ตอนที่ 821 ฉันคิดถึงเธอ
นั่นคือเรื่องชีวิตรักของเจิ้งเหยียน
ก็แปลกอยู่หน่อยนึง
ท่าทีเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ที่แสดงให้เห็นก็คือพวกเขาใส่ใจในความร่วมมือนี้มาก แต่ด้วยเหตุใดผู้ที่ได้รับการคัดเลือกมาเจรจาตั้งแต่แรกถึงไม่ใช่เจิ้งเหยียนที่มีความสามารถมากที่สุด แต่เป็นคนอื่น?
เป็นไปได้ไหมว่าเจิ้งเหยียนกับอวี๋เยว่หานมีความสัมพันธ์อะไรกัน ตระกูลเจิ้งจึงหลีกเลี่ยง…
ไม่ได้ๆ
ไม่ต้องคิดแล้ว
ตอนนี้เธอกับอวี๋เยว่หานไม่ได้อยู่ด้วยกัน พอไม่ได้เจอหน้าหล่อๆ ของเขาก็ย่อมรู้สึกหวั่นไหว ถ้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป เกรงว่าเธอจะคิดภาพเขาจูงมือเจิ้งเหยียนแล้วบอกเลิกเธอ
“เรื่องเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์พักไว้ก่อน รอพวกเขานัดเจรจาอีกทีค่อยว่ากัน”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบก็ให้เลขาออกไปก่อน เพราะอยากให้ตัวเองใจเย็นๆ เข้าไว้
แต่พอเลขาเพิ่งออกไปได้ไม่นาน โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น
เธอเหลือบมองหน้าจอและรับด้วยความประหลาดใจ
เสียงใสแจ๋วของซั่งซินดังมาจากปลายสาย “ฉันกลับมาแล้ว ตอนนี้อยู่เมือง H เธอว่างไหม ฉันคิดถึงเธอ”
“….” เหนียนเสี่ยวมู่นิ่งไปสักพัก
ถือโทรศัพท์ออกเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้เกิดภาพหลอน จากนั้นก็ย้ายกลับมาแนบหูอีกครั้ง
“ว่าง ฉันกำลังจะเลิกงานอยู่พอดี ตอนนี้เธออยู่ไหน ฉันจะไปหาเธอเอง”
ซั่งซิน “ไม่ต้องลำบากหรอก ฉันรู้จักร้านอาหารอร่อยๆ อยู่ร้านนึง เราไปเจอกันที่นั่นเลยแล้วกันจะได้ทานอาหารเย็นด้วยกันพอดี”
ทั้งสองนัดเวลาสถานที่เสร็จก็วางสาย
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่มาถึงที่ร้านอาหารก็เห็นซั่งซินที่มาเร็วกว่าหนึ่งก้าวกำลังยืนรอเธออยู่ที่หน้าประตู
พอเจอกันก็กอดกันสักพัก
“ทำไมจู่ๆ ก็กลับมาล่ะ? ฉันยังคิดอยู่เลยว่าเธอคงไม่คิดจะกลับมาที่นี่อีกตลอดชีวิต พอฉันนึกอยากเจอเธอ เธอก็หนีไปเมืองอื่นแล้ว เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ตอนนี้พักอยู่ที่ไหน…”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดด้วยความอัดอั้นตันใจ พูดยังไม่ทันจบ ซั่งซินก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“ฉันท้อง”
“……”
“ก็เลยกลับมาน่ะ” ซั่งซินเสียงเบามาก แต่พูดอย่างเปิดเผย
ผลที่ตามมาคือเหนียนเสี่ยวมู่ตกใจไปแล้ว
จากนั้นไม่นานก็ทำได้เพียงยืนอยู่กับที่ สักพักก็เงยหน้ามองหน้าเธอ สักพักก็มองท้องของเธอ
