ตอนที่ 713 หวานปกติ
บ้าไปแล้ว……
เหนียนเสี่ยวมู่ดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่าอาการของสิงลี่ดูไม่ปกติ
แต่เธอนึกไม่ถึงว่าสิงลี่จะเป็นบ้าจริงๆ
ใบหน้าของหญิงสาวปรากฏแววประหลาดใจขึ้นมาแวบหนึ่ง หันไปมองทางอวี๋เยว่หานอย่างสับสน
แต่อวี๋เยว่หานกลับดูนิ่งปกติ ราวกับว่าเดาไว้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์ต้องออกมาแบบนี้ เขาจูงหญิงสาวเดินออกไปจากสถานีตำรวจ
เมื่อขึ้นรถ ก็บอกให้คนขับรถออกรถ
“เราจะไปไหนกัน” เหนียนเสี่ยวมู่หันไปมองชายหนุ่ม
อวี๋เยว่หาน “ไปโรงพยาบาล”
“โรงพยาบาล? คุณสงสัยว่าสิงลี่แกล้งป่วยเพื่อหาช่องโหว่ทางกฎหมายเหรอ” เหนียนเสี่ยวมู่อึ้งงันไป พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ การกระทำก่อนหน้านี้ของสิงลี่ หากพวกเธอยืนกรานจะฟ้องร้องอย่างน้อยก็ต้องจกคุกหลายปี
แต่ถ้าเธอเป็นบ้าไปตอนนี้
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เรื่องข่าวลือที่เธอแพร่กระจายไปทั่ว หากจะเอาเรื่องจริงๆ ก็ทำได้แค่เอาเรื่องคนบ้าคนหนึ่งที่ปล่อยข่าวก็เท่านั้น
เมื่อคิดได้แบบนี้ อาการบ้าของเธอก็อาจจะเป็นการแกล้งทำจริงๆ ก็ได้
“แต่จากที่ฉันเห็นท่าทางของสิงลี่ อาการ PTSD ไม่น่าจะแกล้งทำนะ หากเธอแกล้งทำจริงๆ แพทย์มืออาชีพก็ไม่น่าจะดูไม่ออก และด้วยความสามารถของเธอก็คงไม่มีทางขอให้แพทย์ปลอมใบรับรองแพทย์ได้แน่”
เหนียนเสี่ยวมู่วิเคราะห์อย่างตั้งใจ
สิ้นเสียง ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของอวี๋เยว่หานดังขึ้นเบาๆ
คนที่ไม่ค่อยหัวเราะ พอหัวเราะออกมาช่างดูมีเสน่ห์เอามากๆ
เพียงแค่เห็นมุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มขึ้น ก็ทำให้ใบหน้าที่ดูเย็นชาของเขาเปลี่ยนเป็นดูอ่อนโยนได้ในทันที
ดวงตาสีดำสนิททั้งสองข้างลำลึกราวกับสระน้ำลึก
มองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ทำให้คนเอาแต่มองอยู่ที่เขาไม่วางตาโดยไม่รู้ตัว ราวกับดวงตาทั้งสองข้างนั้น กำลังจะพูดอะไรออกมา……
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองมองใบหน้างดงามของชายหนุ่มจนสติหลุดลอยไป จึงกระแอมไอออกมาอย่างกระอักกระอวน
วินาทีต่อมา ชายหนุ่มก็ยื่นมือมาลูบศีรษะหน้าผากของหญิงสาว
“เหนียนเสี่ยวมู่ กินผลไม้เคลือบน้ำตาลจนโง่ไปแล้วเหรอ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “???”
“คุณพูดดีๆ อย่าลงไม้ลงมือ” เหนียนเสี่ยวมู่ปัดมือของเขาออก
“สิงลี่ไม่ได้บ้า เราจะไปหาเธอที่โรงพยาบาล ถ้าสิงลี่บ้าจริงๆ เราก็ยิ่งต้องไปหาเธอ” อวี๋เยว่หานพูดพลางยืดขายาวออก เอนตัวพิงเบาะ มือข้างหนึ่งรองอยู่ที่ท้ายทอย แล้วเหลือบมองดูหญิงสาวแวบหนึ่ง
สื่อประมาณว่า “เทพบุตรจุดประกายให้แล้ว จะเข้าใจหรือไม่อยู่ที่สติปัญญาของคุณเอง”
“……”
คำถามที่ติดอยู่ที่ปากของเหนียนเสี่ยวมู่ กลืนลงลำคอไปทันทีที่ชายหนุ่มมองมาด้วยสายตาแบบนั้น
หากเธอถามออกไปในตอนนี้ ก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่าเธอไม่มีสติปัญญา
เทพธิดาไม่มีทางยอมแพ้หรอก!
