ตอนที่ 843 โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม โหดร้ายจนไม่คิดว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้!
หากเปลี่ยนเป็นเวลาปกติ เหนียนเสี่ยวมู่คงทนไม่ไหวที่จะเข้าไปรวบหัวรวบหางเมื่อเห็นภาพยั่วยวนใจแบบนี้
แต่ตอนนี้พอคิดได้ว่ายังไม่รู้ที่อยู่แน่ชัดของถานเปิงเปิงและนึกถึงเรื่องที่เดี๋ยวจะต้องพูดกับเขา เหนียนเสี่ยวมู่ก็ได้แต่กลัดกลุ้มใจ เม้มริมฝีปากและเดินเข้าไป
ทันทีที่เธอออกจากลิฟต์ อวี๋เยว่หานก็ราวกับรับรู้ได้พลางมองมาทางเธอ
จับเงาร่างที่คุ้นเคย การแสดงออกทางสีหน้าดูสงบเสงี่ยม มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
รอจนเธอเดินมาข้างๆ เขา เขาก็ยื่นมือเปิดประตูรถให้เธอ
ทั้งสองไม่คุยกันสักประโยค
นั่งรถด้วยกันเหมือนกลับบ้านพร้อมกันตามปกติ
ระหว่างทาง เหนียนเสี่ยวมู่คิดว่าอวี๋เยว่หานจะถามเธอว่าทำไมจู่ๆก็ชวนเขาทานข้าว แต่ผลคือเขาไม่ถามอะไรเลย ระหว่างที่อยู่บนรถ เมื่อเขาเห็นเธอไม่พูดไม่จา เขาจึงพิงเบาะรถและหลับพักสายตา
จนกระทั่งคนขับรถบอกว่าถึงร้านอาหารแล้ว เขาถึงจะลืมตา
เหนียนเสี่ยวมู่ผลักประตูรถก่อนแล้วเดินเข้าไปในร้านอาหาร
“ทั้งสองท่านได้จองที่ไว้ไหมครับ?” พนักงานต้อนรับสอบถามด้วยความสุภาพ
เหนียนเสี่ยวมู่ “ค่ะ ฉันแซ่เหนียน เพิ่งโทรมาจองเมื่อกี้นี้”
เหนียนเสี่ยวมู่แจ้งเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง หลังจากรอให้พนักงานตรวจสอบเสร็จก็พาพวกเขาเข้าไปข้างใน
สุดท้ายก็ได้ที่นั่งริมหน้าต่าง
ที่นั่งส่วนตัวในร้านอาหารหรูจะมีฉากกั้นระหว่างโต๊ะอาหารเพื่อเป็นการรับรองว่าลูกค้าจะไม่โดนรบกวนระหว่างทานอาหาร
“ทำไมถึงนึกชวนผมทานข้าวล่ะ?” อวี๋เยว่หานนั่งบนเก้าอี้ที่พนักงานลากให้ ท้ายที่สุดก็พูดประโยคแรกกับเธอ
เป็นคำถามเดียวกับที่เหนียนเสี่ยวมู่เดาเอาไว้
เธอเปิดปากด้วยความประหม่า ลังเลว่าถ้าพูดความจริงว่านี่คืออาหารส่งท้าย โอกาสที่เธอจะรอดทานอาหารมื้อนี้จนเสร็จนั้นเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
หลังจากไตร่ตรองแล้วเธอก็พูดนิ่งๆ
“เปล่า จู่ๆ ก็อยากทานข้าวกับคุณ หิวจัง เราสั่งอาหารกันก่อนดีกว่า!” เหนียนเสี่ยวรีบคว้าเมนูและวางไว้ตรงหน้าเขา
แววตาดำขลับเหลือบมองเธอ
จับความกระวนกระวายที่ซ่อนนัยน์ตาเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เปิดเมนูและเริ่มสั่งอาหาร
ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจสั่งอาหารที่เธอชอบหรือเปล่า
ของที่เขาชอบกลับไม่มีแม้แต่อย่างเดียว
เหนียนเสี่ยวมู่จับมือเขาไว้ “พอแล้วๆ สั่งเยอะทานกันสองคนไม่หมดหรอก”
เหนียนเสี่ยวมู่หยิบเมนูออกมาจากมือของเขา ตอนที่เก็บมาก็หันไปสั่งพนักงานเปลี่ยนเป็นอาหารสองอย่าง
โดยเปลี่ยนจากอาหารสองอย่างที่เธอชอบเป็นอาหารที่เขาชอบ
หลังจากที่พอใจแล้วก็ส่งเมนูให้พนักงาน
“เพิ่มซุปซี่โครงซานเย่าอีกหนึ่งที่ รีบทำให้เร็วที่สุด” อวี๋เยว่หานพูดขึ้นมา
เมื่อสบตากับเธอก็พูดเบาๆ
“กระเพาะคุณไม่ค่อยดี ดื่มซุปซี่โครงซานเย่าจะช่วยบำรุงกระเพาะได้”
เป็นเพียงประโยคไม่ใส่ใจ แต่กลับทำให้เธออบอุ่นหัวใจ
ใจเหนียนเสี่ยวมู่นึกอยากจะร้อง
ทำยังไงดี แฟนหล่อขนาดนี้แล้วยังดูแลเอาใจใส่อีก ชาติที่แล้วแล้วมาเธอคงไปช่วยกู้ชาติมาสินะถึงได้มาพบเขา ไม่ประคองคนรักไว้ในฝ่ามือเป็นอย่างดี นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้ยังต้องทำอะไรที่เกินคาด
โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม โหดร้ายจนไม่คิดว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้ !
เหนียนเสี่ยวมู่นั่งบนเก้าอี้ด้วยขอบตาแดงก่ำ เมื่อพนักงานเอาซุปมาเสิร์ฟ สองมือก็ประคองซุปซานเย่าที่เขาสั่งให้เธอ จิบคำเล็กๆ
ไอที่ปกคลุมเป็นเหมือนหน้าต่างที่สามารถปิดกั้นหัวใจ
ในขณะนี้จู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “อวี๋เยว่หาน เราเลิกกันเถอะ”
ทันทีที่พูดประโยคนี้ก็ทำให้คนที่นั่งตรงข้ามอึ้งเล็กน้อย
ตอนที่ 844 ใครชอบใครก่อน
“คุณว่าอะไรนะ?” อวี๋เยว่หานขมวดคิ้ว ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้น
เหนียนเสี่ยวมู่แทบจะมองเห็นความอบอุ่นที่หายไปจากดวงตาของเขา
ก็ใช่ การที่คนสองคนแยกกันอยู่แล้วจู่ๆมาทานข้าวด้วยกัน ใครๆต่างก็ต้องคิดว่าพวกเขาคืนดีกันแล้ว
เธอกำลังขอให้เขายกโทษให้
แต่ผลลัพธ์กลับคาดไม่ถึงว่าเธอจะขอเลิก
ถ้าเป็นคนอื่นก็คงช็อกกันทั้งนั้น
แต่ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือก…
เหนียนเสี่ยวมู่กัดริมฝีปาก “ฉันบอกว่าฉันต้องการเลิกกับคุณ ถึงคุณจะเย็นชาและไม่โรแมนติก แต่สายตาก็นับว่าไม่เลวที่มองฉัน เพราะฉะนั้นสบายใจได้แลย ต่อจากนี้ไปคุณจะต้องเจอคนที่ไม่ต่างจากฉัน แต่คงไม่มีทางดีไปกว่าฉัน เพราะถึงยังไงฉันก็ดีเลิศซะขนาดนี้…”
“เดี๋ยวนะ อะไรที่เรียกว่าผมมองคุณนับว่าสายตาไม่เลว?”
อวี๋เยว่หานพูดตัดบท จากนั้นวางแก้วลงพลางจ้องเธอและถามกลับทีละคำ
“ทีแรกคนที่มองผมคือคุณไม่ใช่เหรอ? วันวันเอาแต่คิดหาวิธีแอบมองผมอยู่ในห้องทำงาน ส่งตาหวานให้ผม”
“……”
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ถูกถามกลับก็ถึงกับผงะ ขุ่นเคืองในใจ
จะเลิกกันแล้วเขายังคิดเล็กคิดน้อยกับคำถามประเภทที่ว่าใครชอบใครก่อนกับเธอ
ทำแก้มป่อง
“ใครแอบมองคุณ? คุณอย่าพูดซี้ซั้วนะ เห็นๆกันอยู่ว่าตอนที่คุณเห็นฟ่านอวี่คุยกับฉันในงานเลี้ยง จู่ๆคุณก็ลากฉันไปกดกับผนังสารภาพรักกับฉัน บอกว่าคุณชอบฉัน! คุณยังวางโคมไฟกุหลาบไว้ในสนามแล้วสารภาพรักกับฉันเป็นจริงเป็นจังให้ฉันเป็นแฟนคุณอีกด้วย!”
