ตอนที่ 747 ไม่ใช่ประโยคนี้!
สายเกินไปที่อวี๋เยว่หานที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอจะทำอะไรได้ เหนียนเสี่ยวมู่ดูวิดีโอสองตอนนี้จบแล้ว เธอยืนตกตะลึงอยู่หน้าโต๊ะทำงาน
หลังจากนิ่งไปเป็นเวลาเกือบสิบวินาที ก็เงยหน้าไปทางอวี๋เยว่หาน
ที่เขาอารมณ์ไม่ดีก็เป็นเพราะวิดีโอสองตอนนี้สินะ?
“คุณชายหาน ตอนนี้เธอก็อยู่ตรงนี้แล้ว แค่คุณเทียบกับคนที่อยู่ในวิดีโอก็จะพบว่านั่นไม่ใช่ฉัน เรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉันจริงๆ!!” เซียวเวยรีบวิ่งไปข้างหน้าเมื่อเห็นสถานการณ์ผิดปกติ เธออธิบายให้ตัวเอง
ตอนนี้เธอกลัวจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นความร่ำรวยหรือยศถาบรรดาศักดิ์ เธอก็ไม่กล้าอยากจะได้มันแล้ว เธออยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
เมื่อเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ปรากฏตัว อารมณ์ถึงจะสงบลงได้
แทบทนไม่ไหวที่จะยืนขึ้นและระบุว่าเธอคือผู้หญิงในวิดีโอนั้น
เพื่อขจัดข้อสงสัยแทนตัวเอง
เมื่อเห็นว่าอวี๋เยว่หานไม่พูดก็ตะโกนอีกครั้ง
“คุณก็เคยถามฉันแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนั้นฉันไม่ได้อยู่ในประเทศ และเมื่อกี้คุณก็ถามโรงพยาบาลไปแล้วนี่ว่าเธอไม่เคยหมดสติ คุณชายหาน คนที่หลอกลวงคุณก็คือเธอ!” มือเซียวเวยชี้ไปทางเหนียนเสี่ยวมู่ในทันใด
“……”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ สายตาเหนียนเสี่ยวมู่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เธอชำเลืองมองไปทางเซียวเวยพร้อมกับพูดเสียงเข้ม “เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“ฉันบอกว่าคนที่อยู่ในวิดีโอคือเธอ…” เซียวเวยผงะอันเนื่องมาจากสายตาอันแหลมคมของเธอ น้ำเสียงเบาลงไปมาก
เหนียนเสี่ยวมู่กลับขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ประโยคนี้!”
เซียวเวย “ฉัน ฉัน ฉัน…”
เซียวเวยเหมือนกลับมายังสภาพที่เธอสำลักจนพูดไม่ออก เคร่งเครียดอยู่นานก็ข่มใจไม่พูดออกมาสักประโยค
ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะช่วยอธิบายให้เธอ
“พวกเราได้รับการยืนยันจากทางโรงพยาบาลมาแล้วว่าเมื่อสามปีก่อนคุณได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และแพทย์เจ้าของไข้ก็คือถานเปิงเปิง คุณไม่ได้หมดสติไปจนนอนเป็นผัก แต่คุณกลับหายเป็นปกติและออกจากโรงพยาบาลได้ภายในหนึ่งเดือน”
เมื่อคำพูดผู้ช่วยสิ้นสุดลง เหนียนเสี่ยวมู่ก็สั่นไปทั้งตัว
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ
เหมือนกับได้ยินเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อ
เธอรักษาตัวเพียงหนึ่งเดือนก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว…
“วิดีโอในคอมพิวเตอร์ถูกถ่ายตอนที่คุณเช่าตู้นิรภัยจากธนาคารเมื่อสามปีที่แล้ว และสองปีก่อนตอนที่คุณพาคุณหนูมาส่งที่บริษัทตระกูลอวี๋ด้วยตัวเอง” ผู้ช่วยเห็นเธอตกตะลึงก็พูดเสริม
“ฉันส่ง…” เหนียนเสี่ยวมู่ทวนคำพูดของผู้ช่วยเหมือนคนผิดปกติ
