ตอนที่ 837 ฉันตกอยู่ในอันตราย!
เหมือนอยู่ภายใต้มนต์สะกด
เหนียนเสี่ยวมู่นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยไม่ขยับเขยื้อนเป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็ม
ข้างหูนอกจากประโยค “เจิ้งเหยียนชอบผู้หญิง” ที่อวี๋เยว่หานเพิ่งพูดออกมาก็มีเพียงเสียงพึมพำหลังจากตกใจ
เธอถลึงตามองไปทางอวี๋เยว่หานด้วยความสงสัยว่ากำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า
แต่พบว่าใบหน้าเขาดูผ่อนคลาย เธอจึงกระตุกมุมปาก
“อวี๋เยว่หาน นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะล้อเล่นกันได้นะ อย่าคิดว่าคุณปั้นเรื่องไปเรื่อยแล้วฉันจะเชื่อคุณ คุณเชื่อไหมว่าฉันกล้าโทรหาเจิ้งเหยียนให้เธอเผชิญหน้ากับคุณได้?”
“จะเอาโทรศัพท์ไหม? ผมให้คุณยืมก็ได้” อวี๋เยว่หานพูดพลางล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง วางไว้ตรงหน้าเธออย่างใจกว้าง
เหนียนเสี่ยวมู่มองลงไป
เขาไม่เพียงเอาโทรศัพท์ให้เธอยืม ทั้งยังปลดล็อกหน้าจอให้ด้วย
ตอนนี้เธอสามารถโทรหาเจิ้งเหยียนได้ทันทีตราบใดที่เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมา…
เหนียนเสี่ยวมู่กลืนน้ำลาย
ความสงบเยือกเย็นของเขาทำให้เธอดูเป็นคนงี่เง่าที่ถือสาเรื่องเล็กๆน้อยๆ
เมื่อเทียบกันแล้วเธอยิ่งดูเหมือนเป็นคนที่โดนจับได้ว่านอกใจเสียมากกว่า
“ในเมื่อคุณรู้มาตั้งนานแล้วว่ารสนิยมทางเพศของเจิ้งเหยียนไม่เหมือนคนอื่น ทำไมคุณไม่บอกฉันตั้งแต่แรก ยังเบิ่งตามองเธอเอารูปมาอวดต่อหน้าฉันอีก? คุณรู้ไหมว่าวันนี้ในห้องทำงานฉันโมโหเธอจนเกือบจะ…”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดได้เพียงครึ่งก็ชะงัก
ตระหนักได้ว่าเธอเกือบจะพูดอย่างน้ำไหลไฟดับเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองเกือบจะจมน้ำส้มสายชูตาย
พอเงยหน้าขึ้น ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็ยกมุมปากขึ้นสูงดังคาดไว้
แทบจะฉีกไปถึงหู
เขามองสายตาเธอที่ไม่ได้ดูสงบเหมือนก่อนหน้านี้และยังยิ้มจางๆ ก็ไม่รู้ว่าเธอมองผิดไปหรือเปล่า เธอถึงรู้สึกว่าตอนนี้แววตาของเขาเต็มไปด้วยเสน่หาเป็นพิเศษ
เหมือนอยากกอดๆจูบๆและโยนตัวขึ้นสูงๆอะไรทำนองนั้น
เมื่อเขากวาดสายตามองมา ร่างกายของเหนียนเสี่ยวมู่ก็เหมือนถูกไฟช็อต ชาไปทั้งตัว
จากนั้นคำพูดก็เปลี่ยนไป
“เรื่องนี้ให้คุณจำเอาไว้ในฐานะประธานบริษัท การปิดบังข้อมูลสำคัญ อีกนิดเดียวอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดเอาได้!”
“นี่มันเรื่องส่วนตัวของเจิ้งเหยียนไม่ใช่เหรอ? การแข่งขันทางธุรกิจไม่รวมถึงการโจมตีเรื่องรสนิยมทางเพศ” อวี๋เยว่หานพูดพลางสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางเกียจคร้าน
“ใครบอกว่าฉันต้องการโจมตีด้วยเรื่องส่วนตัว? ฉันแค่กังวลว่าฉันเองก็เป็นคนสวย ถ้าเกิดเธอตกหลุมรักฉันขึ้นมาจะทำยังไง?” เหนียนเสี่ยวมู่เอื้อมมือมาตบแก้มขาวๆของเธอพลางคิดอะไรบางอย่าง แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกช็อก
หันหน้ามองไปทางผู้ชายข้างๆ
“คุณบอกว่าเจิ้งเหยียนไม่ชอบคุณ งั้นเธอวิ่งมาหาฉันแล้วพูดเรื่องแย่ๆของคุณทำไม? เธอคงไม่ได้ตกหลุมรักฉันตั้งแต่แรกพบและอยากให้ฉันถีบคุณออกไป จากนั้นเธอก็จัดการฉัน?”
อวี๋เยว่หาน “…”
ยิ่งเหนียนเสี่ยวมู่คิดก็ยิ่งมีความเป็นไปได้
เธอหันกลับมาเอื้อมมือจับอวี๋เยว่หาน “คุณรู้เรื่องเจิ้งเหยียนมากน้อยแค่ไหน? ฉันว่าเธอก็สวยมาก แค่กระดิกนิ้วก็มีผู้ชายเข้าหาเป็นโขยง คนที่ทำให้เธอชอบได้จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน หลังจากคิดดูแล้วฉันเดาว่าไม่น่าจะมีใครดีเท่าฉัน ฉันตกอยู่ในอันตรายแล้ว!”
อวี๋เยว่หาน “…” !!
-
วันรุ่งขึ้น
ด้วย ”คำสารภาพ” ของอวี๋เยว่หาน เหนียนเสี่ยวมู่ทึ่งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเลขารายงานอีกครั้งโดยบอกว่าเจิ้งเหยียนมาหาเธอและขอพบเธอตามลำพัง
เพื่อความเป็นธรรมที่ไม่อาจฟังคำพูดของอวี๋เยว่หานเพียงฝ่ายเดียว เธอจึงสั่งให้เลขาให้เจิ้งเหยียนเข้าไปในห้องทำงานของเธอ
ตอนที่ 838 ชมว่าผิวเธอดีและยังชมว่าเธอพิเศษ
“รองประธานเจิ้งชอบดื่มชา ไปชงชาผูเอ่อร์มาสักกา” เหนียนเสี่ยวมู่กำชับเลขา
เลขารีบออกไปด้วยความรวดเร็ว
เมื่อวานตอนที่เจิ้งเหยียนโมโหแล้วออกไป สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก
ก่อนจะมาวันนี้เจิ้งเหยียนก็ได้นึกถึงท่าทีตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่เจอเธอเอาไว้แล้ว และยังคิดถึงขนาดว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะไม่ยอมพบเธอหรือเปล่า
แต่ไม่คิดเลยว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะใจกว้างให้เธอเข้ามาและยังให้เลขารินชาให้เธออีกด้วย
การต้อนรับอย่างสุภาพ สุภาพจนทำให้คนกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
รู้สึกแบบประเภทที่ว่าเย็นสันหลังวาบ…
“ฉันนึกว่าเธอจะไม่ยอมพบฉันเสียอีก” เจิ้งเหยียนรู้สึกประหลาดใจ เพียงแค่ยืนจ้องหน้าเธอสักครู่แล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานของเหนียนเสี่ยวมู่ ดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง
ดูสงบเสงี่ยมเหมือนเพื่อนที่รู้จักกับเหนียนเสี่ยวมู่มานานมากแล้ว ราวกับไม่ได้มาเพื่อเจรจากับเธอแต่มาพูดคุยรำลึกความหลัง
มือประคองหน้าเล็กน้อยพลางยิ้มมองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่
ใบหน้าที่แต่งอย่างละเอียดลออ นัยน์ตาหงส์ที่ทรงเสน่ห์ ปลายหางตาเป็นเอกลักษณ์
วันนี้เธอไม่ได้สวมชุดสูท แต่เป็นชุดลายดอกไม้สีขาวยาวเกือบถึงข้อเท้า
