ตอนที่ 825 พยายามขบกำปั้นน้อย
ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหาร
แม้เรื่องโรคหัวใจกำเริบจะผ่านไปแล้ว แต่ซั่งซินก็ยังไม่ได้วางใจ
พอนึกถึงเรื่องที่เหนียนเสี่ยวมู่เตือน เธอก็กัดริมฝีปากแล้วถามเขาว่า
“เราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่?”
“……”
“ฉันไม่ได้บังคับให้คุณแต่งงานด้วย แต่ถ้าเราไม่แต่งก่อนที่ลูกจะคลอด ลูกก็จะกลายเป็นลูกนอกสมรส อีกอย่างถ้าพ่อฉันรู้ ฉันกลัวว่าเขาจะมาตีคุณให้ตาย…” ซั่งซินกัดตะเกียบ ยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง
เธอไม่ได้สนใจเรื่องสถานะ
ตอนกลับประเทศ เธอคิดเพียงแค่ว่าไม่อยากให้ลูกเกิดมาโดยไม่มีพ่อ
ดังนั้นจึงรวบรวมความกล้ามาหาถังหยวนซือ
แต่ที่เหนียนเสี่ยวมู่พูดก็ถูก ถ้าถังหยวนซือไม่มีแผนจะแต่งงาน นั่นก็แปลว่าเขาไม่ต้องการเด็กคนนี้จริงๆ ?
หากโรคหัวใจของถังหยวนซือกำเริบและกำลังปิดบังเธออยู่ สถานการณ์แบบนั้นก็คงไม่เป็นไปในแง่ดีเท่าไหร่ บางทีอาจจะถึงขนาดเลวร้ายที่สุด เขาถึงได้ผลักไสเธอมาตลอด
ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมให้เธอเก็บลูกไว้
ทันทีที่ซั่งซินคิดถึงจุดนี้ หัวใจทั้งดวงก็กระดอนขึ้นมา
มองไปยังแววตาของถังหยวนซือเหมือนเป็นการสืบเสาะ
“ซินเอ๋อร์ เรื่องนี้จะให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายถามไม่ได้” ถังหยวนซือชะงักและวางตะเกียบทันที เขาขมวดคิ้ว
ท่าทางขัดเคืองแบบนี้เหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการจะพูด แต่โดนคนอื่นพูดออกมาก่อน
ซั่งซินตอบสนองต่อสิ่งที่เขาพูดโดยมึนงงไปได้สักพัก
นั่นก็หมายความว่าเขาไม่ได้ไม่พิจารณาเรื่องแต่งงาน แต่แค่ยังไม่ทันได้บอกเธอ?
“ฉัน อันที่จริงฉันไม่ได้เกลียดการแต่งงาน ฉันแค่ ฉัน…”
ถังหยวนซือใจดีช่วยเธอเปลี่ยนเรื่อง “ทานข้าวกันก่อนเถอะ เธอชอบดูดาวไม่ใช่เหรอ หอดูดาวบอกว่าวันนี้จะมีดาวตก เดี๋ยวฉันจะพาเธอขึ้นไปดูบนดาดฟ้า”
“……”
พอซั่งซินโดนเขาหยอก ก็ลืมสิ่งที่ตัวเองต้องการจะถาม
ก้มหน้าทานข้าวอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ตามเขาไปดูดาวข้างบน
ขณะที่กำลังดูดาว เธอก็นอนซบอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ช่วงเวลาที่กำลังเคลิบเคลิ้มก็ได้ยินราวกับมีใครพูดอยู่ข้างหูตัวเอง
พอตั้งใจฟังก็เหมือนกับว่าไม่ได้พูดกับเธอ แต่พูดกับลูกในท้องเธอ
เป็นเสียงของถังหยวนซือ
เขาพูดอยู่ตลอดว่าพ่อรักหนูมาก และรักแม่มาก
แล้วยังมีอะไรอีกนะ เธอหลับสะลึมสะลือจึงได้ยินไม่ชัด
ได้ยินแค่เขาบอกว่าเขารักเธอและยังรักลูกของพวกเขาด้วย เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากอย่างมีความสุขและหลับไปด้วยความพอใจ
ในฝัน เธอยังฝันว่าได้เจอลูกแล้ว
ทั้งตัวเล็กทั้งนุ่มและเป็นเด็กผู้ชาย
หน้าตาเหมือนถังหยวนซือทุกประการ
นอนอยู่ในผ้าอ้อม พยายามขบกำปั้นน้อยของตัวเอง ดูดน้ำลายจนเกิดเสียง…
เพิ่งจะคลอดออกมาได้ไม่นานก็ทำตัวน่ารักให้ทุกคนหวั่นไหวซะแล้ว
พอเธอคิดจะเอื้อมมือไปอุ้มเขา ทันใดนั้นลูกน้อยที่อยู่ตรงหน้าก็ห่างจากเธอไป ค่อยๆ ห่างออกไปไกลเรื่อยๆ …
“ลูกจ๋า!”
ซั่งซินตื่นจากความฝันลุกขึ้นนั่งด้วยความหวาดกลัว พบว่าตัวเองถูกอุ้มกลับห้องแล้ว
ถังหยวนซือกอดเธอแน่น
เผชิญหน้ากับสายตาหวาดกลัวของเธอ ตบไหล่เธอด้วยความอ่อนโยน “ฝันร้ายเหรอ?”
“……”
“ไม่ต้องกลัว แค่ความฝัน” เสียงของถังหยวนซือเบามากแต่แฝงไปด้วยความรักใคร่ ทำให้ใจที่กระวนกระวายเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง
สายตาเธอหยุดอยู่ที่ถ้วยยาข้างเตียง กลิ่นยาฉุนจนแสบจมูก
เธอขมวดคิ้ว “นี่อะไร?”
ดวงตาถังหยวนซือวูบลงเล็กน้อย เขายกถ้วยยาส่งให้เธอ “เห็นเธอบอกว่านอนไม่หลับ หมอก็เลยสั่งยาจีนให้ มันดีต่อลูก”
ซั่งซินไม่ได้สงสัยในตัวเขา เธอยื่นมือมารับถ้วยยาไป ถังหยวนซือลังเลสักพัก เมื่อเห็นดวงตาที่ว่างเปล่าของเธอก็ปล่อยมือ
มองเธอดื่มยาทีละอึก…
ตอนที่ 826 ใจเย็นไม่ไหวแล้ว!
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากเหนียนเสี่ยวมู่แยกกับซั่งซิน เธอก็หอบข้อมูลที่ผู้ช่วยให้มา กลับอพาร์ตเมนต์ถานเปิงเปิง
นอนอยู่บนโซฟาตามลำพัง ขณะที่อ่านประวัติส่วนตัวของเจิ้งเหยียนก็วงกลมจุดสำคัญไว้ด้วย
โดยเฉพาะวิธีการที่เจิ้งเหยียนใช้ในการเจรจาทุกครั้ง
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังมุ่งความสนใจไปที่จุดสำคัญของอีกฝ่ายจากบรรดาโครงการที่เคยร่วมมือกับบริษัทตระกูลอวี๋
แต่พอเธออ่านข้อมูลอีกครั้งก็พบว่าไม่มี…
เหนียนเสี่ยวมู่ประหลาดใจและหาดูอีกครั้ง
แต่ก็ยังไม่พบ
เธอจำได้ว่าเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์เคยร่วมมือกับบริษัทตระกูลอวี๋เมื่อหลายปีก่อน หรือว่าตอนที่ผู้ช่วยรวบรวมข้อมูลมาให้เธอ เขาจะลืมใส่มันมาด้วย?
ทำไมเธอถึงรู้สึกแปลกๆ
เหนียนเสี่ยวมู่คว้าโทรศัพท์แล้วโทรหาผู้ช่วย
คำตอบที่ได้รับคือ “คุณเหนียน ความร่วมมือครั้งล่าสุดคุณชายหานเป็นคนเจรจาด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นก็เลยไม่มีข้อมูลอ้างอิง”
อวี๋เยว่หานเป็นคนเจรจาด้วยตัวเอง นั่นคือเรื่องปกติ
ผู้ช่วยคงไม่กล้าพอที่จะจัดการเอกสารของบอสใหญ่
เดี๋ยวก่อน!
อวี๋เยว่หานเจรจาด้วยตัวเอง แล้วเขาเจรจากับใคร? เจิ้งเหยียน? พวกเขารู้จักกันจริงด้วย?
