ตอนที่ 751 ซนหน่อยก็สุขใจแล้ว
อวี๋เยว่หาน “…”
ถ้าเขาเชื่อว่ากินปลาเพียงคำเดียวทำให้แผลอักเสบได้ เขาคงโง่ไปแล้ว
ดวงตาสีเข้มของอวี๋เยว่หานมีแสงคมกริบ เขาหันหน้าไปทางผักใบเขียวที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง “ผักคำนึง”
และเป็นที่แน่นอนว่าตะเกียบของเหนียนเสี่ยวมู่พุ่งตรงไปที่หน่อไม้รมควัน
พอคีบเสร็จก็เข้าปากตัวเอง จากนั้นก็ถึงจะคีบให้เขากิน
เมื่อเห็นเขามองอย่างไม่พอใจก็อธิบายพร้อมกับยิ้มตาหยี “ถึงนี่จะไม่ใช่สีเขียว แต่มันก็ถือว่าเป็นผักและยังอร่อยมากด้วย”
“……”
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว
ถ้าวันนี้เขาอยากกินของที่ตัวเองอยากกิน ก็เลือกของที่ตรงกันข้าม
ไม่ง่ายเลยที่เขาจะใช้เคล็ดนี้ พอทานอาหารจานโปรดของตัวเองไปได้ไม่กี่คำ ในไม่ช้าก็ถูกเหนียนเสี่ยวมู่จับได้
คราวนี้เขาบอกว่าอยากกินอะไร เธอจะคีบอันนั้นให้เขา และกลับเข้าสู่การตกนรกทั้งเป็น…
“เหนียนเสี่ยวมู่ ผมเป็นคนป่วยนะ” อวี๋เยว่หานกัดฟันเตือน
“อื้อ ตัวเองรนหาที่เอง ไม่ควรค่าแก่การเห็นใจ” เหนียนเสี่ยวมู่พูดพลางเปิดโทรศัพท์ เธอมองไปทางอวี๋เยว่หานที่ทำท่าทางน่าสงสารแล้วถ่ายคลิปสั้นๆเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ
ปากยังคงบ่นพึมพำ
“พอเลิกงานกลับบ้านไป ฉันจะให้เสี่ยวลิ่วลิ่วดู แล้วบอกเธอว่านี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี”
อวี๋เยว่หาน “…” !!
อวี๋เยว่หานยกชาเก๊กฮวยตรงหน้าขึ้นมาจิบทีละคำ
เขาจิบไปไม่มากเพื่อลดความโมโห กลัวว่าควันจะลอยขึ้นจากหัวเอาได้
รอจนทานอาหารเสร็จก็ลุกขึ้นยืนจากโต๊ะอาหาร ขณะที่กำลังเตรียมจะออกจากร้านอาหาร เหนียนเสี่ยวมู่ก็พบว่าเขาจับมือเธออีกแล้ว
ดูเหมือนว่าวันนี้อวี๋เยว่หานจะชอบจับมือเธอเป็นพิเศษ
แม้ปกติเขาจะชอบจับอยู่แล้ว แต่ไม่ได้จับแน่นเหมือนวันนี้ราวกับว่าเธอจะหายไปเมื่อเขาปล่อยมือ
เหนียนเสี่ยวมู่ใจกระตุกเล็กน้อยพลางชำเลืองมองไปที่เขา
ชายที่อยู่ตรงหน้ากำลังรับใบเสร็จจากบริกรและปล่อยมือเพื่อเซ็นชื่อ
อวี๋เยว่หานสังเกตเห็นสายตาของเธอจึงหันไปมอง “มีอะไร?”
“คิดว่าคุณหล่อดีก็เลยอยากจะมองให้เต็มตา” เหนียนเสี่ยวมู่ตอบติดตลกทีเล่นทีจริง
พอพูดจบก็เห็นรอยยิ้มทั้งรักทั้งหลงตรงมุมปากอวี๋เยว่หาน เขายกมือขึ้นมาตบหัวเธอเบาๆ
“ซน!”
