ตอนที่ 315 คนที่เขาเป็นห่วงคือเธอ
เขารู้สึกว่าตนเองถูกแหย่ แต่ควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไรล่ะ
อวี๋เยว่หานเพิ่งยกมือขึ้น เตรียมจะกอดเธอ แต่อยู่ๆ เธอก็เงยหน้าจากในอ้อมอกของเขา
ทันใดนั้น เธอนึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง จึงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง และใช้มองมือคว้าแขนของเขาเอาไว้
“จริงสิ ฉันลืมว่าคุณฟังภาษาอิตาลีไม่รู้เรื่อง คุณรู้ไหม ว่าเมื่อกี้ฉันบอกกับมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ว่าคุณก็เป็นห่วงเขามาก”
“…”
“มิสเตอร์ลอมบาร์ดีให้ฉันขอบคุณคุณด้วย!” เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้น ราวกับเด็กที่กำลังรอรางวัล
อยู่ๆ ได้ยินเธอพูดถึงภาษาอิตาลี นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานพลันวูบไหว
ความไม่มั่นใจพาดผ่านดวงตาของเขาไปเล็กน้อย และตอบเสียงเบา “อืม”
สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่มือของเธอ ที่จับแขนเขาไว้จนแน่น ในสายตาเริ่มมีความสับสนปรากฏขึ้น
เธอพูดผิดแล้ว
คนที่เขาเป็นห่วงไม่ใช่มิสเตอร์ลอมบาร์ดี แต่เป็นเธอต่างหาก
“เหนียนเสี่ยวมู่…”
“จริงสิ ฉันต้องรีบบอกข่าวดีนี้กับทุกคน!” เหนียนเสี่ยวมู่ปล่อยมือ เธอเพิ่งจะกลับหลังหันไป แต่ก็หันกลับมามองเขา เพราะได้ยินเสียงของเขา
“คุณชาย เมื่อกี้คุณจะพูดอะไร”
อวี๋เยว่หาน “…”
เมื่อได้สบตาสดใสของเธอ เขาก็ลืมว่าตนเองจะพูดอะไรไปในทันที
ราวกับว่าเสียงของเธอเมื่อครู่นี้ เพียงแค่ต้องการยืนยันเท่านั้น ว่าคนที่ยืนอยู่หน้าเขาก็คือเธอ
ความรู้สึกแบบนี้แปลกมากทีเดียว
เมื่อรู้สึกว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาก็ขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่มีอะไร”
เหนียนเสี่ยวมู่ยังดีใจอยู่ จึงไม่ได้เก็บทีท่าของเขามาใส่ใจ หลังจากเห็นเขาไม่มีธุระอื่น จึงหันหน้าวิ่งออกไป
อวี๋เยว่หานมองเงาหลังของเธอ นิ้วเรียวยาวยกขึ้นลูบตรงที่เธอเพิ่งจับเมื่อครู่เล็กน้อย
บนนั้นเหมือนยังมีไออุ่นของเธอเหลือเอาไว้
เวลาอยู่ต่อหน้าเขา เธอหลบไปไกลอยู่ตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าใกล้เขาก่อน
ทว่าแหย่เสร็จแล้วก็หนีไป…
วันต่อมา
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่เข้าบริษัท เหวินหย่าไต้ก็เรียกเธอเข้าไปในห้องทำงาน
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน นั่งก่อนค่ะ” ในห้องทำงานของเหวินหย่าไต้มีเพียงเธอ เลขาไม่ได้เข้ามาด้วย
อีกฝ่ายยื่นกาแฟแก้วหนึ่งมาตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยตนเอง
สายตาของผู้จัดการสาวมีความชื่นชม ก่อนจะพูดพร้อมรอยยิ้ม
“ฉันได้ยินว่า เมื่อวานคุณติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีได้แล้ว นัดกับเขาเรียบร้อยหรือยังคะ วันนี้จะได้แผนงานใช่ไหม”
เหนียนเสี่ยวมู่รับกาแฟมา “ขอบคุณค่ะ ผู้จัดการเหวิน”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ” เหวินหย่าไต้เดินกลับมานั่งที่ของตนเอง สองมือวางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะยันคางเบาๆ และถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อีกฝ่ายฟังคร่าวๆ อย่างไม่ปิดบัง
เพียงแต่ข้ามส่วนที่อวี๋เยว่หานช่วยเธอไว้
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็ดีเลยค่ะ!” ปฏิกิริยาของเหวินหย่าไต้เหมือนกับทุกๆ คน ทุกคนล้วนดีใจ จากนั้นผู้จัดการสาวก็จับมือของเธอ “ครั้งนี้โชคดีจริงๆ ที่มีคุณ พวกเราถึงได้ติดต่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีได้ทันเวลา”
“…”
“จริงสิ ในเมื่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีบอกว่าจะส่งแผนงานให้คุณด้วยตัวเอง งั้นคุณก็ไม่ต้องมาหาฉันที่นี่แล้ว ส่งให้เพื่อนร่วมงานแผนกออกแบบได้เลยนะคะ ทำงานร่วมกับพวกเขา แล้วก็เตรียมงานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ให้เร็วที่สุดค่ะ”
เหวินหย่าไต้พูด พลางวางนามบัตรใบหนึ่งตรงหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่
“บนนี้มีอีเมลของผู้จัดการแผนกออกแบบ คุณติดต่อเขาได้โดยตรงเลย”
เวลากระชั้นชิดมากแล้ว
เดิมทีแผนกออกแบบวางแผนว่าจะประกาศงานแถลงข่าวเมื่อวานบ่าย เพื่อแสดงผลการออกแบบของทั้งสองฝ่าย
ขาดส่วนนี้ไป ก็พอจะได้เวลามาเล็กน้อย
การคิดคำนวณของเหวินหย่าไต้ ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
“ได้ค่ะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือไปรับนามบัตรตรงหน้า กวาดสายตามองครั้งหนึ่ง แล้วรีบกลับหลังหันออกไป
ตอนที่ 316 หนอนบ่อนไส้
ได้รับแผนจากมิสเตอร์ลอมบาร์ดีมาอย่างราบรื่น ปัญหาทุกอย่างก็คลี่คลายไปได้
เหนียนเสี่ยวมู่ได้รับอีเมล และส่งต่อให้ผู้จัดการแผนกออกแบบในทันที
ตอนนี้รอแค่งานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้แล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่ปิดคอมพิวเตอร์ นอนแต่หัววัน
วันรุ่งขึ้น เธอตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก
เมื่อคว้าโทรศัพท์มือถือมาดู ก็พบว่าแปดโมงแล้ว จึงขยี้ตาและพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง
เธอตั้งอกตั้งใจจัดการตนเอง เปลี่ยนใส่ชุดทำงานทางการ แถมยังแต่งหน้าด้วย
จากนั้นถึงจะถือกระเป๋าออกจากคฤหาสน์ไป
ตอนที่ถึงบริษัทตระกูลอวี๋ เพื่อนร่วมงานคนอื่นก็มาถึงแล้ว
งานแถลงข่าวในบ่ายวันนี้ แผนกประชาสัมพันธ์จัดเพื่อนร่วมงานกลุ่มเล็กๆ ไว้ เพื่อดำเนินงานประกาศกับแผนกออกแบบ
ส่วนเหนียนเสี่ยวมู่รับหน้าที่คำถามหลักๆ จากสื่อ
ผ่านการร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าไปแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่จึงจัดการงานในลักษณะเดียวกันนี้ได้อย่างสุขุม
หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย และกำลังจะออกเดินทางไปสถานที่จัดงานแถลงข่าว ก็ได้ยินเพื่อนร่วมงานร้องด้วยความตกใจ
“พวกเธอเห็นข่าวหรือยัง คู่แข่งของพวกเราเลือกจัดงานแถลงข่าววันเดียวกับพวกเรา พวกเขาไม่รู้เหรอว่าพวกเราร่วมงานกับสตูดิโอของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ถึงได้หาเรื่องหักหน้าตัวเองแบบนี้!”