เหนียนเสี่ยวมู่ใจเย็นไม่ไหวแล้ว
เธอลุกจากโซฟา คำพูดคลุมเครือพวกนั้นที่เจิ้งเหยียนพูดแวบเข้ามาในหัว
ตอนนั้นเธอรู้สึกได้ว่ามันเป็นสัญญาณลับบางอย่าง แต่แค่เธอไม่อยากจะเข้าใจ
ตอนนี้พอคิดดูแล้วบางทีตอนที่ทั้งสองเจรจาความร่วมมือกัน เจิ้งเหยียนจะต้องมีอะไรบางอย่างกับอวี๋เยว่หานแน่ๆ เพราะฉะนั้นพอรู้ว่าเธอรักกับอวี๋เยว่หาน ก็เลยจงใจยั่วยุเธอ
หญิงร้ายชายเลว
ช่างเหมาะสมกันดีจริง!
แต่ตอนนี้เธอคิดถึงชายเลวคนนั้นอยู่บ้าง ทำยังไงดี...
เหนียนเสี่ยวมู่ฟุบอยู่บนโซฟาอย่างอ่อนล้า
ฝันเมื่อวานเธอยังจำได้ดีจนถึงตอนนี้
อวี๋เยว่หานกอดเธอด้วยความอ่อนโยน พูดข้างหูเธอ “เหนียนเสี่ยวมู่ ย้ายกลับมา”
หล่อจนแทบหยุดหายใจ
เธอตกใจมากจนจ้องตาเขาไปตรงๆ ถ้าพูดกันตามเหตุผล ช่วงเวลาแบบนี้ถ้าไม่ใช่ความฝัน เธอก็คงกอดและจูบเขาแรงๆ จากนั้นก็ตอบเขาอย่างไว “ตกลง”
แล้ววันต่อมา ตีให้ตายยังไงก็ไม่ยอมให้เขามีโอกาสกลับคำ รีบเก็บข้าวของแล้วย้ายกลับไป
แต่น่าเสียดายที่เป็นแค่ความฝัน
ภาพต่อจากนั้นก็ถูกตัดไป
เขาไม่ได้บอกให้เธอย้ายกลับ แต่ดูเหมือนเขาจะทิ้งโน้ตไว้ให้เธอ
ไม่รู้ว่าเขียนอะไรไว้
เพราะตอนนั้นที่เธอรับสายฟ่านอวี่ พอได้ยินว่ามีข่าวของถานเปิงเปิง เธอก็ลืมทุกสิ่งอย่างและรีบออกจากคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
น่าจะเตือนเธอให้ดูแลเสี่ยวลิ่วลิ่วอะไรทำนองนั้น…
ถึงอย่างไรก็ไม่น่าจะใช่ที่บอกให้เธอย้ายกลับไป
-
บริษัทตระกูลอวี๋
อวี๋เยว่หานทำงานล่วงเวลาจนดึก หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมระหว่างประเทศ ผู้ช่วยก็ถลาตัวมาอยู่ข้างๆ
“คุณชายหานครับ วันนี้คุณเหนียนไปคฤหาสน์ของฟ่านอวี่”
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็ชะงักเท้า
ใบหน้าที่เหนื่อยล้าดูมืดมนไปชั่วขณะ
“เดท?”
“น่าจะไม่ใช่ ได้ยินมาว่าฟ่านอวี่ก็กำลังตรวจสอบข่าวของถานเปิงเปิงจึงน่าจะพบอะไรบางอย่างเข้า เขาก็เลยแจ้งคุณเหนียนให้ไปพบ แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนคุยอะไรกันตั้งนานสองนาน คุณเหนียนถึงออกไปช่วงเช้ายังไม่กลับบริษัทเลย”
อวี๋เยว่หาน “…”
คนสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังนานขนาดนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการนัดเดทหรอก
ฟ่านอวี่ก็น่าจะรู้แล้วว่าถานเปิงเปิงยังไม่ตาย
เขาเองก็รู้ข่าวนี้แล้ว
เดิมทีเขาคิดจะบอกเหนียนเสี่ยวมู่หลังจากเธอย้ายกลับคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
แต่ไม่คิดเลยว่าฟ่านอวี่จะเคลื่อนไหวเร็ว
อวี๋เยว่หานหยิบเสื้อนอกมาสวมพร้อมกับพูดว่า “ฝั่งคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ได้โทรมาไหม? เหนียนเสี่ยวมู่ย้ายกลับมาหรือยัง?”
ผู้ช่วย “ไม่นะครับ”
“…” อวี๋เยว่หานที่กำลังสวมเสื้อชะงัก!