ตอนที่ 755 ฉันจะคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอ
ถานเปิงเปิงพูดอย่างเรียบง่าย ตอนนั้นเธอเรียนรู้อยู่นาน
อดไม่ได้ที่จะกอดแล้วถามว่า “เปิงเปิง ถ้าไม่มีเธอ ฉันจะทำยังไง?”
เธอจำได้เสมอว่าตอนนั้นถานเปิงเปิงนิ่งไปสักพัก จากนั้นก็เงยหน้ามองเธอพลางตอบเธออย่างจริงจัง
“ไม่ต้องกลัว ฉันจะคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”
ไม่ต้องกลัว ฉันจะคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง…
ไม่มีวาทศิลป์ที่สวยหรู ไม่มีคำพูดที่ตรึงใจ
มีเพียงประโยคเรียบง่ายที่ทำให้เธอผู้โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งเหมือนได้เจอกับครอบครัว
เมื่อนึกย้อนไปถึงฉากนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็อดแสบจมูกไม่ได้
โชคดีที่ช่วงเวลาอันเลื่อนลอยเป็นเพียงชั่วคราว
เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้ใหญ่ ทักษะการใช้ชีวิตมากมายที่ลืมไปแล้วช่วงเวลาหนึ่งก็ค่อยๆเข้าใจมากขึ้นและทำได้เป็นปกติ
บวกกับสติปัญญาอันยอดเยี่ยม เรื่องที่คนอื่นๆต้องใช้เวลานานกว่าจะเรียนรู้ได้ เธอกลับใช้เวลาเพียงน้อยนิดก็ทำได้ทันทีและไม่ลืมเมื่อเคยผ่านตามากแล้ว
ทุกอย่างเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยไม่จำเป็นต้องให้ถานเปิงเปิงคอยดูแล เธอดูแลตัวเองได้แล้วถึงขนาดไปดูแลคนอื่น…
แต่อย่างไรก็ตามเธอจะไม่มีวันลืมว่าช่วงเวลาที่เธอโดดเดี่ยวที่สุด ถานเปิงเปิงเป็นคนช่วยเธอไว้
คอยอยู่เคียงข้างเธอ
สำหรับเธอแล้ว ถานเปิงเปิงไม่ได้เป็นแค่เพื่อน
ถ้าไม่ใช่เพราะถานเปิงเปิง เธอก็คงไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้
ดังนั้นแม้ว่าเธอกับอวี๋เยว่หานจะมั่นใจแล้วว่าเรื่องนี้ถานเปิงเปิงเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด แต่เธอยังคงเชื่อว่าถานเปิงเปิงจะไม่ทำร้ายเธอ
ต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่เธอไม่รู้…
เธอจะอยู่ที่นี่เพื่อรอถานเปิงเปิงกลับมา
พอเหนียนเสี่ยวมู่กลับมารู้สึกตัวก็วางรองเท้าสีขาวลง
มีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้นในวันนี้
สมองเหนียนเสี่ยวมู่ไม่สามารถคิดได้ทั้งหมด เธอจึงจัดกระเป๋าเดินทางให้เรียบร้อย ขณะที่นอนอยู่บนเตียงก็มีภาพถานเปิงเปิงที่ยังมีชีวิตอยู่อยู่ตรงหน้าเธอ ทั้งยังพร่ำอยู่ข้างหูว่าเธอทำอันนี้ไม่ได้ อันนั้นไม่ได้
ชั่วพริบตาเดียว ถานเปิงเปิงก็เกิดอุบัติเหตุ
เหนียนเสี่ยวมู่นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มพลางสูดกลิ่นผ้าห่มที่คุ้นเคย เธอพยายามทนต่อความโศกเศร้า ทว่าจู่ๆก็พลุ่งพล่านราวกับภูเขาไฟปะทุ
น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
เธอร้องไห้อย่างหนักและขดตัวนอนอยู่ในผ้าห่ม
–
บริษัทตระกูลอวี๋
เมื่ออวี๋เยว่หานเห็นเหนียนเสี่ยวมู่หนีออกไป ดวงตาดำขลับก็มืดมน เป็นประกายที่คนไม่อาจเข้าใจได้