“จริงเหรอเนี่ย ปีที่แล้วเสียหน้าไปขนาดนั้นในวันเดียวกัน คิดไม่ถึงเลยว่าปีนี้ก็กล้าจัดวันเดียวกันอีก”
“เธอพูดอย่างนี้ก็เกินไปหน่อย ถึงยังไงพวกเขาก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ พวกเราต้องให้กำลังใจสิ!”
“ฉันก็รู้สึกว่าพวกเขาพัฒนาขึ้นมาก อย่างน้อยรู้งานตอนบ่ายของพวกก็เก่งแล้ว ถึงได้จัดงานแถลงข่าวก่อนในตอนเช้า…”
“…”
ทุกคนต่างก็พูดหยอกล้อกัน และพากันล้อมลงเข้ามาดูข่าวที่เพิ่งออก
ขณะที่ดูอยู่นั้น สายตาก็เปลี่ยนไป
“มีแต่ฉันที่รู้สึกใช่ไหม ว่าผลงานการออกแบบของพวกเขาในปีนี้ไม่เลวเลย” มีคนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
อีกคนหนึ่งรีบพูดเสริม
“ไม่ใช่แค่ไม่เลว ฉันรู้สึกจริงๆ ว่านี่เป็นปีของพวกเขา ถึงได้ทำผลงานสุดยอดออกมาได้เยอะแยะแบบนี้ ฉันรู้สึกหวั่นๆ ขึ้นมาตหงิดๆ ได้ยังไงเนี่ย”
“ทำไมฉันรู้สึกว่าสไตล์งานออกแบบล็อตนี้ ไม่ค่อยเหมือนกับสไตล์ที่บริษัทของพวกเขาเคยทำมาก่อน”
“เหมือนไม่เหมือนไม่สำคัญ ได้รับความสนใจสิประเด็น พวกเธออ่านคอมเมนต์ข้างล่างสิ มีแต่คอมเมนต์ดีๆ ทั้งนั้น ยังมีคนพูดถึงพวกเราด้วย บอกว่าปีนี้พวกเราต้องแพ้แน่…”
ในส่วนทำงานเต็มไปด้วยการถกเถียงของเหล่าเพื่อนร่วมงาน
เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินพวกเขาพูดกัน จึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดข่าวที่เพิ่งออกมาตามสัญชาตญาณ
เมื่อเห็นงานออกแบบที่แสดงอยู่บนนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปโดยพลัน!
ถ้าความจำของเธอไม่มีปัญหา งานออกแบบที่เห็นบนอินเทอร์เน็ต เป็นสิ่งที่เธอได้มาจากมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเมื่อวาน
เป็นงานออกแบบที่บริษัทตระกูลอวี๋จะแสดงในบ่ายวันนี้!
ทำไมถูกคู่แข่งปล่อยออกไปก่อนได้…
เหนียนเสี่ยวมู่กำมือแน่นในทันที!
เธอยังไม่ทันดึงสติกลับมา โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นแล้ว
เป็นสายจาผู้จัดการแผนกออกแบบ
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน มีเรื่องด่วน คุณมาที่ห้องทำงานของผมตอนนี้เลย!”
“ฉันก็เพิ่งเห็นข่าว กำลังจะติดต่อคุณพอดีเลยค่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่วางสาย แล้วหมุนตัววิ่งไปยังแผนกออกแบบ
ในแผนกออกแบบ ทุกคนรู้เรื่องแปนงานรั่วไหลแล้ว จึงกระวนกระวายใจกันไปหมด
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งเดินเข้าไป ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เห็นเหวินหย่าไต้และผู้จัดการแผนกออกแบบเดินออกมาจากในห้องทำงานพร้อมกัน
หลังจากเงยหน้าขึ้นเห็นเธอ สีหน้าของเหวินหย่าไต้ก็เยียบเย็นไปทันที
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ฉันบอกคุณชายหานแล้ว เรียกประชุมฝ่ายใน หาตัวหนอนบ่อนไส้!”