่อย่างนี้เหรอ……

 

 

พูดตามตรงแล้ว เรื่องทุกอย่างนี้มันก็เป็นเพราะสิงซิงคนเดียว

 

 

พวกเขาเกลียดจนแทบอยากจะจับหญิงสาวไปเข้าคุก โดยไม่รอหลักฐานว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นเกี่ยวข้องกับเธอจริงหรือเปล่า

 

 

“พูดตรงๆ แล้ว พวกคุณก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าฉันเป็นคนทำให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นจริงหรือเปล่าใช่ไหม” เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินคำพูดของป้ารอง แววตาก็เป็นประกาย

 

 

 เป็นเพราะว่าต้นไฟมาจากห้องของเธอ ทุกคนเลยสรุปกันเอาเองว่าเธอเป็นคนทำให้เกิดไฟไหม้

 

 

ถ้าเกิดเป็นอย่างที่อวี๋เยว่หานพูดจริงๆ

 

 

หากว่าคนที่เผาของอยู่ในห้องของเธอไม่ใช่เธอล่ะ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กัดริมฝีปาก พยายามนึกถึงภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ในคืนนั้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามนึกอย่างไร เธอก็นึกไม่ออก……

 

 

ขอแค่เธอนึกได้ว่าคืนนั้นเธอเป็นคนเผาของในห้องตัวเองจริงหรือเปล่า

 

 

หรือว่าเธออยู่ในห้องหรือไม่ ความจริงในเรื่องไฟไหม้ก็จะกระจ่างขึ้น……

 

 

“ห้องของสิงลี่อยู่ที่ไหน ฉันอยากไปดูหน่อย” เหนียนเสี่ยวมู่เอ่ยขึ้น

 

 

แม้ว่าป้ารองจะไม่ชอบเหนียนเสี่ยวมู่ แต่ว่ามีอวี๋เยว่หานอยู่ด้วย เธอจึงจำเป็นต้องตอบคำถาม

 

 

“อยู่ด้านหน้า เดินเข้าไปเลี้ยวขวาห้องแรกก็คือห้องของเธอ”

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset