ตอนที่ 813 เหนียนเสี่ยวมู่ ย้ายกลับมา
เมื่อเห็นเธอเข้ามาในห้องตัวเอง อวี๋เยว่หานก็ยกมุมปากขึ้น
เขาสอดมือเข้าในกระเป๋ากางเกงด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเดินกลับไปที่การประชุมทางวิดีโอที่กำลังดำเนินอยู่
ดังนั้นคืนนี้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทตระกูลอวี๋ทุกคนล้วนเห็นเป็นประจักษ์ว่าท่านประธานของตนเปลี่ยนจากหน้าดำไปจนถึงหน้าอิ่มเอิบเป็นระลอกๆ…
ระหว่างนั้นมีเสียงพ่อบ้านแทรก : คุณเหนียนกับคุณหนูมานอนที่ห้องนอนหลักแล้วครับ
“ยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”
อวี๋เยว่หานเพิกเฉยกับหน้าคอมพิวเตอร์ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างงุนงงพลางมองนาฬิกาข้อมือ
“ตอนนี้เวลาในประเทศเป็นเวลาสามทุ่ม ดึกมากแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไรก็กลับไปพักผ่อนเถอะ”
ทุกคน “…”
ท่านประธานตัวเองจะรีบนอนแล้วให้พวกเขาหุบปาก
คุณชายหานหมกมุ่นอยู่กับการนอนจนไม่มีกระจิตกระใจทำงาน
คุณเหนียนเป็นใคร? ไม่คิดเลยว่าจะมีจิ้งจอกสาวปรากฏตัวอยู่ข้างกายคุณชายหาน!
ดังนั้นการแสดงออกของทุกคนต่างก็ประหลาดใจไปตามๆกัน ละครกำลังภายในนั้นกลับเข้มข้นราวกับมหากาพย์!
พวกเขาเบิกตามองอวี๋เยว่หานพูดจบแล้วปิดวิดีโอการประชุมไป
อวี๋เยว่หานปิดคอมพิวเตอร์ อ่านเอกสารอีกไม่กี่ชุดในห้องหนังสือ เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้วก็ลุกจากเก้าอี้
เขาเดินไปที่หน้าต่างหันหน้าไปทางกระจกพลางดึงเนคไทตัวเอง เขี่ยผมสั้นเรียบๆของตัวเองเพื่อสร้างภาพลักษณ์เป็นคนทำงานล่วงเวลาที่น่าสงสาร เหนื่อยล้าไปทั้งตัวหลังจากเลิกทำงานล่วงเวลา
เปิดประตูห้องหนังสือเดินไปที่ห้องนอน
ในห้องนอนมืดมาก
บรรยากาศเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมหายใจ
พวกเธอหลับกันหมดแล้ว?
เสียงฝีเท้าของอวี๋เยว่หานเปลี่ยนเป็นเบามากโดยไม่รู้ตัว เปิดประตูอย่างเบามือ เดินตรงไปที่เตียงใหญ่
ไม่ต้องเดินไปที่ริมเตียงก็สามารถเห็นเสี่ยวลิ่วลิ่วนอนพาดบนหมอนเหมือนหนูแฮมเตอร์
ศีรษะเอียง หน้าเล็กขาวเกลี้ยงกดอยู่กับหมอน นอนหลับสนิท
เหนียนเสี่ยวมู่ล่ะ?
อวี๋เยว่หานหรี่ตาดำขลับเร่งฝีเท้าเดินไปข้างหน้า ตอนที่ยืนอยู่ริมขอบเตียงก็ถึงจะเห็นเหนียนเสี่ยวมู่นอนราบอยู่ในผ้าห่มแทบไม่กระดุกกระดิก
สิ่งที่เธอกอดไว้คือตุ๊กตาลูกหมูตัวโปรดของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
เอาตุ๊กตามาทำเป็นเสี่ยวลิ่วลิ่วเหมือนกับกลัวว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วจะเตะผ้าห่ม เธอจึงกอดไว้แน่นๆ ส่วนเจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยที่ควรจะโดนเธอกอดก็ลื่นลงไปบนหมอนเรียบร้อยแล้ว
ซนจริงๆ
อวี๋เยว่หานมองไปที่สองแม่ลูกพลางคิดว่าเขายังไม่ทันได้เริ่มแสดง เวทีก็จบลงแล้ว
จ้องมองดวงตาที่กำลังหลับใหลของเหนียนเสี่ยวมู่ ดวงตาเข้มลึกล้ำก้มตัวลงจูบที่ใบหน้าของเธอ
ห่างกันเพียงไม่กี่วันเขาก็คิดถึงเธอ
คิดถึงจนใจแทบขาด
ทุกวันที่ได้ยินเสี่ยวลิ่วลิ่วพูดถึงเธอ เขาก็มักจะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเด็กที่ถูกทอดทิ้ง แม้แต่เสี่ยวลิ่วลิ่วยังรังเกียจเขาและยังไม่เป็นที่ชื่นชอบเมื่ออยู่ต่อหน้า
พอเธอไม่ได้อยู่ใกล้ๆ เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
พอคิดได้ดังนั้น อวี๋เยว่หานก็ก้มจูบริมฝีปากของเธอ
เขาอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วที่กอดหมอนวางไว้ข้างๆเธอก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตาลูกหมูที่เธอกอดออกมา
ทันทีที่ขยับ เธอก็กระชับแขนแน่น
คิ้วยังขมวดเล็กน้อย
ในฝันยังคิดว่าเขาเป็นเสี่ยวลิ่วลิ่ว เธอผลักแขนเขาออก พลิกตัวและกอดตุ๊กตาลูกหมูพึมพำ “เสี่ยวลิ่วลิ่วอย่าเตะผ้าห่มสิ เดี๋ยวจะหนาว”
อวี๋เยว่หาน “…”
จู่ๆก็รู้สึกอิจฉาตุ๊กตาขึ้นมา
หรี่ตาและนอนลงข้างๆเธอ กอดเธอจากด้านหลัง
เธอสะดุ้งและหันมาหาเขาอย่างกะทันหัน ลืมตาอย่างงัวเงีย ทันใดนั้นเขาก็กลั้นหายใจไม่อยู่เอ่ยขึ้นมาว่า
“เหนียนเสี่ยวมู่ ย้ายกลับมา!”
-
มีตอนใหม่อัพเดต
ตอนที่ 814 เสียทั้งฮูหยินเสียทั้งรี้พล
อวี๋เยว่หานนึกไม่ถึงว่าพอพูดประโยคนี้ออกไป ตัวเองถึงกับชะงัก
หลังจากได้สติ หัวใจที่ร้อนรนก็สงบลง
เหมือนได้พูดสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมาตรงๆ
แต่หลังจากพูดออกมาตรงๆก็กลายเป็นความกังวล
โดยเฉพาะเมื่อเขารอได้สักพัก ก็รอการตอบสนองของเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ไหว หัวใจแขวนอยู่ในลำคอไปชั่วขณะ
หลุบตาลงและคิดจะถามเธออย่างจริงจัง วินาทีต่อมาเขาก็เห็นเธอลืมตาขึ้นเล็กน้อยและค่อยหลับตาลงอีกครั้ง
จากนั้นก็ซบที่อกเขาแล้วหลับไป
หลับไปทั้งอย่างนี้…
ดังนั้นประโยคที่เขาเพิ่งพูดออกไปเมื่อครู่นี้ เธอได้ยินหรือไม่ได้ยินกันแน่?
