ตอนที่ 805 โต้มาโต้กลับ!
การแต่งหน้าอันประณีต หน้าตาที่สวยงามเพริศพริ้ง
ดวงตาหงส์ที่แคบยาวยกหางตาขึ้นเล็กน้อย
ผิวขาวสะอาดหมดจด แม้จะสวมสูทผู้หญิงที่ดูเป็นเป็นทางการ แต่ก็ยังคงเผยให้เห็นถึงความเซ็กซี่ที่ห้ามไม่อยู่
เธอเดินนวยนาดออกมาจากลิฟต์ จังหวะการก้าวเป็นไปอย่างใจเย็นไม่เหมือนมาเจรจา แต่เหมือนราชินีที่มาสำรวจอาณาเขต
การปรากฏตัวของเจิ้งเหยียนทำให้คนอื่นๆของบริษัทตระกูลอวี๋ตะลึงงัน
เดิมทีพวกเขาล้วนคิดว่าเจิ้งเหยียนไม่สบายจึงมาไม่ได้ หรือไม่ก็มาแบบเนือยๆ
แต่ไม่มีใครคิดว่าจะปรากฏตัวในลักษณะนี้
หยิ่งยโส มั่นใจ ทั้งยังแข็งกร้าวอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนกับว่าการเจรจาความร่วมมือกับเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ กลับกลายเป็นว่าบริษัทตระกูลอวี๋จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ผู้จัดการเหนียน ขอโทษทีนะคะ พอดีไม่สบายจึงทำให้ทุกคนรอนานขนาดนี้” เจิ้งเหยียนเดินไปข้างหน้าและเป็นฝ่ายเริ่มยื่นมือออกไปก่อน
ปากพูดว่าขอโทษ แต่สายตากลับมองไม่เห็นถึงความจริงใจแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายเธอตั้งแต่หัวจรดเท้ายังมองไม่ออกว่าไม่สบายเลยสักนิด
คนที่มีสายตาอันชาญฉลาดจะรู้ว่าการที่เธอมาสายขนาดนี้เป็นเพียงการแสดงอำนาจ
ป่วยก็แค่เป็นข้ออ้าง
แต่เธอมาถึงแล้วและได้อธิบายเหตุผลความล่าช้าของตัวเอง ถ้าเหนียนเสี่ยวมู่ออกไปในเวลานี้ ก็จะทำให้เห็นว่าพวกเขามีความอดทนต่ำ
แต่ถ้าไม่ไปคนอื่นก็จะหัวเราะเยาะพวกเขาไม่ใช่หรือ…
ในช่วงเวลาแบบนี้จะไปหรือไม่ไปก็ล้วนทำใจลำบากเล็กน้อย
คนอื่นๆของบริษัทตระกูลอวี๋ไม่ทันได้สังเกต พวกเขามองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่
“รองประธานเจิ้งเกรงใจไปแล้ว คุณไม่สบายก็ควรพักผ่อนให้มากๆถึงจะถูก” เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมืออกไปอย่างสงบเสงี่ยมและจับมือเธอ จากนั้นก็รีบปล่อย
เธอหันไปมองทีมของตัวเองแล้วพูดว่า
“ในเมื่อรองประธานเจิ้งไม่สบาย งั้นพวกเราก็กลับกันก่อนดีกว่า รอให้รองประธานเจิ้งหายดีก็ค่อยมาเจรจาความร่วมมือที่บริษัทตระกูลอวี๋ด้วยตัวเองอีกที พวกเราจะต้อนรับอย่างดีแน่นอน”
น้ำเสียงของเธอสงบ ฟังไม่ออกถึงอารมณ์โกรธ แต่กลับมีพลังจนไม่อาจต้านทานได้
ความหมายชัดเจน : ดูการแสดงของพวกเธอจนเหนื่อยแล้ว พวกเราไปก่อนล่ะ ถ้าอยากจะเจรจาความร่วมมือก็ได้ แต่วันหลังพวกเธอก็มารอที่บริษัทตระกูลอวี๋สักสองชั่วโมงแล้วกัน ทุกคนจะได้หายกันแล้วมาคุยกันดีดี!
“ผู้จัดการเหนียน นี่…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ คนของเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ที่เพิ่งจะโล่งอกก็ใจขึ้นอีกครั้ง
พากันหันมามองเจิ้งเหยียน
ใบหน้าเจิ้งเหยียนยังคงยิ้มแย้ม เธอไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเหนียนเสี่ยวมู่เลย
พอเห็นเธอจะไป ก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ถึงฉันจะเพิ่งเคยเจอผู้จัดการเหนียนแต่ก็เหมือนรู้จักกันมานาน ในเมื่อทุกท่านมากันแล้ว ไม่สู้ให้เกียรติฉันสักหน่อย หลังจากเจรจากันเสร็จ ฉันจะเลี้ยงข้าวทุกคนเอง ”
“….” เหนียนเสี่ยวมู่เลิกคิ้วมองเธอ
ความมั่นใจของเจิ้งเหยียนตกสู่สายตา บิดคิ้วเล็กน้อย
บนโต๊ะเจรจา หากอีกฝ่ายแสดงท่าทีเย่อหยิ่งเมื่อตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองอย่างเห็นได้ชัด โดยทั่วไปแล้วมีความเป็นไปได้อยู่สองประการ
ถ้าไม่เพราะสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตา
ก็เป็นเพราะกุมจุดอ่อนอะไรบางอย่าง
เธอไม่เข้าใจคนอย่างเจิ้งเหยียน
แต่ก็รู้สึกได้ว่าเจิ้งเหยียนไม่ใช่ผู้มาก่อนกาล สายตาของเธอมาดมั่นมาก เป็นประเภทที่ว่าเผยความมั่นใจจากภายในสู่ภายนอก
เหนียนเสี่ยวมู่กะพริบตาอย่างสงบเสงี่ยม
“รองประธานเจิ้งเกรงใจแล้ว ไม่ใช่เพราะพวกเราไม่ให้เกียรติ แต่เป็นเพราะบริษัทเห็นอกเห็นใจพนักงาน ไม่อยากให้พวกเราทำงานล่วงเวลา คุณดูสิ ตอนนี้ก็ห้าโมงกว่าแล้ว เพื่อนร่วมงานของฉันควรจะเลิกงานได้แล้ว ถ้าให้พวกเขาอยู่ทำงานล่วงเวลา ผู้จัดการอย่างฉันคงจ่ายเงินค่าทำงานล่วงเวลาให้ไม่ไหวหรอก”
เหนียนเสี่ยวมู่โต้กลับโดยเลี่ยงการปะทะ
พอพูดจบก็หันไปหาเลขาแล้วส่งสัญญาณให้ทุกคนไปได้แล้ว
ตอนที่ 806 เป็น แฟน คน ปัจจุบัน!
คำพูดไม่กี่ประโยคที่ฟังดูแล้วเหมือนไม่มีปัญหาอะไรและดูเกรงอกเกรงใจ แต่ความจริงนั้นกลับไม่ได้เห็นแก่หน้าคนของเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์และเจิ้งเหยียนเลยสักนิด
ทันใดนั้นสีหน้าเจิ้งเหยียนก็เย็นชาเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะไปก็เอ่ยขึ้นมา “คนอื่นไม่มีเวลา แต่ผู้จัดการเหนียนก็จะรีบเลิกงานด้วยงั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่าคุณเพิ่งจะเลิกกับแฟน กลับไปตอนนี้ก็คงไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ?”
“คุณหมายความว่ายังไง?” เหนียนเสี่ยวมู่หันมามองเธอด้วยแสงเงาวับในตา
“ไม่ได้หมายความว่าอะไร ก็อยากจะบอกคุณสักหน่อยเกี่ยวกับแฟนของคุณ ไม่ใช่สิ ควรจะเป็นแฟนเก่าต่างหาก แน่นอนถ้าคุณไม่สนใจ ก็ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกัน” เจิ้งเหยียนยักไหล่อย่างเฉยเมย
นี่คือเคล็ดลับการล่าถอยที่ใช้อย่างช่ำชอง
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร” เหนียนเสี่ยวมู่เหลือบมองเธอ หลุบหน้าแล้วเตรียมจะไป
ก่อนจะสาวเท้าไป เจิ้งเหยียนก็ตามเธอมาจากข้างหลัง พลางใช้เสียงที่ได้ยินกันสองคนค่อยๆเรียกชื่อ “คุณชายหาน”
“……”
เหนียนเสี่ยวมู่รูม่านตารัดแน่น
สิ่งที่เธอประหลาดใจไม่ใช่ที่เจิ้งเหยียนต้องการจะบอกเธอเรื่องอวี๋เยว่หาน แต่เจิ้งเหยียนรู้อยู่แล้วว่าเธอกับอวี๋เยว่หานอยู่ด้วยกัน
จากท่าทีของเจิ้งเหยียน ดูเหมือนจะสนิทกับเขามาก
เป็นไปได้ไหมว่าทั้งสองจะเคยเป็นคู่ขากัน?