“ลูกเพิ่งหนึ่งเดือนกว่าเอง ตอนนี้ยังดูไม่ออกหรอก ทำไมเธอเหมือนถังหยวนซืออย่างงั้นล่ะ เอาแต่จ้องท้องฉัน…” ซั่งซินโดนเธอจ้องจนชาหนังศีรษะ อดที่จะบ่นไม่ได้
เรื่องที่เธอท้อง เธอบอกเพียงสองคนเท่านั้น
ผลคือทั้งสองมีปฏิริยาเหมือนกันทุกประการ
ต่างก็ตกใจกันไปหมด จากนั้นก็เอาแต่จ้องท้องของเธอ
“มีจริงๆ เหรอ?” เหนียนเสี่ยวมู่อ้าปากเล็กน้อยพลางเอามือลูบท้องที่ยังแบนราบของเธอ
แม้เธอจะเคยคลอดเสี่ยวลิ่วลิ่วมาก่อน แต่เธอก็ลืมไปแล้ว
จำไม่ได้เลยว่าตอนตัวเองท้องเป็นอย่างไร
เมื่อได้ยินว่าซั่งซินกลับมาจากต่างประเทศก็ตกใจมากพออยู่แล้ว
ตอนนี้ยังมาได้ยินเธอบอกว่าตัวเองท้องอีกก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ ตอนที่เดินเข้าไปในร้านอาหารก็ทำเหมือนประคองบรรพบุรุษไปตลอดทาง ประคองเธอด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวเธอจะไปชนอะไรเข้า
พอได้สติก็รีบคว้าข้อมือซั่งซิน
“เธอบอกว่าถังหยวนซือรู้ว่าเธอท้องแล้วงั้นเหรอ?”
“อืม” ซั่งซินพยักหน้า
ในช่วงหลายวันมานี้ถังหยวนซือประคบประหงมเธออย่างดีและดูแลเธอกับลูกด้วยความเอาใจใส่
แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเขา
ซั่งซินยิ้มเล็กน้อย “เขาก็น่าจะอยากมีลูก…”
“…น่าจะ?” เหนียนเสี่ยวมู่ผงะ
พอนึกถึงถังหยวนซือ ภาพแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเธอคือวันที่ซั่งซินจากไปและเธอไปรับอวี๋เยว่หานที่โรงพยาบาล ถังหยวนซือนอนอยู่โรงพยาบาล
ตอนที่ 822 เขาไม่ต้องการ เธอต้องการ!
ซั่งซินไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเหนียนเสี่ยวมู่ เมื่อได้ยินเธอพูดก็กัดริมฝีปาก
“พวกเราไม่ได้ปรึกษาเรื่องลูกกันมาก่อน ฉันก็อยากถาม แต่ยังไม่มีโอกาสมาตลอด อีกอย่างเขาดีกับฉันมาก ตั้งแต่รู้ว่าฉันท้องก็เอาแต่ทำตัวทึ่มทื่อ กระทั่งหลับก็ไม่ยอมปล่อยมือ เหมือนกับกลัวว่าจะไม่เจอฉันอีก….”
ขณะที่พูด ซั่งซินก็หน้าแดงเล็กน้อย อายอยู่หน่อยๆ ไม่กล้าพูดต่อ
เมื่อนึกถึงความเปลี่ยนแปลงของถังหยวนซือในหลายวันมานี้ ตัวเองก็ไม่อยากจะเชื่อ
ดังนั้นเธอจึงยิ่งมั่นใจว่าถังหยวนซือใส่ใจลูก เขาไม่มีทางไม่ต้องการเด็กคนนี้
“งั้นเขาเคยบอกไหมว่าจะแต่งงานกับเธอ?”
เหนียนเสี่ยวมู่ลากซั่งซินมานั่งบนเก้าอี้ สั่งให้บริกรเสิร์ฟนมอุ่นๆ ให้ซั่งซินสักแก้ว ตัวเองก็อยากได้น้ำเปล่าสักแก้วเหมือนกัน จากนั้นเธอถึงจะเอ่ยปาก
“เธอเองก็ท้องแล้ว ถังหยวนซือยังไม่คิดถึงเรื่องแต่งงานอีกเหรอ? เขาไม่ทันได้คิดหรือว่าอยากให้เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว?”
เมื่อได้ยินดังนั้นซั่งซินก็กัดริมฝีปากเงียบๆ
ซั่งซินเองก็ไม่ได้นึกถึงปัญหานี้
ตั้งแต่เธอรู้ว่าตัวเองท้อง สิ่งที่เธอกังวลที่สุดคือถังหยวนซือออกจะปฏิเสธเธอถึงขนาดนั้น เขาไม่ต้องการลูกคนนี้แน่ๆ
แต่เธอยังอยากสู้อีกครั้งเพื่อลูก
ปฏิกิริยาของถังหยวนซือเกินจินตนาการของเธอไปมาก
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหลังจากที่เขารู้ว่าเธอท้อง เขาจะดูตกใจระคนดีใจเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนั้น
ราวกับรอคอยมาโดยตลอดว่าพวกเขาจะมีลูกกันสักคน…
ความยินดีเป็นบ้าเป็นหลังที่ส่งผ่านมาถึงเธอ
ทำให้เธอลืมเรื่องอื่นๆ
จนมาถึงตอนนี้…
คำเตือนของเหนียนเสี่ยวมู่ทำให้เธอตระหนักได้ว่าดูเหมือนถังหยวนซือจะไม่เคยพูดกับเธอมาก่อนถึงเรื่องอนาคตของพวกเขา
รวมถึงต้องการเธอหรือไม่ หรือต้องการลูกหรือไม่
“ซั่งซิน…”
“เธอไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไร ฉันเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซั่ง ถึงถังหยวนซือจะไม่ต้องการฉัน ฉันยังกลับบ้านได้ พ่อกับแม่รักฉันมาก หลายปีมานี้ฉันทำงานหาเงินได้มากแล้ว ฉันยังมีบริษัทตระกูลซั่งที่สืบทอดได้ ลูกคนเดียวฉันก็เลี้ยงได้…”
ซั่งซินพูดตัดบทเหนียนเสี่ยวมู่ พูดมาหลายคำในหนึ่งลมหายใจ
เธอเพียงแค่อยากจะบอกเหนียนเสี่ยวมู่ว่าไม่ว่าอย่างไร เธอจะไม่ทิ้งลูกตัวเองเด็ดขาด
ลูกคนนี้ ไม่ว่าถังหยวนซือจะต้องการหรือไม่ เธอก็จะคลอดให้ได้!
“ซั่งซิน เธอไม่ต้องเครียด ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น” เหนียนเสี่ยวมู่ยกน้ำขึ้นมาจิบ
หลุบเปลือกตาลงเล็กน้อยเพื่อปกปิดสายตาลังเลของเธอ
เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะบอกซั่งซินเรื่องที่เจอถังหยวนซือที่โรงพยาบาลดีหรือไม่
ซั่งซินยังท้องอยู่ ถ้าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันล่ะก็…
แต่ถ้าไม่พูด เธอก็กังวลว่าทั้งสองจะพลาดอีกครั้งเพราะความเข้าใจผิด
เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดปมอยู่นาน เธอวางแก้วลงแล้วพูดอย่างช้าๆ “เธอเคยคิดไหมว่าการที่ถังหยวนซือเอาแต่ผลักไสเธอมาตลอดไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่ชอบเธอ แต่เป็นเหตุผลอื่น?”
“…” ซั่งซินกะพริบตาด้วยความงุนงงเล็กน้อย
ราวกับคิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ถังหยวนซือไม่ชอบเธอ
เหนียนเสี่ยวมู่ “งั้นฉันจะถามอีกอย่างนึง เธอรู้ไหมว่าถังหยวนซือป่วยเป็นอะไร? ประเภทที่ว่าป่วยแบบร้ายแรงหรือไม่สามารถรักษาให้หายได้…ฉันรู้ว่าที่ฉันพูดแบบนี้เหมือนเป็นการแช่งเขาอยู่หน่อยๆ แต่ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น ฉันแค่…”
ซั่งซิน “ฉันรู้ว่าพี่เสี่ยวซือเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด”