ตอนที่ 829 คุณโง่หรือเปล่า…
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะร้องออกมาด้วยความตกใจ พอนึกขึ้นได้ว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วกำลังหลับอยู่จึงรีบปิดปาก
เป็นความลังเลเพียงเสี้ยววินาที เธอก็ถูกอวี๋เยว่หานรวบตัวเข้าไปกอด
ลมหายใจของเขายังวนอยู่รอบตัวเธอ
เหนียนเสี่ยวมู่ตัวแข็งทื่อ
พอนึกอยากจะผลักเขาก็ผลักไม่ได้
นึกอยากจะถามเขาว่าทำอะไร ก็พบว่าอวี๋เยว่หานกอดเธอโดยไม่ขยับเขยื้อน ทั้งยังได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมออยู่ข้างหู…
เขาหลับแล้ว?
เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาก็เลยกอดเธอตามสัญชาตญาณและยังคิดว่าเธอเป็นเสี่ยวลิ่วลิ่วสินะ?
เหนียนเสี่ยวมู่พยายามหันตัวกลับและค่อยๆเงยหน้าขึ้น
เดิมทีตำแหน่งที่เธอควรนอน อวี๋เยว่หานก็นอนไปแล้ว เสี่ยวลิ่วลิ่วถูกวางไว้ริมสุด มิน่าล่ะพอเธอนอนลงตามตำแหน่งปกติถึงได้นอนอยู่อ้อมกอดอวี๋เยว่หาน
เธอกำลังคิดที่จะขยับแขนอวี๋เยว่หาน แต่เขากลับกระชับแขนโดยใช้แรงกอดเธอไว้ในอ้อมกอด
เอวเธอโดนรัดแทบจะหัก!
สักพักเหนียนเสี่ยวมู่ก็นอนลงและซบบนอกเขาอย่างว่าง่าย
เสี่ยวลิ่วลิ่วหลับแล้ว เธอจะนอนที่ไหนก็เหมือนกัน
พอคิดได้ดังนั้นเหนียนเสี่ยวมู่ก็หลับไป
พิงอ้อมกอดอวี๋เยว่หานแล้วหลับลึก
ท่ามกลางความมืดเหลือเพียงเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่ที่แน่ๆเธอหลับไปแล้ว อวี๋เยว่หานที่กำลังกอดเธอค่อยๆลืมตาขึ้น
สายตาจ้องมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังซบอยู่บนหน้าอกของตัวเอง ในแววตารักใคร่แฝงไปด้วยความกลัดกลุ้ม
ดีใจที่ในเวลานี้เธอหลับอยู่ในอ้อมกอดเขา แต่กลัดกลุ้มที่เธอไม่ยอมย้ายกลับมาและยังหนีไปเจอฟ่านอวี่
ดวงตาสีเข้มจมดิ่ง แขนที่กอดเธอไว้ยิ่งรัดแน่นขึ้น
แทบทนไม่ไหวที่จะโอบเธอเข้ามาในร่างของตัวเอง
“เหนียนเสี่ยวมู่”
“เหนียนเสี่ยวมู่”
“เหนียนเสี่ยวมู่…”
ราวกับเรียกเท่าไหร่ก็ไม่พอ เขาเอาแต่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงต่ำ
จนกระทั่งคนในอ้อมกอดสะดุ้ง มือเรียวปิดปากเขาและพึมพำ “อย่าวุ่นวาย ง่วง”
เธอพูดจบก็เอนศีรษะเข้ามาในอ้อมกอดของเขาเหมือนกำลังออดอ้อน ทว่าคนยังไม่ตื่น
อวี๋เยว่หานจับมือเธอแล้ววางไว้ที่ริมฝีปาก จูบไปหนึ่งที ดวงตาดำขลับเป็นประกาย
ถามทันทีว่า “ฉันเป็นใคร?”
“อวี๋เยว่หาน คุณโง่ใช่ไหม?” เหนียนเสี่ยวมู่ตอบอย่างลื่นไหลในขณะที่หลับตาอยู่
น้ำเสียงขัดใจไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิดเมื่ออยู่ในความฝัน
อวี๋เยว่หาน “…”
บางทีเขาอาจจะมีคู่หมั้นปลอม
แต่เมื่อเห็นว่าเธอยังคิดถึงเขาอยู่ในความฝัน ความกลัดกลุ้มใจของใครบางคนก็ดีขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก
เขาก้มศีรษะลงสูดกลิ่นหอมอ่อนๆบนตัวเธอและกอดเธอเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความพอใจ
รุ่งสางในวันรุ่งขึ้น
คนที่ตื่นคนแรกไม่ใช่อวี๋เยว่หานหรือเหนียนเสี่ยวมู่ แต่เป็นเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ถูกทิ้งให้อยู่ข้างเตียงคนเดียว
ไม่ง่ายเลยที่เจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยจะนอนโดยไม่เตะผ้าห่ม เธอตื่นด้วยตัวเองพร้อมกับคลานออกมาจากผ้าห่ม
มือขาวเล็กๆทำเป็นกำปั้นขยี้ตา
ผมยาวนุ่มนอนจนกลายเป็นรังไก่บวกกับดวงตากลมโตที่มีความงัวเงีย น่ารักอย่างสุดจะบรรยาย
เธอบุ้ยปากกำลังลงจากเตียง พอหันไปก็เห็นว่าพ่อกับแม่กำลังกอดกัน ดวงตากลมโตหันไปและคลานไปหาพวกเขา
พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเบียดอยู่ตรงกลาง…
ยังคงบุ้ยปากเล็กๆ “เสี่ยวลิ่วลิ่วก็อยากกอดหม่าม้า…”
ขณะกำลังเคลิ้ม อวี๋เยว่หานที่กอดเหนียนเสี่ยวมู่หลับสบายก็รู้สึกได้ว่ามีศีรษะกำลังถูกับหน้าอกของเขา
และเหมือนมีมืออีกข้างดึงเสื้อเขาไว้ พยายามมุดเข้าไปในอ้อมแขน
เขาสะดุ้ง
ในใจพลางคิดว่า…หรือว่าเหนียนเสี่ยวมู่กำลังส่งสัญญาณลับ?
ตอนที่ 830 คุณชายหาน ที่พื้นสบายไหม?
สัญญาณลับที่ออกจะชัดเจนขนาดนี้ ถ้าเขาไม่แสดงออก เธอจะผิดหวังไหม?
อวี๋เยว่หานยังไม่ทันคิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังโดนเบียด โดยคิดว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้รับการตอบสนองก็หงุดหงิดขึ้นมา เขาจึงเอื้อมมือไปกอดเธอไว้และเงยหน้าเตรียมจะจูบ
ทันทีที่ลืมตา เขาก็เผชิญหน้ากับใบหน้าเล็กๆที่ขาวราวกับหยกแกะสลักของเสี่ยวลิ่วลิ่ว ตัวแข็งทื่อ!
เขายังไม่ทันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เท้าเล็กๆที่อยู่บนหน้าอกของเขาถีบเขาออกไปด้วยความรังเกียจ
“โครม——”
อวี๋เยว่หานที่กำลังตกใจไม่ได้สติก็ถูกถีบลงจากเตียงโดยไม่ทันตั้งตัว
ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตำแหน่งเดิมของเขาได้ถูกเจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยบางคนยึดครองไปแล้ว
ปากเล็กๆบ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิด “ปะป๊ากอดมาทั้งคืนแล้ว เปลี่ยนให้เสี่ยวลิ่วลิ่วได้แล้ว!”
อวี๋เยว่หาน “…” !!
ด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงของสองพ่อลูก จึงเป็นเรื่องยากที่เหนียนเสี่ยวมู่จะไม่ตื่น
ก่อนนอนเมื่อคืนเธอจำได้ว่าตัวเองถูกอวี๋เยว่หานรวบตัวไปกอด เดิมทียังกังวลอยู่เลยว่าพอตื่นขึ้นมาแล้วทั้งสองคงจะกระดากอายอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามเธอไม่คิดเลยว่าคนที่เจอเป็นคนแรกหลังจากตื่นขึ้นมาจะไม่ใช่อวี๋เยว่หาน แต่เป็นเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ซบอยู่บนอกเธอ
ส่วนอวี๋เยว่หานนั้น——
เขากำลังหน้าบึ้งคลานขึ้นจากพื้น
ชุดนอนแบะออกเล็กน้อยเผยให้เห็นอกแกร่ง
เส้นกล้ามเนื้อตึงเปรี๊ยะบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดี เมื่อสบตากับสองแม่ลูก เขาก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้พลางกระแอมเล็กน้อย
“คุณดูแลเสี่ยวลิ่วลิ่ว ผมจะไปอาบน้ำก่อน”
พอพูดจบ ก่อนที่เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะเอ่ย เขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ
จากนั้นไม่นานก็มีเสียงสาดน้ำลอยมาจากในห้องน้ำ
เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดก็เปิดโหมดฟ้อง “ปะป๊าหน้าไม่อาย เมื่อกี้จะแอบจุ๊บหม่าม้าแต่โดนเสี่ยวลิ่วลิ่วที่มีไหวพริบจับได้”
เหนียนเสี่ยวมู่ “….”
หลังจากทานอาหารเช้ากับเสี่ยวลิ่วลิ่ว เหนียนเสี่ยวมู่ก็ดูนาฬิกาพลางกำชับให้พ่อบ้านไปส่งเสี่ยวลิ่วลิ่วที่โรงเรียนอนุบาล ส่วนตัวเองก็ออกจากคฤหาสน์และเรียกแท็กซี่ไปบริษัทตระกูลอวี๋
เมื่ออวี๋เยว่หานลงมาชั้นล่าง ก็พบว่าตัวเองโดนทิ้งอีกแล้ว ใบหน้าที่เพิ่งอ่อนโยนกลับมาบึ้งตึง
น่าเสียดาย เหนียนเสี่ยวมู่ที่มาถึงบริษัทไม่ได้เห็นมัน
“ผู้จัดการเหนียน อรุณสวัสดิ์!” พอเลขาเจอเหนียนเสี่ยวมู่ก็รีบเดินมาต้อนรับ
“คนของเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์มาแล้ว อีกอย่างเจิ้งเหยียนก็มาด้วยตัวเองและบอกว่าต้องการพบคุณ! ฉันได้ให้พวกเขาไปรอที่ห้องประชุมเรียบร้อยแล้ว จะพบไม่พบก็แล้วแต่ผู้จัดการเหนียนได้เลยค่ะ!”
เลขามารายงานด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคล่องแคล่วว่องไว
เมื่อนึกถึงข้ออ้างเจิ้งเหยียนที่บอกว่าไม่สบายในวันนั้นและให้พวกเขารอถึงสองชั่วโมง เธอก็รู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อย
ไม่คิดว่าโชคจะเข้าข้างให้เหนียนเสี่ยวมู่แสดงอำนาจ ตอนนี้ได้กลายมาเป็นคนของเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์รอพวกเขา คิดแล้วก็เหมือนได้ระบายความโกรธ!
“มานานแค่ไหนแล้ว?” เหนียนเสี่ยวมู่ปรายตามองไปทางห้องประชุมพลางถาม
เลขารีบตอบ “เพิ่งมาถึงได้ไม่นานค่ะ ผู้จัดการเหนียนจะไปพบเธอตอนนี้ไหมคะ?”
แม้เลขาจะคาดหวังให้เหนียนเสี่ยวมู่แสดงอำนาจ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความร่วมมือสำคัญ ไม่ควรเอามาล้อเล่น
อีกอย่างการที่สามารถทำให้คนของเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์มาทำความร่วมมือกับพวกเขาด้วยหน้าหงอยๆที่บริษัทได้นั้นก็ถือว่าเป็นการเอาคืนได้แล้ว
จึงเป็นการสมควรที่เหนียนเสี่ยวมู่จะยอมพบเจิ้งเหยียนในตอนนี้
“ไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้ยังเร็วไป รินชาให้พวกเขา ให้รองประธานเจิ้งนั่งรออีกสักพัก” เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้ารับตารางงานจากเลขาและเข้าไปในห้องทำงาน
เมื่อเทียบกับเลขาและคนอื่นในแผนก หน้าตาเธอดูหนักแน่นเล็กน้อย