ตอนที่ 267 ตบหัวแล้วลูบหลัง
“คุณชาย”
ผู้ช่วยเห็นเขายืนอยู่อย่างนั้น จึงเดินเข้ามาเตือนอย่างนอบน้อม
อวี๋เยว่หานได้สติกลับมา เขาหลุบตาลง ใบหน้ากลับมาสงบนิ่งดังเดิม ก่อนจะอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วเดินเข้าไปในบริษัท
แต่เพิ่งกลับมาถึงประตูห้องทำงานประธานบริษัท เขาก็เห็นเหวินหย่าไต้รออยู่ข้างนอก
เธอสวมชุดทำงานสีดำทั้งตัว ดูมีเสน่ห์สะอาดสะอ้านและมีความเป็นผู้ใหญ่
หญิงสาวรวบผมยาวเอาไว้ มีผมหลุดลุ่ยอยู่ข้างหูสองปอย ทำให้เธอดูอ่อนโยนทั้งๆ ที่มีความมืออาชพ
และทำให้รู้สึกสบายใจมาก
เมื่อเห็นอวี๋เยว่หาน เธอพลันยิ้มกว้าง แม้แต่สายตาก็มีแต่ความชื่นชม
เธอกอดเอกสารเดินมาข้างหน้า “คุณชายหาน เจรจางานของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเรียบร้อยแล้วค่ะ เซ็นสัญญากันอย่างราบรื่น พวกเราเพิ่งส่งมิสเตอร์ลอมบาร์ดีไปเมื่อครู่เอง”
“อืม” อวี๋เยว่หานตอบรับอย่างเย็นชา
“มิสเตอร์ลอมบาร์ดีบอกกับฉันตลอดเลย ว่าชื่นชมความรู้เกี่ยวกับอิตาลีของฉันมาก แถมยังมีฝีมือในการทำงาน ความจริงแล้วถ้ามีโอกาส เขาอยากพบคุณชายหานด้วยนะคะ แต่ฉันเห็นว่าคงจะไม่ได้”
เหวินหย่าไต้นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ นัยน์ตาอ่อนโยนจนเกือบจะมีน้ำตาไหลออกมา
“ฉันเรียนภาษาอิตาลีในตอนนั้น ก็เพราะคุณชายหานพูดภาษาอิตาลีได้มาก เพราะคุณ…”
“เรื่องเซ็นสัญญาสำเร็จน่ะ ผมรู้แล้ว ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม” อวี๋เยว่หานขยับริมฝีปากบาง ขัดจังหวะคำพูดของเธอ
เมื่อเข้าไปในห้องทำงาน เขาก็ปล่อยให้เสี่ยวลิ่วลิ่วไปเล่นสนุก
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปนั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงานของตนเอง
เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย เหลือบมองเธอ
เหวินหย่าไต้เห็นสายตาแหลมคมของเขาแล้วก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาบ้าง เธอลังเลอยู่หลายวินาที ถึงจะเอ่ยปาก
“ฉันมีหาคุณโดยเฉพาะ ความจริงแล้วไม่ใช่เพื่อขอความดีความชอบ แต่เพื่อยอมรับผิดค่ะ”
อวี๋เยว่หานขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินดังนั้น ก่อนจะหันไปมองผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ
ผู้ช่วยเห็นดังนั้นก็เดินไปข้างๆ เขาทันที และกระซิบอธิบายข่าวที่ได้ยินมาจากแผนกประชาสัมพันธ์ให้เขาฟัง
“คุณชายหาน ปกติล่ามหวางไม่ใช่คนแบบนั้น เธอทุ่มเทกับการทำงานมาก และไม่เคยทำให้เกิดความผิดพลาดมาก่อน ฉันรู้สึกว่าเธอมีความสามารถโดดเด่น ก็เลยส่งให้เธอไปทำงานกับซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน แต่คิดไม่ถึงว่า…”
เหวินหย่าไต้เม้มปาก ก่อนจะพูดต่อ
“พูดตามตรงแล้ว เป็นเพราะฉันเองที่จัดการได้ไม่รัดกุม ถึงได้ทำให้พวกเธอพูดจามั่วซั่ว จนเกือบจะส่งผลกระทบถึงการร่วมมือในครั้งนี้”