เขาพยายามกัดฟันไม่วิ่งตามออกไป
แต่กลับมามาที่คอมพิวเตอร์อีกครั้งและดูข้อมูลที่ถูกรวบรวมไว้ตรงหน้า
“คุณชายหาน รายชื่อผู้โดยสารและวิดีโอตรงจุดตรวจตั๋วเครื่องบินยืนยันแล้วว่าถานเปิงเปิงขึ้นเครื่องบินจริง ถ้าเครื่องบินตกจริงๆโอกาสที่ถานเปิงเปิงจะรอดชีวิตแทบจะเป็นศูนย์” ผู้ช่วยพูดด้วยใบหน้าที่หนักอึ้ง
ชั้นอากาศที่สูงกว่าหนึ่งหมื่นเมตร
อย่าว่าแต่คนเลย ไม่ว่าของอะไรที่ตกลงมาก็เกรงว่าจะช่วยไม่ได้
พวกเขายังคาดหวังว่าถานเปิงเปิงจะกลับมาอธิบายเรื่องในวิดีโอนี้ให้ชัดเจน แต่กลับไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์แห่งการรอคอยจะทำให้คนผิดหวังแบบนี้
คนที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้ไม่ใช่ถานเปิงเปิงที่ไม่รู้เป็นตายอย่างไร
แต่เป็นอวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่
แม้แต่ผู้ช่วยก็เริ่มกังวลที่จะเกลี้ยกล่อมอวี๋เยว่หานให้เชื่อใจเหนียนเสี่ยวมู่ เพราะเขาจะต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้เพื่อตระกูลอวี๋…
ผู้ช่วยเงยหน้ามองไปยังอวี๋เยว่หานและพบว่านับตั้งแต่เหนียนเสี่ยวมู่ออกไป เขาก็เอาแต่จ้องวิดีโอตรงจุดตรวจตั๋วเครื่องบิน ทำได้เพียงแค่ดูแต่กลับไม่ยอมพูดอะไร
ผู้ช่วยมึนงง
อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปดูด้วย
หลังจากดูไปสักพัก เขาก็ถามอย่างเก็บอาการไม่อยู่ “คุณชายหานยังสงสัยว่าถานเปิงเปิงไม่ได้ขึ้นเครื่องบินอยู่อีกเหรอครับ? แต่ผมว่าคนที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ยังไงก็เป็นเธอ”
ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือหน้าตาล้วนเป็นถานเปิงเปิง
โดยไม่ต้องสงสัย
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็หรี่ตาลง “คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าถานเปิงเปิงเหมือนคนคนหนึ่งมาก?”
ตอนที่ 756 ยอมรับมาเถอะว่าคุณแอบชอบผมมานานแล้ว
“เหมือนใครครับ?” ผู้ช่วยถามด้วยความรู้สึกช้าพร้อมกับได้รับสายตาอันเย็นชาจากอวี๋เยว่หาน
จากนั้นก็เห็นเขานำวิดีโอทั้งหมดที่ตรวจจับภาพผู้สัญจรก่อนหน้านี้และวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของธนาคารออกมาเล่นในคราวเดียวกัน
ตอนนี้ผู้ช่วยก็ค่อยๆตอบสนองและดูออกแล้ว
“รูปร่างของถานเปิงเปิงกับคุณเหนียนเหมือนกันจริงๆ ถ้าไม่มองหน้าผมก็ยังสงสัยว่านี่เป็นคนเดียวกัน!” ผู้ช่วยพูดด้วยความประหลาดใจ
พอสิ้นเสียงลง ตัวเองก็กลับมารู้ตัวอีกครั้งพลางมองอวี๋เยว่หานอย่างตกตะลึง
“คุณชายหาน คุณคงไม่ได้สงสัยว่าคุณเหนียนที่อยู่ในวิดีโอแท้ที่จริงแล้วเป็นถานเปิงเปิงปลอมตัวมาหรอกนะครับ…แต่ว่ามันจะใช่เหรอ เพราะรูปร่างของพวกเธอสองคนอาจจะปลอมแปลงกันได้ แต่หน้าตายังต่างกันมาก…”
ผู้ช่วยมึนงงไปหมดแล้ว
อย่างมากที่สุดถานเปิงเปิงก็คล้ายเหนียนเสี่ยวมู่เพียงแค่ด้านหลังเท่านั้น ทว่าในวิดีโอกลับเผยใบหน้าทั้งหมดของเหนียนเสี่ยวมู่ออกมาแล้ว
