ตอนที่ 797 เส้นทางคุณพ่อมือใหม่ ขอฝากเนื้อฝากตัว
ซั่งซินคัดค้านความคิดนี้ของเขา ทว่าคัดค้านไปก็ไม่ได้ผล
ก็โดนลากไปที่โรงพยาบาลอยู่ดี
ตลอดเส้นทาง ก็เอาแต่พิงประตูไม่พูดไม่จา
ถังหยวนซือเองก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ก็ปิดปากเงียบตลอดที่นั่งมา
เงียบเชียบ
และยังคงเงียบอยู่ต่อไป
คนสองคนที่นั่งอยู่เบาะหลังรถ ราวกับว่ากำลังแข่งกันเงียบอยู่
ส่วนคนขับรถที่นั่งตำแหน่งคนขับก็เกือบจะหายใจไม่ออกเพราะถูกความกดอากาศต่ำภายในรถอยู่แล้ว!
พอมองถนนหนทางข้างหน้า ก็ทำเสียงกระแอมในลำคอ เริ่มปริปากพูดทำลายความเงียบงัน “ผู้จัดการถังครับ ที่ด้านหน้าเหมือนจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นครับ ถ้าจะไปต่อเกรงว่ารถจะติดน่ะครับ พวกเราเปลี่ยนเส้นทางกันดีไหมครับ”
การเดินทางไปโรงพยาบาล เส้นทางนี้เป็นทางที่ใกล้ที่สุด
คนขับรถไม่กล้าบุ่มบ่ามเปลี่ยนเส้นทาง จึงถามด้วยความเคารพก่อน
จากคำพูดดังกล่าว ถังหยวนซือยังไม่ทันได้ตอบ ซั่งซินที่พิงประตูรถมาอย่างอึดอัดตลอดทาง ก็โน้มไปข้างหน้าพูดตัด
“กระทั่งพระเจ้ายังรู้สึกเลยว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล พวกเรากลับบ้านไม่ได้เหรอ”
“ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม เส้นนี้รถติดก็เปลี่ยนเส้นทางเสีย” ถังหยวนซือมองเธอแวบหนึ่ง พร้อมกับเปิดปากพูดขึ้น
พอพูดจบ ก็รับรู้ถึงท่าทางไม่สบอารมณ์ของเธอ เลยคิดจะยื่นมือกอดเธอ แต่เธอก็เอาแต่หดตัวไปยังข้างประตูรถ
ประจวบเหมาะกับเขาที่เอื้อมไปไม่ถึง
“ซินเอ๋อร์…”ถังหยวนซือมองดูมือตัวเองที่ว่างเปล่า แล้วพูดอย่างจนปัญญา
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบโรงพยาบาล แต่ก็เพื่อลูกนะ พวกเราจะไปแค่ครั้งเดียว โอเคไหม”
ซั่งซินเป็นเด็กที่คลอดก่อนกำหนด
หลังจากคลอดเธอมา แม่ของเธอก็ล้มป่วยเป็นสภาพผัก ดังนั้นโรงพยาบาลจึงเป็นสถานที่วัยเด็กของเธอได้มาบ่อยที่สุด คนที่เห็นเป็นบ่อยที่สุดก็คือหมอในชุดกาวน์สีขาว
ส่งผลให้เธอในตอนนี้ แค่จะไปโรงพยาบาลก็กลัวแล้ว
ช่วงแรกที่อยู่ต่างประเทศ เธอก็กล้าพอที่จะพุ่งไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลเพียงคนเดียว กลัวก็แค่ว่าจะตกใจที่ตัวเองตั้งท้องเท่านั้นเอง
ตอนนี้พอได้สติแล้ว อาการต่อต้านโรงพยาบาลก็กลับมาใหม่อีกครั้ง
พอได้ยินพูดถึงลูกขึ้นมา ใบหน้าซั่งซินก็ดูมีความพยายามจะสู้ขึ้นมาหน่อย กัดริมฝีปากล่างและขยับไปอยู่ข้างๆ เขาทันที
พอเห็นว่ายังไม่ชิดกับเขา ผ่านไปสองสามวินาที ก็ขยับอีกครั้ง
จนเข้ามาโดนเขาสวมกอด
ถูไถที่หน้าอกของเขา สองมือดึงเสื้อเชิ้ตเขาพลางสูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคยบนร่างเขา แล้วค่อยๆ นิ่งสงบลง
จวนใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว
เป็นคุณพ่อมือใหม่ครั้งแรก ถังหยวนซือก็ตื่นเต้นไม่น้อยกว่าที่ซั่งซินกลัวโรงพยาบาล
เขาจูงมือเธอ พยายามสงบนิ่งเข้าไว้แล้วเดินไปที่แผนกนารีเวชเดิน จนสุดท้ายสติหลุดลอยเดินถึงแผนกโรคทางเดินปัสสาวะแทน