เหนียนเสี่ยวมู่ก้มหน้าลง พิจารณาคำพูดเมื่อครู่ของชายหนุ่มอย่างจริงจัง
ไม่รู้ว่าตัวเองพึมพำอะไรอยู่ ปากขยับมุบมิบราวกับชะมด……
ดวงตาของอวี๋เยว่หานนิ่งลึก ก้มหน้าลงไปใกล้ๆ เธอ กำลังจะทำอะไรบางอย่าง หญิงสาวก็เด้งตัวขึ้น กระโดดไปนั่งบนเบาะ จับชายเสื้อของชายหนุ่มเอาไว้แล้วตะโกนอย่างตื่นเต้น
“ฉันรู้แล้ว รู้แล้ว! คุณต้องคิดว่าหากสิงลี่เป็นบ้าไปแล้วจริงๆ พวกเราก็สามารถล้วงเอาความลับจากเธอได้ง่ายขึ้น ไม่แน่อาจรู้เรื่องชาติกำเนิดของฉันด้วยใช่ไหม”
เธอพูดจบก็โน้มหน้าไปหอมแก้มชายหนุ่มทีหนึ่งอย่างดีใจ
จากนั้นก็ผละออกห่าง เบิกตาโพลงนั่งอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มอย่างเรียบร้อย พลางทำสีหน้าส่งสายตาขอรางวัลไปให้เขา
ตอนที่ 714 แบบนี้ก็ร้ายกาจมาก!
เหนียนเสี่ยวมู่ได้สติขึ้นมาตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตนเองทำอะไรลงไป ใบหน้าแดงก่ำขึ้น
มองไปยังสีหน้าที่ดูอึ้งๆ ของอวี๋เยว่หาน ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป
เขาคงไม่ได้โมโหที่เมื่อครู่ถูกเธอแต๊ะอั๋งหรอกใช่ไหม
แม้ว่าเธอจะจูบเขาอย่างกะทันหันไปหน่อย แต่ว่าพวกเธอก็ใกล้จะหมั้นกันอยู่แล้ว แค่จูบเดียว เขาคงไม่คิดเล็กคิกน้อยหรอก
ขนาดจูบยังไม่ให้จูบเลย……
หรือว่าเธอจะขอโทษเขาดีนะ
แต่ว่าหากทำแบบนั้นก็เท่ากับเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของเทพธิดาน่ะสิ
อีกอย่าง เทพธิดาเป็นประเภทที่ยั่วเสร็จแล้วก็หนี การที่เธอยังนั่งอยู่ตรงนี้เพื่อรอรับผิดชอบเขามันก็ดีมากแล้วนะ
หากเขายังปรับตัวไม่ทัน เธอหอมอีกหลายครั้งๆ ก็ได้
“อวี๋เยว่หาน……”
“คุณชายหาน ถึงโรงพยาบาลแล้วครับ” เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะเอ่ยพูด แต่คนขับรถกลับจอดรถแล้วหันมาบอกกับชายหนุ่มอย่างเคารพ
เหนียนเสี่ยวมู่จึงนึกขึ้นมาได้ว่าอวี๋เยว่หานยังไม่ได้ตอบคำถามเมื่อครู่ของเธอเลย
อีกอย่าง สายตาที่มองดูเธอ ทำไมมันถึงดูแปลกๆ นะ……
“ลงไปก่อน” อวี๋เยว่หานพูดขึ้น
เหนียนเสี่ยวมู่ผลักประตูรถเตรียมลงไปทันที
แต่มือยังไม่ทันจะแตะโดนประตู อวี๋เยว่หานก็รั้งเธอกลับมา สายตาเย็นชามองไปทางคนขับที่นั่งอยู่ด้านหน้า
“ฉันบอกให้นายลงไปก่อน”
คนขับรถ “……”
คนขับลงไปจากรถด้วยความรวดเร็ว
บริเวณเบาะด้านหลังที่มีเนื้อที่ไม่มากนัก ตอนนี้เหลือพวกเขาอยู่แค่สองคน
เหนียนเสี่ยวมู่ถูกกดอยู่ตรงประตูรถ มองไปที่อวี๋เยว่หานที่ดูแปลกไปอย่างไม่เข้าใจ