“ตอนนี้ผู้จัดการเหนียนว่างจะคุยกับฉันแล้วสิ?” เจิ้งเหยียนมองปฏิกิริยาทั้งหมดของเธอพร้อมกับพูดอย่างผู้ชนะ
เหนียนเสี่ยวมู่กลับมาตั้งสติและลอบมองเธอ
พูดตามตรงเจิ้งเหยียนเป็นคนที่สวยมาก
เป็นความงามที่ดุดัน ความงามของเธอสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้หญิงรู้สึกถึงการคุกคาม
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตามั่นใจในตัวเองของเจิ้งเหยียน เหนียนเสี่ยวมู่ก็หรี่ตาลง
เธอหันกลับและพูดเป็นเสียงที่ได้ยินเพียงสองคนอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ฉันไม่รู้ว่าคุณอยากจะพูดอะไรกับฉัน แต่ถ้าฉันอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับอวี๋เยว่หาน ฉันจะไปถามเขาเอง ไม่ต้องให้ผู้หญิงคนอื่นมาแลบลิ้นต่อหน้าฉัน อีกอย่าง แฟนเก่าอะไรของคุณกัน เรายังไม่ได้เลิกกัน เขายังเป็นแฟนของฉัน เป็น แฟน คน ปัจจุบัน!”
ตัวเองอุตส่าห์จับพ่อเทพบุตรมาไม่ได้ง่ายๆ จะพูดว่าเลิกก็เลิกได้อย่างไรล่ะ
ถึงจะเลิกกันจริงก็ไม่ยอมเสียเปรียบคนอื่นหรอก
ไม่เลิก!
ไม่ว่ายังไงก็ไม่เลิก!
เลิกไม่ได้!
หลังจากที่เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบก็มองไม่เห็นสีหน้าตกตะลึงของเจิ้งเหยียน เธอหันกลับและพาคนในทีมออกไป
เจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์เล็กๆน่ะหรือจะกล้าให้เธอแสดงอำนาจ เธอจะคอยดูซิว่าเจิ้งเหยียนคนนี้จะเอาอะไรมาเจรจาความร่วมมือกับเธอ
“รองประธาน พวกเขาไปจริงๆแล้ว…”
คนของเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ไม่คิดว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะไม่ไว้หน้ากันขนาดนี้ บอกจะไปก็ไป
แต่ละคนช็อกกันไปตามๆกัน
เจิ้งเหยียนที่เพิ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจ ตอนนี้กลับมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
สถานการณ์ปกติในสายตาของเธอ หากผู้หญิงคนหนึ่งได้ยินชื่อแฟนตัวเองจากปากผู้หญิงคนอื่น จะต้องถามซักไซร้จนแทบทนไม่ไหวไปแล้ว
เธอมั่นใจแล้วว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะอยู่ต่อ
แต่ไม่คิดเลยว่า…
“มิน่าล่ะเหวินหย่าไต้ที่เป็นนักแสดงตัวแม่ถึงสะดุดในมือเธอ” เจิ้งเหยียนพึมพำกับตัวเอง
เหนียนเสี่ยวมู่ตัวจริงสวยกว่าในรูปมาก แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจนั่นก็คือเหนียนเสี่ยวมู่ใช้คำพูดหยาบคายเป็น
แม้จะโมโหแต่ก็ยังรักษาอาการสงบได้ ดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
ช่างต่างกับภาพที่เธอจินตนาการเอาไว้โดยสิ้นเชิง…
คนของเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ต่างตกตะลึง ทางด้านบริษัทตระกูลอวี๋กลับได้ใจ
“น่าโมโหชะมัด! เห็นชัดๆว่าเจิ้งเหยียนคนนั้นแกล้งป่วย!”