แววตาซั่งซินก็งงงัน เขากระแอมในลำคออย่างเคอะเขิน
“ฉันไม่ได้ตื่นเต้นหรอกนะ ฉันก็แค่ไม่เคยเห็นว่าแผนกโรคทางเดินปัสสาวะเป็นยังไงน่ะ เลยแวะมาดูสักหน่อย โอเค พวกเรากลับกันเถอะ”
ซั่งซิน “…”
จนสุดท้าย ก็เป็นผู้ช่วยที่หาแผนกนารีเวชเจอ
ตอนที่ซั่งซินทำการตรวจ ถังหยวนซือก็ยืนรออยู่ที่ด้านนอก
ท่าทางที่ร้อนอกร้อนใจนั้น ไม่เหมือนว่ามาตรวจครรภ์เลยสักนิด เหมือนใกล้คลอดเสียกว่า
คนที่เดินไปเดินมาบนทางเดิน ก็เห็นเขาหน้าซีดหน้าเซียวดูคล้ายเครียดจนจะเป็นลม แถมยังมีคนจิตใจดีถามว่า “พี่ชาย เมียพี่คลอดลูกในนั้นเหรอ พี่ค่อยเป็นค่อยไปนะ เป็นลมไปตอนนี้ ใครจะดูแลลูกเมียเล่า”
ถังหยวนซือนิ่งอึ้ง แล้วพูดอธิบายว่าแค่มาตรวจครรภ์ หนึ่งวินาทีให้หลัง จู่ๆ คนรอบตัวก็พากันมองมาที่เขา
ด้วยสายตาที่มีแต่จะประหลาดขึ้นเรื่อยๆ แบบนั้น
ล้วนแต่เหลือบมองพลางยิ้ม และก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้เช่นนั้น
ถังหยวนซือ “…”
“ผู้จัดการถังครับ ผลตรวจครรภ์ออกมาแล้วครับ!”
ตอนที่ 798 มา ยิ้มให้ฉันหน่อย
ผู้ช่วยวิ่งกลับมาจากด้านหลังมาอยู่ข้างๆ ถังหยวนซือ แล้วเริ่มปากพูดขึ้น
พอได้ฟัง ถังหยวนซือหลุบตาต่ำลงโดยไม่รู้ตัว แล้วยื่นมือไปจับไหล่เขา “ซินเอ๋อร์ล่ะ ผลตรวจครรภ์ก็ออกมาแล้ว ทำไมเธอยังไม่ออกมาล่ะ”
“นี่…” ผู้ช่วยที่ถูกเขาถามก็ตะลึงงัน
พอจะพูด ก็เห็นประตูห้องตรวจเปิดจากด้านใน
ซั่งซินที่เดินออกมา เห็นถังหยวนซือกำลังจับตัวผู้ช่วยอยู่ ก็กะพริบตาด้วยความงงงวยเล็กน้อย
แล้วใช้สายตาถามเขาว่าเป็นอะไรไป
“…”
ถังหยวนซือปล่อยมือที่จับผู้ช่วย แล้วหันตัวเดินไปที่ด้านหน้าเธอ จับไหล่เธอไว้ ก้มหน้าขึ้นลงตรวจดูเธอรอบหนึ่งด้วยความประหม่า พอเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร และเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่สบายใจว่า
“รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม เหนื่อยรึเปล่า หิวไหม พวกเราไปนั่งกันก่อนเถอะ…
ถังหยวนซือไม่ทันได้พูดจบ ซั่งซินก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเขา
ลองดูทั้งฝ่ามือและหลังมือแล้ว ก็มั่นใจว่าเขาไม่ได้เป็นไข้ พอมือแตะก็ลื่น จึงหยิกเข้าที่หน้าของเขา
“ทำไมฉันคนนี้ที่เป็นคนไปตรวจถึงดูไม่เป็นไร แล้วเขาเหมือนจะเป็นลมล่ะ เพิ่งจะดูไปแผนกโรคทางเดินปัสสาวะแบบชิลๆ ไม่ใช่หรือ ถ้า ‘น้องชาย’ ไม่สบายขึ้นมา ก็คงจะได้เห็นเร็วๆ นี้แหละ~”
ซั่งซินพูดไปพลางกวาดสายตาอันเยือกเย็นไปที่เป้ากางเกงของใครบางคน
ถังหยวนซือตะลึงก่อนที่จะตอบขานรับเธอกลับไป ด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง
หิ้วเธอมาไว้ที่ด้านหน้า แล้วเตรียมที่จะจัดการเธอ
ซั่นซินเองก็เป็นคนเรื่องเยอะทำให้วุ่นวายได้ตลอด พอเงยหน้าขึ้นมาก็กอดแขนเขาข้างหนึ่งไว้ “เอาเลย เอาเลยสิ ถ้านายเต็มใจที่จะลงมือนายก็จัดการฉันไปด้วย อย่างไรก็ตามภายในท้องของฉันก็อุ้มลูกของนายอยู่ นายกล้าชั่วใส่ฉันนายก็เป็นผู้ชายสารเลวที่ชั่วได้กระทั่งคนท้องล่ะวะ!”