บริกรที่อยู่ด้านข้างน่าจะไม่เคยเห็นอวี๋เยว่หานยิ้มแบบนี้มาก่อน เขาถึงกับตะลึงงัน
พอที่ได้รับใบเสร็จที่เซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วก็ลืมพูดไปโดยปริยาย
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่โดนคนอื่นมองก็รู้สึกอาย เธอจึงดึงอวี๋เยว่หานออกไปข้างนอก
เนื่องจากเรื่องวิดีโอ ความกลัดกลุ้มที่อัดอั้นตันใจก็หายไปมากแล้ว
ตราบใดที่เธอกับอวี๋เยว่หานมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน และรอจนกว่าถานเปิงเปิงจะกลับมาอธิบายให้ชัดเจนว่าเรื่องเป็นอย่างไรกันแน่ พวกเขาก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว
เธอต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อในตัวอวี๋เยว่หาน
เหนียนเสี่ยวมู่เดินตามหลังเขาโดยปล่อยให้เขาจูงมือตัวเองไปบริษัทตระกูลอวี๋
พอเดินมาถึงหน้าบริษัทก็อดไม่ได้ที่จะดิ้นเล็กน้อย เธอกระซิบเบาๆว่า “ปล่อยมือ เดี๋ยวเพื่อนร่วมงานมาเจอเข้า!”
เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงาน ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงยังไม่ได้เปิดเผยในบริษัท
คนที่รู้จึงมีอยู่ไม่กี่คน
เรื่องตระกูลสิงในตอนแรกทำเอาโกลาหลกันไปหมด นักข่าวก็ถ่ายรูปเธอไม่ได้ ทันทีที่ข่าวออกมา ทุกคนรู้แค่ว่าคู่หมั้นของอวี๋เยว่หานชื่อสิงซิง
“ผมมันน่าอายเหรอ?” อวี๋เยว่หานขมวดคิ้ว
“…” ทำไมเป็นประโยคนี้อีกแล้วล่ะ
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เห็นผู้ช่วยของเขารีบวิ่งออกมาจากข้างในบริษัทแล้วยืนหอบอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“เมื่อกี้เพิ่งได้รับข่าวมาว่าเที่ยวบินที่ถานเปิงเปิงนั่งเกิดอุบัติเหตุทางอากาศ ตอนนี้ขาดการเชื่อมต่อไปแล้วครับ…”
ตอนที่ 752 เธออยู่ในรายชื่อ
ข่าวออกมาอย่างกะทันหัน
มันกลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับทุกคน
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่แสดงปฏิกิริยาใดออกมาเลย เธอตะลึงงันไปทั้งตัว อวี๋เยว่หานโอบไหล่เธอและพาเธอกลับไปยังห้องทำงาน
“อุบัติเหตุทางอากาศยืนยันแล้วเหรอว่าเป็นความจริง? ตรวจสอบวิดีโอตอนเช็กตั๋วขึ้นเครื่องแล้วหรือยังว่าถานเปิงเปิงขึ้นเครื่องบินจริงๆ?”
ทันทีที่อวี๋เยว่หานเข้ามาในห้องทำงานก็ถอดเสื้อนอกออกแล้วสาวเท้าไปที่โต๊ะทำงาน
เอื้อมมือไปที่คอมพิวเตอร์และเริ่มตรวจสอบข่าวประจำวัน
ข่าวที่เพิ่งออกมาทางอินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
และเที่ยวบินที่เกิดอุบัติเหตุก็คือเที่ยวบินขากลับของถานเปิงเปิง…
ผู้ช่วยรีบตอบไปว่า “ตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารบนเครื่องบินแล้วครับ ยืนยันได้ว่าถานเปิงเปิงจองเที่ยวบินขากลับเที่ยวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว ตามที่กล้องวงจรปิดจุดตรวจตั๋วเครื่องบินในช่วงเวลานั้น ถานเปิงเปิงก็เข้ามาตรวจตั๋วโดยสารเรียบร้อยแล้วด้วย..”