ดีไซน์แบบสายเดี่ยว แม้จะเข้ากับผ้าคลุมไหล่ แต่กระดูกไหปลาร้าที่ผลุบๆโผล่ๆก็เซ็กซี่เหลือเฟือ…
อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย เหนียนเสี่ยวมู่มองก็ยังเคลิ้มไปบ้าง
ผู้หญิงสวยๆมีเยอะแยะ แต่มีน้อยมากที่เป็นประเภทเดียวกับเจิ้งเหยียน เป็นความสวยที่ผู้ชายเห็นแล้วถึงกับต้องหวั่นไหว ผู้หญิงเห็นก็รู้สึกอันตราย
จะพูดอย่างไรดีล่ะว่าเธอเหมือนจิ้งจอกสาว
แต่ตอนนี้เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้มีความเห็นต่อ “จิ้งจอกสาว” ตัวนี้มากนัก พอได้ยินเธอพูดก็ตอบกลับไปว่า
“ทำไมจะไม่พบล่ะ? คนที่โมโหแล้วหนีไปก็คือคุณ คุณกล้ามาหาฉันอีก ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่กล้าพบคุณ”
คำตอบที่ไม่คาดคิดทำให้เจิ้งเหยียนสะดุ้ง
“ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่ารูปนั้นเกิดอะไรขึ้นแล้วสินะ?” เจิ้งเหยียนคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ้มทันที
ไม่ใช่ว่าจะถูกแฉคำโกหกอย่างน่าอายแล้วจะกลายเป็นความโกรธ เพียงนั่งอยู่บนเก้าอี้นิ่งๆพลางมองเลขาเข้ามาเสิร์ฟน้ำชา เธอยื่นมือมารับน้ำชา ไม่ได้ให้ตัวเองดื่มแต่กลับวางไว้ตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่
“เธอชอบดื่มผูเอ่อร์?”
จู่ๆ เธอก็เข้ามาประชิด ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ตกใจ
กลิ่นชาหอมติดอยู่ที่ปลายจมูก ก่อนจะกลับมาได้สติ เจิ้งเหยียนก็ใช้นิ้วจิ้มมาที่หน้าเธอ “ผิวดีจริงๆอย่างกับไข่ต้มปอกเปลือก ทั้งเนียนทั้งลื่น ปกติเสียเวลาบำรุงหน้าไปมากล่ะสิ?”
“……”
“อันที่จริงเธอรู้แล้วก็ดี ใช่แล้ว รูปนั้นฉันเป็นคนแอบถ่ายเอง ฉันไม่ได้มีอะไรกับคุณชายหาน ก่อนหน้านี้ที่ตั้งใจมาหาเธอก็แค่อยากจะลองทดสอบเธอ ไม่คิดเลยว่า…เธอจะพิเศษกว่าคนอื่นจริงๆ ไม่เหมือนกับที่ฉันคิดเอาไว้ เพราะฉะนั้นเธอก็ถือว่าฉันหยอกเล่นแล้วกัน เรามาคืนดีกันเถอะ เป็นไง?”
ขณะที่พูด เจิ้งเหยียนก็ยื่นมือมาที่เหนียนเสี่ยวมู่
มองเธอด้วยหน้าตาคาดหวัง
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เมื่อกี้เธอเพิ่งแตะหน้าเธอ ยังชมว่าผิวเธอดี ชมว่าเธอพิเศษ
ตอนนี้ยังอยากคืนดีกับเธอ…
เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกสับสน
เหมือนมีความยุ่งเหยิงอยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อน จะจัดการยังไงก็ไม่ราบรื่น!
รู้สึกอยู่เสมอว่าถ้าเธอยอมคืนดีกับเจิ้งเหยียน เจิ้งเหยียนอาจจะสารภาพรักกับเธอในประโยคถัดไป
ความประหม่าและความคาดหวังเล็กๆ น้อยๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ทั้งชีวิตมีผู้ชายมาสารภาพรักอยู่ตั้งหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้ยินคำสารภาพรักจากผู้หญิงมาก่อน...
พอตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไร เหนียนเสี่ยวมู่จึงยกมือขึ้นและตบหน้าผากตัวเองแรงๆ
ต้องโทษอวี๋เยว่หาน ประโยคที่บอกว่าเจิ้งเหยียนชอบผู้หญิงทำเธอเพี้ยนไปแล้ว
ตอนนี้จะมองหน้าเจิ้งเหยียนยังไงก็รู้สึกว่าเจิ้งเหยียนคิดไม่ซื่อกับเธอ