ตอนที่ 243 นี่คือคุณชายตัวปลอม
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก้มลงต่ำเล็กน้อย ก่อนจะเข้ามาใกล้เธอ ล้มหายใจร้อนพุ่งใส่หน้าของเธอจางๆ
ริมฝีปากบางหยุดอยู่ตรงปลายจมูกของเธอ ดูเหมือนอยากจะจูบเธอ
เหนียนเสี่ยวมู่ตัวแข็งทื่อไปในทันใด
เธอเบิกตาโพลง ไม่สนใจเฉินจื่อซินแล้ว เพราะเอาแต่จ้องมองอวี๋เยว่หาน ที่ไม่รู้ว่าคิดจะทำอะไร
“คุณชาย คุณออกห่างฉันหน่อย ทำแบบนี้ฉันหายใจไม่ออก…” เหนียนเสี่ยวมู่อยากจะถอยหลังตามสัญชาตญาณ แต่เสี่ยวลิ่วลิ่วยืนอยู่ข้างหลังเธอ ถ้าเธอถอยหลังไป ก็ต้องชนเสี่ยวลิ่วลิ่วแน่
“หายใจไม่ออก? ไหนผมดูหน่อย” อวี๋เยว่หานยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินมาข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว
ทั้งสองคนแทบจะแนบชิดอยู่ด้วยกัน แรงกดขี่จากตัวเขาถาโถมเข้ามา พร้อมกับความรู้สึกที่คาดเดาไม่ได้
เหนียนเสี่ยวมู่รีบยื่นมือไปดันหน้าอกของเขาเอาไว้ ก่อนจะตะโกนอย่างร้อนใจ “คุณอย่าเข้ามาอีกเลย ฉันจะเหยียบเสี่ยวลิ่วลิ่วเอานะ!”
“…”
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานไม่ได้ก้าวมาอีก แต่ก็ไม่ได้ถอยหลังกลับไป เขายืนอยู่ที่เดิม อยู่ตรงที่ที่ทั้งสองคนแทบจะแนบสนิทอยู่ด้วยกัน
เสียงน่าดึงดูดของเขาแหบพร่าเล็กน้อย “ยังหายใจไม่ออกอีกไหม ต้องการให้ช่วยหรือเปล่า”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าคำพูดนี้มีความหมายอื่นแอบแฝง
ถ้าเธอบอกว่าหายใจไม่ออก เขาจะมาช่วยเธอผายปอดเหรอ
หลังจากคิดถึงตรงนี้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็กลืนน้ำลายในทันใด ไม่กล้ามองไปที่ริมฝีปากบางของเขาตรงๆ…
เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกแกล้ง จะหนีไปอย่างไรดี
หรือว่าควรแกล้งกลับ?
“อันธพาล!” เขาพูดอะไรน่าอายต่อหน้าเสี่ยวลิ่วลิ่วได้อย่างไร
อวี๋เยว่หานถูกว่า แต่ก็ไม่ได้โกรธ เขาชำเลืองมองเธอครั้งหนึ่ง และเห็นสายโทรศัพท์ในมือของเธอวางไปแล้ว ดวงตาพลันปรากฏแววยิ้มแย้ม “ผมแค่อยากช่วยคุณเรียกหมอ คุณคิดไปถึงไหนเนี่ย”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
“เหนียนเสี่ยวมู่ คิดให้ดีสิ อย่าคิดลามก”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เสียงริงโทนดังขึ้นอีกครั้ง ทำลายบทสนทนาของคนทั้งคู่
หญิงสาวก้มหน้ามอง พบว่าเป็นสายของเฉินจื่อซินอีกแล้ว จึงรีบรับสาย
“รองประธานเฉิน ฉันถึงบ้านแล้วค่ะ…” เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งเอ่ยปาก สีหน้าของอวี๋เยว่หานที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอก็ดำคล้ำลงแล้ว
บรรยากาศอบอุ่นเปลี่ยนกลับมาถึงจุดเยือกแข็งในพริบตา
เต็มไปด้วยความรู้สึกน่าอึดอัด
ดวงตาสีดำเฉยชาจ้องเขม็งไปที่เหนียนเสี่ยวมู่ ผู้กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“ใช่ค่ะ ไม่เป็นไรแล้ว…” เหนียนเสี่ยวมู่พูดโทรศัพท์ไปพลาง เดินไปข้างๆ ไปพลาง
ขณะกำลังจะขอโทษเฉินจื่อซินอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเขาถามอีกครั้ง ว่าไปกินข้าวด้วยกันได้ไหม