อวี๋เยว่หานหัวเราะเยาะพลางพูดด้วยความเย็นชา “หืม งั้นคนที่อาศัยเหล้ากระโจนเข้าหาผม รวบหัวรวบหางผมไม่ใช่คุณหรือไง?”
เหนียนเสี่ยวมู่หัวเราะเสียงดังยิ่งกว่าและพูดอย่างไม่ยอม “งั้นใครซื้อบ้านบนภูเขาทั้งหลังขอฉันแต่งงานล่ะ ให้ฉันแต่งเป็นเมียคุณให้ได้และยังให้ฉันคลอดเด็กอ้วนจ้ำม่ำอีกตั้งโขยง?”
อวี๋เยว่หาน “นั่นเป็นเพราะวันวันผมเห็นสายตาที่คุณมองผมมันน่าสงสารเหมือนลูกหมา เอาแต่รอคอยให้ผมทำเซอร์ไพรส์ ผมก็เลยได้แต่ฝืนใจทำมันซะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ยกมือขึ้นและกางออกทันที เธอชี้ไปที่แหวนราชินีที่สวมบนนิ้ว “แหวนนี่ก็เป็นเพราะคุณเห็นฉันน่าสงสารก็เลยจ่ายเงินร้อยล้านซื้อให้ฉันสินะ?”
อวี๋เยว่หาน “…ใช่ ก็ผมรวยและยังเป็นคนเห็นอกเห็นใจ พอเห็นว่าคุณรักผมจนถอนตัวไม่ขึ้น ผมถึงได้ฝืนใจยอมรับ”
“เหลวไหล!” เหนียนเสี่ยวมู่โมโหพองลมจนแทบจะกลายเป็นปลาปักเป้า
“ก็เห็นๆอยู่ว่าคุณชอบฉันก่อน ฉันถึงได้ตกลงใช้ชีวิตอยู่กับคุณ คุณเป็นคนตามจีบฉัน!”
อวี๋เยว่หาน “คุณเป็นคนนอนกับผมก่อน!”
เหนียนเสี่ยวมู่ “แต่คุณให้ฉันเป็นคนรับผิดชอบ!”
อวี๋เยว่หาน “…”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ทั้งสองคนต่างตกอยู่ในสถานการณ์เธอมองฉัน ฉันมองเธอ เห็นความตกตะลึงในดวงตาของกันและกัน
เงียบเหมือนคนโง่
เหนียนเสี่ยวมู่ดึงแหวนออกจากนิ้ววางไว้ตรงหน้าเขา “ฮึ เอาคืนไป ที่คุณซื้อให้ฉันเพราะคุณเห็นใจฉัน ตอนนี้เลิกกันแล้วคงดีใจมากใช่ไหมล่ะ?”
“……”
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะ ถึงเราจะเลิกกันแต่ฉันก็ไม่ลาออกหรอก ยังมีโครงการอีกมากมายที่ยังต้องจัดการ อีกอย่างเสี่ยวลิ่วลิ่วก็ยังเด็ก ฉันไปเยี่ยมเธอที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋บ่อยๆได้ไหม?”
“……”
“ถ้าคุณไม่อยากเจอฉัน ฉันค่อยไปตอนที่คุณไม่อยู่บ้านก็ได้ ฉันไม่อยากพูดเรื่องไม่ดีของคุณให้เสี่ยวลิ่วลิ่วฟัง และไม่อยากแย่งสิทธิ์เลี้ยงดูกับคุณด้วย รอถึงตอนที่เธออายุสิบแปดค่อยให้เธอเลือกเองว่าจะใช้ชีวิตอยู่พ่อหรือกับแม่ แต่ว่าถ้าคุณแต่งงานใหม่แล้วมีลูกใหม่ คุณมอบเสี่ยวลิ่วลิ่วให้ฉันได้ไหม…”
นัยน์ตาอวี๋เยว่หานมีแสงมืดมน “เหนียนเสี่ยวมู่ คุณจะเลิกกับผมจริงๆใช่ไหม?”