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือถานเปิงเปิงอยู่บนเที่ยวบินนั้นจริง ตอนนี้เป็นตายอย่างไรไม่แน่ชัด
พอได้ยินข่าวนี้ อวี๋เยว่หานหน้าถอดสีเล็กน้อย
เขาก้มหน้าลงเพื่อลองค้นหาข่าวอื่นๆอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
ที่หน้าประตูห้องทำงานมีเพียงเหนียนเสี่ยวมู่ที่ยังคงช็อกอยู่กับที่
เมื่อได้ยินบทสนทนาของคนสองคนก็เงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง
ในหัวมีแต่คำพูดที่ผู้ช่วยพูดเมื่อครู่นี้สะท้อนกลับอย่างต่อเนื่อง
ถานเปิงเปิงนั่งเครื่องบินนั้นจริง…
เธอนั่งเที่ยวบินที่เกิดอุบัติเหตุจริง…
เมื่อเทียบกับการที่เธอหมดหนทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองกับอวี๋เยว่หาน ตอนนี้เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของถานเปิงเปิงเสียมากกว่า…
“ไม่ได้ เปิงเปิงจะต้องไม่เป็นอะไร…” เหนียนเสี่ยวมู่พึมพำกับตัวเอง จากนั้นก่อนที่ทุกคนจะตอบสนอง เธอก็วิ่งหนีออกจากห้องทำงานไป
“เหนียนเสี่ยวมู่!”
พออวี๋เยว่หานได้สติก็ตะโกนเรียกเธอ เขาเห็นร่างเธอหายไปต่อหน้าต่อตา ร่างสูงนิ่งอยู่กับที่ ทันใดนั้นก็กระแทกหมัดลงกับโต๊ะ!
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งออกจากบริษัทตระกูลอวี๋ได้ไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
บริษัทสายการบินโทรมา
ผู้ติดต่อฉุกเฉินที่ถานเปิงเปิงฝากไว้ก็คือเธอ บริษัทสายการบินโทรมาเพื่อแจ้งข่าวอุบัติเหตุของถานเปิงเปิง…
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่มันคือความจริง
เหนียนเสี่ยวมู่ยืนดูรถที่วิ่งผ่านไปมาบนถนน จู่ๆก็มึนงงขึ้นมาเล็กน้อย
เธอเดินไปตามถนนโดยไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไหร่แล้ว จึงเรียกรถแท็กซีมาคันหนึ่งเพื่อเดินทางกลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
“คุณเหนียน คุณไปทำงานที่บริษัทไม่ใช่เหรอครับ ทำไมกลับมาเวลานี้ล่ะ?” พ่อบ้านเห็นเธอจึงถามด้วยความสงสัย
เหนียนเสี่ยวมู่ขยับปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ลังเลได้สักพักก็เงียบไป
ท้ายที่สุดเธอก็พูดออกมาเบาๆเพียงประโยคเดียว “ฉันกลับมาเอาของนิดหน่อยน่ะ”
“คุณเหนียนจะเอาอะไรครับ? ให้ผมช่วยไหม?” พ่อบ้านเอ่ยถามอย่างนอบน้อม
เหนียนเสี่ยวมู่ส่ายหน้าติดต่อกัน “ไม่ต้อง ฉันไปเอาเอง”
จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นบนด้วยความรวดเร็ว
พอเดินไปถึงมุมบันไดจนไม่เห็นเงาพ่อบ้านแล้ว เธอถึงจะหยุดเท้า
มือจับราวบันไดแน่นโดยไม่มีเสียง ขอบตาแดงเล็กน้อย
เมื่อเห็นความกังวลของพ่อบ้าน เธอไม่รู้จะบอกเขาอย่างไรว่าเธอกลับมาเพื่อเก็บของแล้วจากไป…
ถานเปิงเปิงเกิดอุบัติเหตุ
เธอจำเรื่องราวในอดีตของตัวเองไม่ได้
อวี๋เยว่หานตรวจพบวิดีโอ เธอไม่มีปัญญาอธิบายแทนตัวเองได้นอกจากทำให้เขาเชื่อเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
เธอเป็นเสียแบบนี้ เธอมีสิทธิ์อะไรที่จะทำให้อวี๋เยว่หานเชื่อใจ?
เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าคนในวิดีโอใช่เธอหรือไม่…