“คุณชายหาน เรื่องสร้างความเข้าใจผิดนั้น หวางเมี่ยวเมี่ยวขอลาออกแล้วครับ” ผู้ช่วยเตือนอยู่ข้างๆ
คนที่สร้างความเข้าใจผิด ก็คือหวางเมี่ยวเมี่ยว
ที่จริงพูดขึ้นมาแล้วก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเหวินหย่าไต้
ถ้าดึงผู้จัดการคนหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะเหตุนี้ ก็เป็นการทำเกินกว่าเหตุอย่างเห็นได้ชัด
“ก๊อกๆ!” ประตูห้องทำงานประธานบริษัทส่งเสียงดังขึ้นมา
เลขาเปิดประตูเข้ามา เหนียนเสี่ยวมู่ตามอยู่ข้างหลัง
“คุณชายหาน ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนมาค่ะ”
ทั้งสองคนที่เพิ่งแยกจากกัน ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง
แววตาของอวี๋เยว่หานสั่นเครือเล็กน้อย พลางมองเธอด้วยความสงสัย และใช้สายตาสอบถามว่าเธอมาทำอะไร
เหนียนเสี่ยวมู่มีสีหน้างุนงง เธอเดินเข้ามาในห้องทำงาน ก่อนจะหยุดลงข้างๆ เหวินหย่าไต้ “ผู้จัดการเหวิน คุณให้ฉันมา มีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“อื้ม ฉันให้ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนขึ้นมา” เหวินหย่าไต้รีบจับมือของเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยความกระตือรือร้นหลังจากได้ยินอีกฝ่ายพูด และดึงเธอมาข้างหน้าตนเอง
ผู้จัดการสาวเงยหน้ามองอวี๋เยว่หาน
“คุณชายหาน งานร่วมมือในครั้งนี้ โชคดีที่มีซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนค่ะ”
“…”
“ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในแผนกประชาสัมพันธ์ของพวกเรา เธอก็มีความสามารถโดดเด่นมากมาโดยตลอด ฉันหวังว่าบริษัทจะตบรางวัลให้เธออย่างงามสักครั้งหนึ่งค่ะ!”
ตอนที่ 268 เป็นเด็กดีรอผมกลับมา
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งเข้าไปในแผนกประชาสัมพันธ์ ก็ต้องเจรจางานใหญ่อีกสองงานทันที
เธอทำงานได้ดีมาก
คำชมของเหวินหย่าไต้ ไม่ได้ชมเกินไปเลย
กลับเป็นการให้รางวัลและลงโทษอย่างชัดเจน
“พูดขึ้นมาแล้ว ตอนที่ซูเปอร์ไวเซอร์ลงมาทำงานที่แผนกของพวกเรา ฉันก็สงสัยอยู่บ้าง แต่คิดไม่ถึงว่าเธอไม่เพียงเชี่ยวชาญทักษะด้านการประชาสัมพันธ์ ยังมีพรสวรรค์ทางด้านภาษาดีขนาดนี้ด้วย พูดภาษาอิตาลีคล่องปรื๋อ แทบจะไม่ด้อยไปกว่าคุณชายหานเลย…”
“แค่กๆ!” อวี๋เยว่หานกระแอมเสียงเบาสองเสียงทันใด
นัยน์ตาสีดำหรี่ลง ใบหน้าปรากฏความเขินอายเล็กน้อย
“คุณชายหาน ไม่สบายหรือเปล่าคะ” เมื่อได้ยินอวี๋เยว่หานไอ เหวินหย่าไต้ก็ถามด้วยความเป็นห่วงทันที
“ผมไม่เป็นไร ผมรับทราบข้อเสนอที่คุณพูดมาแล้ว” อวี๋เยว่หานยกแก้วน้ำขึ้นดื่มคำหนึ่ง จากนั้นถึงจะมองไปยังเหนียนเสี่ยวมู่ที่ตะลึงลานอยู่ข้างๆ เหวินหย่าได้
เธอได้ยินว่ารางวัล ก็ไม่ได้ยินอย่างอื่นแล้ว
เมื่อดึงสติกลับมาได้ ดวงตากลมโตใสแจ๋วก็ชุ่มไปด้วยน้ำ แทบจะเปล่งประกาย
ขาดก็แค่ไม่มีหางส่ายไปมาเดินไปหาเขา
บนใบหน้ามีคำพูดเขียนไว้ว่า ‘คุณชาย ฉันอยากได้เงิน! โบนัส!’