อวี๋เยว่หานยกมือกำลังจะผละเธอ แต่พอกำลังจะยกมือก็วางมือลงอีกครั้ง เม้มปากบางเป็นรูปโค้ง
กอดเหนียนเสี่ยวมู่ไว้ในอ้อมแขนพลางถอนหายใจ
ไม่ง่ายเลยที่จะหลอกล่อให้เธอกลับมาและมาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง ถ้าเธอตื่นขึ้นมาแล้ว หากยังไม่ให้เธอย้ายกลับมาก็จะไม่มีคนให้กอด นี่ไม่เท่ากับว่าเสียทั้งฮูหยินเสียทั้งรี้พลหรอกหรือ
ช่างเถอะๆ
กอดก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เรื่องย้ายกลับมารอตื่นพรุ่งนี้แล้วค่อยคุยกันก็ได้
อวี๋เยว่หานกระชับแขนกอด หนุนอยู่บนหน้าอกเธอ หลับเหมือนกับเป็นลูกของเหนียนเสี่ยวมู่
หลายวันมาแล้วที่ไม่ได้หลับดีนอนดี เวลานี้จะได้นอนเต็มอิ่มเสียที
อวี๋เยว่หานค่อยๆปิดตาลงแล้วผล็อยหลับไป
ก่อนจะหลับไปในหัวยังคิดว่าพอตื่นในพรุ่งนี้ เขาจะให้เหนียนเสี่ยวมู่ย้ายกลับมา
แต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง อวี๋เยว่หานก็ถูกเหนียนเสี่ยวมู่ผลักในช่วงกลางดึก
“อวี๋เยว่หาน คุณปล่อยฉันนะ”
“ไม่ปล่อย!” ชายที่เพิ่งตื่นอยู่ในอาการสะลึมสะลือ เขาพูดโต้ตอบมาหนึ่งประโยคโดยไม่แม้แต่จะคิดเมื่อได้ยินว่าตัวเองจะถูกทิ้ง
“……”
เหนียนเสี่ยวมู่อึ้งอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานเธอก็พูดเสียงต่ำ “เสี่ยวลิ่วลิ่วมีไข้ คุณจะตื่นไหม?”
อวี๋เยว่หาน “…”
อวี๋เยว่หานลุกขึ้นนั่งบนเตียง กอดแขนเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ยอมปล่อย
เหนียนเสี่ยวมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดของเขาและถูกเขาอุ้มให้นั่งด้วยกัน
จนกระทั่งอวี๋เยว่หานยื่นมือแตะหน้าผากที่ร้อนผ่าวของเสี่ยวลิ่วลิ่ว เขาเลิกคิ้วแล้วปล่อยแขนที่โอบกอดเธอทันที
จากนั้นก็อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ยังหลับงัวเงียเข้ามากอด
“โทรเรียกหมอ…”
“คุณอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วดีดีล่ะ ฉันจะไปเอายาลดไข้ที่คุณหมอให้ไว้มาให้เสี่ยวลิ่วลิ่วทานลดไข้ก่อน” เหนียนเสี่ยวมู่เคยเรียนพยาบาล เธอมักจะฟังความรู้ด้านการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้นจากถานเปิงเปิงมามากพอสมควร
จึงเห็นได้ชัดว่าเธอนิ่งมาก
เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานตื่นแล้ว เธอจึงลงไปเอายาข้างล่าง
เสี่ยวลิ่วลิ่วมีไข้ขึ้น แต่เธอไม่รู้ตัวและยังคงหลับอยู่ เป็นเพราะตัวเธอร้อนไม่สบายตัว ปากเล็กๆจึงฮึมฮัมเป็นครั้งคราว
เหนียนเสี่ยวมู่ไปเอายาขึ้นมา อวี๋เยว่หานรับไปละลายน้ำและป้อนเข้าปากเสี่ยวลิ่วลิ่วอย่างระมัดระวัง
การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างชำนาญเหมือนทำบ่อย
เมื่อพบว่าสายตาเธอมองด้วยความตกตะลึง อวี๋เยวห่านก็หลุบตาลงแล้วพูดว่า
“ตอนที่เสี่ยวลิ่วลิ่วเพิ่งมาอยู่กับผม เธอเพิ่งจะอายุหนึ่งขวบ ยังเรียกได้แค่ ‘ป่าป๊า’ กับ ‘กินนม’ เท่านั้นเอง ผมดูแลเธอไม่เป็น แล้วเธอก็ไม่ยอมอยู่กับคนอื่น ช่วงเวลานั้นเธอจึงป่วยบ่อยๆ”
เมื่ออวี๋เยว่หานนึกย้อนกลับไป คิ้วก็ขมวดแน่น
ตอนที่เสี่ยวลิ่วลิ่วเพิ่งมาที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ เขารู้สึกต่อต้านกับการปรากฏตัวของเสี่ยวลิ่วลิ่วมาก แต่พอเห็นเธอที่ตัวเล็กจิ๋ว ตัวสีชมพูนุ่มนิ่ม และหน้าตาเหมือนตัวเอง เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
ปล่อยให้เธอกำเริบเสิบสานบนหัวตัวเอง มองเธอเล่นซนทั้งวัน นอกจากรู้สึกสดชื่นแล้ว ยังจนใจกับพลังของเด็กน้อย