“ไปตอนนี้เหรอคะ แต่ตอนนี้เริ่มดึกแล้วนะคะ แถมฉัน…” เหนียนเสี่ยวมู่ยังพูดไม่จบ ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากข้างหลัง
เธอหันกลับไปมอง เห็นเสี่ยวลิ่วลิ่วเหมือนจะตกลงจากโซฟา ทั้งๆ ที่เพิ่งจะปีนขึ้นไป ทำเอาเธอกำโทรศัพท์มือถือแน่น
จากนั้นเธอก็เอ่ยปากโดยไม่คิดอะไรอีก “ขอโทษค่ะ วันนี้คงไม่ได้แล้ว ฉันมีธุระจริงๆ ค่ะ”
สุดท้ายแล้วก็วางสายไป ก่อนจะวิ่งไปตรงหน้าโซฟาอย่างรวดเร็ว เธอยื่นมือไปอุ้มร่างกายนุ่มนิ่มของเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้นมา “ตกลงมาหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม”
“…”
เสี่ยวลิ่วลิ่วเงยหน้าน่ารักขึ้นมา พร้อมกับสีหน้างงงัน
บนใบหน้าเหมือนกับเขียนเอาไว้ว่า “หนูเป็นใคร หนูอยู่ที่ไหน เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น”
พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นอวี๋เยว่หานอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วทำเป็นตกจากโซฟากับตาตัวเอง
เขาทำได้แค่หันหลังให้เงียบๆ แสร้งทำเป็นว่าตนเองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น…
นี่ต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่
นี่คือคุณชายตัวปลอม
เขาตาบอดไปแล้ว เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น เขามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น!
ตอนที่ 244 นี่นับเป็นการเดทหรือเปล่า
“เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูอย่าทำให้พี่ตกใจสิ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เหนียนเสี่ยวมู่กอดเด็กหญิงเอาไว้ในอก ก่อนจะตรวจสอบตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อพบว่าเจ้าตัวเล็กไม่ได้มีอะไรผิดปกติ เธอถึงจะถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
ขณะที่กำลังอยากถามอวี๋เยว่หานว่าต้องส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลสักหน่อยไหม เธอก็เห็นเขาเดินมาข้างหลัง แล้วพูดเสียงเรียบเฉิย
“เสี่ยวลิ่วลิ่วได้ยินว่าคุณจะออกไปข้างนอก ถึงได้ตกลงมา”
“…” เป็นความรับผิดชอบของเธออย่างนั้นเหรอ
เหนียนเสี่ยวมู่หลุบตาลงมองเสี่ยวลิ่วลิ่วที่อยู่ในอก พลางใช้สายตาสอบถามอีกฝ่าย
ดวงตากลมโตสีดำขลับของเด็กน้อยกะพริบปริบๆ แล้วทำปากจู๋มองอวี๋เยว่หานด้วยความน้อยใจ ทันใดนั้นก็โผเข้าไปในอกของเหนียนเสี่ยวมู่ โอบคอพี่สาวคนสวยไว้ไม่ยอมปล่อย
ดูท่าทางเหมือนจะไม่อยากให้เธอไปจริงๆ…
เหนียนเสี่ยวมู่ใจอ่อนในทันที
เธอกอดเด็กหญิงเอาไว้ พลางลูบหลังปลอบใจ “เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ไปหรอก คืนนี้พี่จะอยู่เป็นเพื่อนหนูตลอดเลย ไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ”
เมื่อได้ยินดังนั้นในดวงตาสีดำของอวี๋เยว่หานก็ฉายแววเจ้าเล่ห์
ริมฝีปากยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ
ก่อนจะหันหน้าไปสั่งให้พ่อบ้านยกอาหารมา