อวี๋เยว่หานเห็นท่าทางของเธอแล้ว ก็รู้ว่าเธอแทบจะไม่ได้ยินเรื่องภาษาอิตาลีที่เหวินหย่าไต้พูดถึงเมื่อครู่ จึงวางแก้วน้ำลงพร้อมใบหน้าเรียบเฉย แล้วขยับริมฝีปากบางเล็กน้อย
“หลังจากงานนี้เสร็จสิ้น จะมีโบนัสสามเดือนเป็นรางวัล”
“…”
“ส่วนเรื่องของหวางเมี่ยวเมี่ยว…” อวี๋เยว่หานมีน้ำเสียงเคร่งขรึมขึ้นเมื่อเปลี่ยนเรื่อง
ครั้นได้ยินเขาพูดถึงหวางเมี่ยวเมี่ยว เหวินหย่าไต้ก็กำมือแน่น
ร่างกายแข็งทื่อไปในพริบตา
เธอมารายงานเรื่องนี้เอง เพราะไม่ต้องการให้อวี๋เยว่หานหลงเลือภาพลักษณ์ที่ไม่ดีไว้ในใจเลยสักนิด
เธอทิ้งแม้กระทั่งความตั้งใจของตนเอง และขอรางวัลให้กับเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยตนเอง
ให้เขารู้สึกว่าตนเองแบ่งการให้รางวัลและลงโทษอย่างชัดเจน
เท่านั้นยังไม่พอใช่ไหม
ในใจของเหวินหย่าไต้กระวนกระวายไปหมด เธอแอบกำหมัดแน่น แต่บนใบหน้ายังคงอ่อนน้อมถ่อมตนดังเดิม
ราวกับไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร เธอก็จะไม่คัดค้าน
“เรื่องเซี่ยจิงจิงผมเห็นเป็นอุบัติเหตุ แต่วันนี้เกิดเรื่องหวางเมี่ยวเมี่ยวอีก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ลูกน้องของคุณก่อปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณเป็นผู้จัดการ ก็มีต้องมีส่วนรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“…” ผู้จัดการสาวหน้าซีดขาว กัดฟันกรอด
“เรื่องในครั้งนี้ ผมจะให้คนตรวจสอบให้ชัดเจน ตอนนี้จะไม่ลงโทษคุณ แต่ถ้ามีครั้งต่อไป” อวี๋เยว่หานยังพูดไม่จบ แต่ท้ายประโยคเป็นคำเตือนที่ร้ายแรงที่สุด
เหวินหย่าไต้มีความสามารถโดดเด่นมาโดยตลอด ตั้งแต่เข้ามาในบริษัทตระกูลอวี๋
เธอทำงานเก่ง แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้อย่างชัดเจน
ทุกครั้งที่เข้ามาในห้องทำงานประธานบริษัท เธอจะได้คำชมทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้เธอถูกอวี๋เยว่หานตำหนิ ต่อหน้าเหนียนเสี่ยวมู่…
เธอก้มหน้าลง สายตาพลันมืดมนลง
พร้อมทั้งกัดฟันกรอด!
“ฉันจะจำคำพูดของคุณชายหานเอาไว้ค่ะ ต่อไปจะระวังให้มากขึ้น จะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกค่ะ!”
หลังจากเห็นว่าอวี๋เยว่หานไม่มีคำสั่งใดอีก เธอก็กลับหลังหันออกจากห้องทำงานประธานบริษัททันทีที่พูดจบ
ตอนนี้ในห้องทำงานประธานบริษัทเงียบลงในทันที
กลิ่นอายน่าอึดอัดวนเวียนอยู่ในอากาศ
เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงอยู่ที่เดิม มองเหวินหย่าไต้ออกไป และดึงสติกลับมาได้หลังจากนั้นหลายวินาที “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันก็จะกลับไปทำงาน…”
“มีสิ”
อวี๋เยว่หานขยับริมฝีปากบาง นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังเจ้าก้อนข้าวเหนียนที่ฟุบอยู่บนโซฟา “ผมต้องประชุม คุณช่วยผมดูเธออยู่ที่นี่”
เขาพูดพลางลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทำงาน
จากนั้นก็ก้าวเท้ามาหยุดตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ มือใหญ่พลันวางลงบนหัวของเธอ “เป็นเด็กดีรอผมกลับมา”