ถังหยวนซือ “…”
“อีกทั้ง ถ้า ‘น้องชาย’ ของนายมีปัญหาจริงๆ เผลอๆ ลูกในท้องของฉันอาจจะเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของนายนะ นายต้องทำดีกับฉันหน่อยสิ รู้บ้างไหม อย่าทำหน้าขมขื่นสิ มา ยิ้มให้ฉันหน่อย~”
ถังหยวนซือ “…”
ตอนนี้เขาอยากจะรู้แค่ว่าตอนเหนียนเสี่ยวมู่ท้อง อวี๋เยว่หานเองก็ผ่านความทุกข์แบบนี้สินะ
โอ้ไม่ใช่สิ ตอนเหนียนเสี่ยวมู่ท้อง อวี๋เยว่หานยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพ่อแล้วนี่
พอคาดการณ์เช่นนี้ อวี๋เยว่หานน่าสมเพชกว่าเขาเยอะเลย
พอคิดเช่นนี้ ถังหยวนซือก็เสมอภาคแล้ว
โดนซั่งซินทารุณมา ก็ไปลงที่อวี๋เยว่หานต่อ
ถ่ายรูปที่อยู่โรงพยาบาลแผนกนารีเวช แล้วส่งไปให้อวี๋เยว่หาน พร้อมกับข้อความที่ว่า : พาซั่งซินมาตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล ทั้งตื่นเต้นทั้งตั้งตารอ ความรู้สึกแบบนี้นายคงไม่มีทางรู้แน่ๆ เลย
และจบท้ายด้วยอีโมจิที่ยิ้มเยาะอย่างขี้อวด
พอกดส่งไป
ก็นำโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อ แล้วโอบซั่งซินไปฟังผลตรวจครรภ์ที่ห้องสำนักงานของโรงพยาบาล
“สภาพของคุณแม่และเด็กไม่เลวทีเดียว เด็กแข็งแรงดีมาก หัวใจก็เริ่มเต้นแล้วด้วย แต่ว่ายังเล็กไปหน่อย ต้องให้ผ่านไปอีกระยะ พวกคุณก็สามารถได้ยินเสียงหัวใจของเด็กได้…”
คนที่ทำการตรวจให้ซั่งซินเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งในแผนกนารีเวช
ในมือถือผลตรวจอยู่ทั้งหมดพร้อมกับอธิบายให้พวกเขา
“ในด้านอาหารล่ะ มีตรงไหนที่ต้องระวังไหม” ถังหยวนซือที่ได้ยินว่าเธอและเด็กสบายดีหมด ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเปิดปากถามขึ้น
หมออธิบายให้พวกเขาฟังอีกนิดหน่อย
จากนั้นก็ให้พวกเขากลับได้
ก่อนจะกลับ หมอก็เงยหน้ามองถังหยวนซือแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นทันทีว่า
“ครั้งแรกที่ได้เป็นคุณพ่อเหรอ”
หมอก็กล่าวอย่างชัดเจนว่า
“ไม่เป็นไร เตรียมเป็นพ่อคนไม่ต้องเครียดมากเกินไปนะ ไม่งั้นความเครียดของคุณอาจแพร่เชื้อใส่คนท้องได้ จะไม่ดีแทนนะ สู้ๆ เข้าละ!”
ถังหยวนซือ “…”