คงไม่ใช่เพราะโมโหที่ถูกเธอแต๊ะอั๋งจริงๆ หรอกใช่ไหม
ขี้งกจริงๆ
ให้จูบกลับก็ได้ พอใจหรือยัง
“ฉันจูบคุณไปทีเดียวเอง ถ้าคุณไม่ชอบ ต่อไปฉันไม่จูบแล้วก็ได้……”
“จูบอีกรอบ” จู่ๆ เขาก็เอ่ยพูดขึ้น
น้ำเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่ม แหบแห้งและมีเสน่ห์มาก
มั่นเข้ายวนเป็นอย่างมาก
ประเด็นสำคัญคือความหมายของประโยคนี้……
นี่เธอถูกยั่วกลับอย่างนั้นเหรอ
เมื่อกี้เขายังทำหน้าไม่เต็มใจ ไม่อยากให้เธอจูบอยู่เลยไม่ใช่เหรอ
ตอนนี้มาบอกให้เทพธิดาจูบ เทพธิดาก็ต้องจูบหรือไงกัน
เหนียนเสี่ยวมู่ “ไม่จูบ!”
เทพธิดาก็มีความทระนงในตัวเองเหมือนกันนะ
อวี๋เยว่หานขมวดคิ้ว “จูบอีกที เดี๋ยวผมจะซื้อผลไม้เคลือบน้ำตาลให้อีกไม้หนึ่ง”
“สิบไม้! กินเองเก้าไม้ อีกไม้หนึ่งจะเอาไปให้เสี่ยวลิ่วลิ่ว” เหนียนเสี่ยวมู่พูดอย่างไม่ต้องคิด
อวี๋เยว่หาน “……”
เป็นแม่แท้ๆ จริงๆ
ยังอุตส่าห์บอกออกมาว่าจะเอาไปให้เสี่ยวลิ่วลิ่วไม้หนึ่ง
เหนียนเสี่ยวมู่มองสายตาล้อเลียนของชายหนุ่มออก จึงเอ่ยอธิบายอย่างเป็นการเป็นงาน “ฉันไม่ได้งกนะ มันดีต่อเสี่ยวลิ่วลิ่ว แกยังเด็ก ทานของหวานเยอะไม่ได้ ฉันโตแล้วทานเยอะได้ ไม่เป็นไร”
สิ้นเสียง ก็เงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างรอคอบคำตอบ
“สองไม้” ริมฝีปากบางของอวี๋เยว่หานค่อยๆ เอ่ยขึ้น “ทานของหวานเยอะเกินไปไม่ดีต่อร่างกายของคุณ”
“แปดไม้!”
อวี๋เยว่หาน “สองไม้”
“หกไม้!”
อวี๋เยว่หาน “สองไม้”
“สี่ไม้! ห้ามน้อยกว่านี้แล้ว!” เหนียนเสี่ยวมู่พูดอย่างร้อนรน
ไม่ให้เธอกินแม้กระทั่งผลไม้เคลือบน้ำตาล เขายังอยากมีคู่หมั้นคนนี้อยู่หรือเปล่านะ
อวี๋เยว่หานเหล่มองดูหน้าไม่สบอารมณ์ของหญิงสาว แล้วก็เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น “สองไม้”
เหนียนเสี่ยวมู่ “……”!!
เหนียนเสี่ยวมู่จ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่ม เอื้อมมือไปผลักประตูรถเตรียมลงไป
อวี๋เยว่หานเลิกคิ้วขึ้น “สี่ไม้ก็สี่ไม้”
“……”
“หกไม้ พอใจหรือยัง”
“……”
“เหนียนเสี่ยวมู่แปดไม้ก็มากเกินไปแล้วนะ คุณมีเวลาตัดสินใจสามวินาที” อวี๋เยว่หานพูดขู่ ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา เหนียนเสี่ยวมู่ก็สะบัดแขนของชายหนุ่มออก ลงจากรถไป
จากนั้นก็หันกลับมา หยยิบเงินออกมาจากระเป๋าหนึ่งร้อยหยวน เธอยิ้มจนตาหรี่
“จู่ๆ ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าเทพธิดาก็มีเงินเหมือนกัน ซื้อเองได้!”