เหนียนเสี่ยวมู่อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเดินตามเขาเข้าไปในห้องอาหาร พร้อมกับเห็นดอกกุหลาบสีแดงวางอยู่บนโต๊ะ จึงอึ้งไปเล็กน้อย
ในหัวมีคำพูดของเสี่ยวลิ่วลิ่วแวบเข้ามา
เขาตัดดอกกุหลาบในสวนไป เพื่อใช้ตกแต่งห้องอาหารอย่างนั้นเหรอ
ไม่ใช่ๆ เธอเคยเห็นสวนดอกกุหลาบในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ สวนใหญ่ขนาดนั้น อย่าว่าแต่ตกแต่งห้องอาหารเลย ตกแต่งทั้งห้องโถงได้เหลือเฟือเลยต่างหาก
แล้วจะตัดทั้งหมดภายในครั้งเดียวเพื่อตกแต่งห้องอาหารได้อย่างไร
อย่างนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เป็นอะไรไป” อวี๋เยว่หานเห็นเธอตะลึงไม่ยอมเดิน จึงใช้ดวงตาสีดำชำเลืองมองเธออย่างเย็นชา เขาพบว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองดอกกุหลาบบนโต๊ะอาหาร แววตาของเขาวูบไหวเล็กน้อย “ไม่ชอบดอกกุหลาบเหรอ”
ตอนที่เฉินจื่อซินหอบดอกกุหลาบมาหา เธอไม่ได้ยิ้มดีใจเหรอ
“เปล่า แต่เสี่ยวลิ่วลิ่วบอกว่า คุณตัดดอกกุหลาบในสวนไปหมดแล้ว” เหนียนเสี่ยวมู่สบตาเขา ก่อนจะพูดออกมา
หลังจากพูดจบ ถึงจะรู้ตัวว่าตนเองปากพล่อยไปแล้ว
เธอรีบอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วไปหน้าโต๊ะอาหาร จากนั้นก็วางเจ้าตัวเล็กลงบนเก้าอี้เด็ก เตรียมจะเปลี่ยนเรื่องพูด
แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก อวี๋เยว่หานก็เดินมาข้างๆ เธอแล้ว
เงาร่างสูงโปร่งกอดอก เขายืนย้อนแสง จึงมองไม่เห็นสีหน้าของเขา ได้ยินเพียงเขาเอ่ยปากอย่างเฉยชา “ดอกกุหลาบมีหนาม จะทิ่มเสี่ยวลิ่วลิ่วเอา ก็เลยตัดทิ้ง”
เขาพูดพลางมองไปที่พ่อบ้าน
ทันใดนั้นพ่อบ้านก็หอบดอกกุหลาบช่อใหญ่เดินมาข้างๆ เขา แล้วส่งให้เขา
ดอกกุหลาบที่เพิ่งตัดยังสดมาก สวยมากด้วย เหล่าดอกไม้เบ่งบานเป็นสีแดงเต็มที่ ราวกับสีของความรักอันร้อนแรง
หยดน้ำบนกลีบดอกไม้ส่องประกายเหมือนคริสตัลภายใต้แสงไฟ
อวี๋เยว่หานรับช่อดอกไม้มาจากมือของพ่อบ้าน แล้วยัดใส่มือของเหนียนเสี่ยวมู่
“ถ้าคุณชอบ งั้นก็ให้คุณ”
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่อุ้มดอกกุหลาบช่อใหญ่พร้อมความความงุนงง ลืมไปว่าตัวเองควรจะมีปฏิกิริยาอะไร
ตอนเฉินจื่อซินหอบดอกกุหลายมาขอนัดเธอไปกินข้าว เธอไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด
ขนาดได้ยินเสียงพูดคุยของเหล่าเพื่อนร่วมงาน เธอก็เห็นว่าทุกคนกำลังล้อเล่นมากกว่า
แต่ทำไม ภาพที่อวี๋เยว่หานยกดอกกุหลาบขึ้นมาเมื่อครู่ ถึงทำให้เธอตื่นเต้นได้ขนาดนี้ล่ะ
หัวใจเต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว ราวกับจะหลุดออกมาอย่างไรอย่างนั้น…
โดยเฉพาะตอนที่เห็นสาวใช้ยกเนื้อสันออกมาจากในครัว เธอก็เกร็งตัวขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ
ดอกกุหลาบ เนื้อสัน ไวน์แดง…
ถ้าเพิ่มเทียนอีกสักสองเล่ม นี่ก็เป็นการดินเนอร์ใต้แสงเทียนจริงๆ
สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอเกิดความรู้สึกอย่างหนึ่ง…
ที่ทั้งคู่กำลังทำอยู่ตอนนี้ เหมือนการเดทหรือเปล่า