เธอเข้าใจทุกคำพูดของผู้ช่วยทุกคำ
แต่พอรวบรวมความหมาย ดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น…
เหนียนเสี่ยวมู่กัดริมฝีปากและหันไปดูวิดีโอในคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
คนที่อยู่ในวิดีโอเหมือนเธอทุกประการ
ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้ แม้ว่าเธอจะไม่อยู่ตรงนี้ แค่เพียงตั้งใจดูก็มองออกแล้วว่าไม่ใช่เซียวเวย
ทว่าสิ่งที่อวี๋เยว่หานคิดเป็นสิ่งแรกไม่ใช่ถามเธอ แต่ตรวจสอบเซียวเวยก่อน…
เขาเชื่อเธอ
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ในใจลึกๆเขาไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเธอ
ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้หัวใจของเหนียนเสี่ยวมู่ถึงไม่สบายใจขึ้นมากะทันหัน
ในหัวฉายภาพตอนที่เธอเพิ่งเข้ามา
เขาสูญเสียการควบคุมจนทำร้ายตัวเองเพราะเธอ…
แม้เธอจะดูวิดีโอทั้งสองนี้แล้ว เธอก็คิดว่าตัวเองน่าสงสัยที่สุด แต่เขากลับไม่ได้ถามเธอและแบกรับมันไว้อย่างเงียบๆ
“อวี๋เยว่หาน ฉันจำไม่ได้แล้ว ฉันจำไม่ได้ว่าฉันเคยไปบริษัทตระกูลอวี๋มาก่อน แล้วยังเช่าตู้นิรภัยธนาคาร ฉันไม่ได้โกหกคุณ” เหนียนเสี่ยวมู่เดินมาข้างหน้าแล้วยื่นมือจับนิ้วก้อยเขาอย่างแรง
ตอนที่ 748 เปิงเปิง ฉันเอง…
“งั้นเรื่องที่หมดสติเป็นเวลาหนึ่งปีล่ะ? คุณก็ไม่ได้หลอกผมเหมือนกันเหรอ” อวี๋เยว่หานหลุบตาจ้องไปที่มือของเขาที่ถูกกุมไว้ นัยน์ตาเข้มปกคลุมไปด้วยแสงสว่างที่ดูซับซ้อน
เขาอยากจะเชื่อเธอ เชื่อในการตัดสินใจของตัวเอง
นี่คือผู้หญิงที่เขารัก เขารู้จักเธอดีว่าเธอเป็นคนยังไง เธอไม่ใช่คนลึกลับซับซ้อนอะไร
แต่หลักฐานมากมายเหล่านั้นชี้ไปที่เธอ พิสูจน์ว่าคำพูดทุกประโยคที่เธอเคยพูดล้วนไม่จริง เขาจะเชื่อได้อย่างไร?
“ฉัน…” เหนียนเสี่ยวมู่พูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เธอเองก็ไม่รู้
เธอจำได้แค่ว่าเธอนอนไม่ได้สติเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม แต่ทำไมสิ่งที่เธอจำได้มันผิดไปหมด?
เมื่อสามปีก่อน คนที่ไปเช่าตู้นิรภัยธนาคารคือตัวเธอเอง
เมื่อสองปีก่อน เธอยังส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วไปที่บริษัทตระกูลอวี๋
แต่ทำไมเธอถึงจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย?
เธอคิดมาตลอดว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ นอนไม่ได้สติมาโดยตลอดโดยมีถานเปิงเปิงช่วยไว้
เธอเสียลูกไปตั้งแต่เกิด
เธอไม่รู้มาก่อนว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นลูกสาวของเธอ ถ้าจู่ๆไม่ได้รับโทรศัพท์จากธนาคารและได้รับรายงานการตรวจDNA เธอก็คงไม่รู้
เหนียนเสี่ยวมู่ปล่อยมือ มือทั้งสองกุมศีรษะ ทึ้งผมตัวเองและถอยหลังโดยสัญชาตญาณ
ดวงตาเริ่มสับสน
ในหัวปรากฏภาพมากมายในเวลาเดียวกัน แต่สักพักก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของอวี๋เยว่หาน เธอก็ไม่สามารถตอบอะไรได้นอกจากคำว่าไม่รู้
เธอเป็นเสียแบบนี้แล้วยังจะขอให้เขาเชื่อได้อย่างไร?
แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองเคยทำอะไรไปบ้าง…
“เปิงเปิง! ตั้งแต่เริ่มมีความทรงจำ เปิงเปิงเป็นคนดูแลฉัน เธอจะต้องยืนยันได้ว่าคนในวิดีโอไม่ใช่ฉัน!”
เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อโดยไม่รอให้อวี๋เยว่หานพูดอะไร
ถานเปิงเปิงเพิ่งบอกเธอมาว่าวันนี้ตัวเองจะกลับจากต่างประเทศ
ตราบใดที่ถานเปิงเปิงยืนยันได้ว่าเมื่อสองปีก่อนเธอหมดสติไปจริงๆ ดังนั้นคนที่ไปเช่าตู้นิรภัยธนาคารและยังส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วไปที่บริษัทตระกูลอวี๋ก็จะไม่ใช่เธอ
เหนียนเสี่ยวมู่ต่อสายหาถานเปิงเปิงและรอด้วยความประหม่า
ไม่นานก็โทรติด
“เปิงเปิง ฉันเอง…”
“ตู้ดตู้ด——”
ทันทีที่เหนียนเสี่ยวมู่เอ่ยปาก โทรศัพท์ก็ตัดสายไป
เธอนิ่งไปสักพักและต่อสายอีกครั้ง แต่โทรศัพท์อีกฝ่ายกลับปิดเครื่องไปแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาสีเข้มอันล้ำลึกของอวี๋เยว่หาน เธอก็เหม่อลอยอยู่นาน ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้และเปิดข้อความ
ในนั้นมีเที่ยวบินกลับประเทศที่ถานเปิงเปิงเคยส่งให้เธอก่อนหน้านี้ รวมถึงเวลาบินด้วย
ตอนนี้ตรงกับเวลาเครื่องบินออกพอดี
“เครื่องบินเปิงเปิงกำลังออก ตอนนี้เธอยังรับโทรศัพท์ไม่ได้ รอเธอกลับมาจะต้องรู้แน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้น!” เหนียนเสี่ยวมู่มองไปทางอวี๋เยว่หานด้วยความประหม่าเล็กน้อยในขณะที่ถือโทรศัพท์
เธอไม่มั่นใจว่าเขาจะเชื่อเธอหรือไม่
หรือว่าในใจลึกๆแล้วเขาตัดสินไปแล้วว่าเธอเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด…
เหนียนเสี่ยวมู่ยืนนิ่งเหมือนเด็กน้อยที่ไม่มีทางเลือกพลางจ้องมองเขา
เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีการตอบสนองเป็นเวลานาน เธอก็หลุบตาลงด้วยความผิดหวัง
ก็ถูก
ถ้าเป็นเธอ เธอก็ไม่เชื่อ
คงไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้น เมื่อสองปีก่อน มีคนจับภาพเธอตอนที่ส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วไปที่บริษัทตระกูลอวี๋ พอสองปีต่อมา เธอบังเอิญไปสัมภาษณ์ที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋และได้เป็นพยาบาลของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
ตอนนี้หลักฐานทั้งหมดชี้มาที่เธอ ซึ่งแม้แต่เธอก็ไม่เชื่อตัวเอง
การที่เขาไม่เชื่อก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก
เหนียนเสี่ยวมู่ปลอบใจตัวเองว่าอย่าผิดหวัง อย่าเสียใจ…
ภาระเร่งด่วนคือต้องหาหลักฐานและตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น คนในวิดีโอใช่เธอหรือไม่