แม้จะเจอคนที่ด้านหลังเหมือนกับเธอ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถกำจัดข้อสงสัยในตัวเธอได้
ตอนนี้นอกเสียจากว่าหาคนที่เหมือนเธอทุกประการถึงจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในวิดีโอไม่ใช่เหนียนเสี่ยวมู่
“ให้คนจับตาดูบริษัทสายการบิน ถ้ามีข่าวคราวอะไรก็รีบแจ้งฉัน”
อวี๋เยว่หานเปิดริมฝีปากบางเล็กน้อยและทิ้งคำพูดไว้ เขาเอื้อมมือไปหยิบเสื้อนอกที่พาดอยู่บนเก้าอี้แล้วเดินออกไป
เมื่ออวี๋เยว่หานกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ พ่อบ้านก็เพิ่งไปรับเสี่ยวลิ่วลิ่วกลับมาจากโรงเรียนอนุบาล
เมื่อเจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยเห็นเขา ปฏิกิริยาแรกคือไม่ได้วิ่งเข้าไปกอดเหมือนเมื่อก่อน แต่ศีรษะเล็กๆกลับผลุบๆโผล่ๆชะโงกมองไปข้างหลังเขา พอไม่เห็นเหนียนเสี่ยวมู่ ดวงตากลมโตก็มีประกายแห่งความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
จากนั้นก็ยิ้มหวานอีกครั้งแล้ววิ่งมาอยู่ตรงหน้าเขา
เธอยื่นแขนเล็กๆออกมา
“ป่าป๊า อุ้มๆ~”
“…” อวี๋เยว่หานจ้องไปที่เจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยที่อยู่ตรงหน้าที่เห็นเขาเป็น‘ตัวสำรอง’ พลางกัดฟันและอุ้มเธอขึ้นมา
วินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงบ่นอ้อแอ้
“ทำไมป่าป๊าเลิกงานแล้วหม่าม้ายังไม่เลิกงานล่ะ เจ้านายใหญ่ของบริษัทจะต้องรังแกหม่าม้าแน่ๆ…”
“…” เจ้าอวี๋ลิ่วลิ่วน้อย ตอนที่หนูบ่นเจ้านายใหญ่ของบริษัท หนูคิดบ้างหรือเปล่าว่าเจ้านายใหญ่ของบริษัทก็คือพ่อของหนู?
อวี๋เยว่หานหลุบตาลงและจ้องเจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยที่น่าเอ็นดูเหมือนลูกแมวในอ้อมแขน
ทันใดนั้นพอนึกอะไรขึ้นได้ก็มองไปทางพ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่กลับเหรอ?”
เธอออกจากบริษัทมาก่อนเขานี่ ถ้ายังไม่กลับมา อย่างงั้นเธอไปไหนล่ะ?
“กลับมาแล้วครับ” พ่อบ้านรีบพูด “ก่อนที่ผมจะไปรับคุณหนู คุณเหนียนยังอยู่ข้างบนอยู่เลย”
พอพ่อบ้านพูดจบ อวี๋เยว่หานก็อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเดินเข้าไปในคฤหาสน์
เมื่อผ่านห้องนั่งเล่นที่เงียบเชียบ เขาก็ขมวดคิ้วโดยไม่พูดอะไรและตรงขึ้นไปชั้นบน
ห้องนอนหลักไม่ได้ปิดแน่น
ประตูแง้มออกเล็กน้อย ดูคล้ายกับว่ามีคนอยู่ข้างในห้องนอน
พอรวบรวมคำพูดที่พ่อบ้านเพิ่งพูดเมื่อกี้นี้ เสี่ยวลิ่วลิ่วก็ถีบขาสั้นๆอย่างมีความสุข เธอไถลลงจากอ้อมแขนของเขาแล้ววิ่งเข้าไปในห้อง
“หม่าม้า…”
เด็กน้อยส่งเสียงออดอ้อนพร้อมกับเอื้อมมือผลักประตูห้องมุดเข้าช่องไปด้วยความตื่นเต้น
เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูและมองเข้าไปด้านใน ศีรษะเล็กๆมองไปรอบๆเพื่อหาตัวเหนียนเสี่ยวมู่
อวี๋เยว่หานเดินมาถึงข้างหลังเธออย่างช้าๆและกวาดตามองไปทั่วห้องเช่นเดียวกัน พอไม่พบคน ดวงตาที่เย็นชาก็เหลือบขึ้นหันไปทางพ่อบ้าน