หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 333 ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจขมขื่น / ตอนที่ 334 หรือคุณชายหานจะมีโชค

ตอนนี้ 333 ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจขมขื่น  

 

 

“ฉันก็เหมือนกันค่ะ ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้” เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะกอดมิสเตอร์ลอมบาร์ดีอีก แต่มือใหญ่ข้างหนึ่งกลับกดหัวไหล่ของเธอเอาไว้แล้ว  

 

 

จากนั้นก็เข้ามากั้นระหว่างเธอกับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเงียบๆ  

 

 

เขายื่นมือไปหามิสเตอร์ลอมบาร์ดีอย่างมีมารยาท “สวัสดีครับ!”  

 

 

แม้มิสเตอร์ลอมบาร์ดีจะเป็นคนอิตาลีแท้ๆ แต่ก็ฟังภาษาจีนง่ายๆ รู้เรื่องอยู่  

 

 

เขาจับมืออวี๋เยว่หานด้วยความกระตือรือร้นทันที และพูดภาษาจีนเลียนแบบชายหนุ่ม “สวัสดี!”  

 

 

ชายชราคิดดูอีกครั้ง แล้วเติมอีกคำหนึ่ง “ขอโทษ!”  

 

 

จากนั้นถึงจะเปลี่ยนมาใช้ภาษาอิตาลี อธิบายอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างจริงจัง ไปเป็นตัวแทนแสดงการขอโทษอย่างจริงใจแทนสมาชิกทุกคนในสตูดิโอของเขา  

 

 

มิสเตอร์ลอมบาร์ดีพูดเร็วมาก เหนียนเสี่ยวมู่เห็นอวี๋เยว่หานไม่พูดจาอยู่ตลอด จึงคิดว่าเขาฟังไม่รู้เรื่อง เธอรีบไปยืนข้างๆ เขา แล้วแปลให้เขาฟังเสียงเบา  

 

 

อวี๋เยว่หานมองอีกฝ่ายครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ห้าม  

 

 

กลับเป็นมิสเตอร์ลอมบาร์ดีที่มองเธอว่าเธอกำลังแปลให้อวี๋เยว่หานฟัง พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย  

 

 

แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรให้มากความ  

 

 

หลังจากพูดคุยกันง่ายๆ แล้ว ทั้งหมดก็เตรียมตัวขึ้นรถ เพื่อมุ่งหน้าไปร้านอาหาร  

 

 

อวี๋เยว่หานกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เหนียนเสี่ยวมู่เดินเข้าไปนั่งในรถของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเสียก่อน แถมยังโบกมือให้เขาอย่างเบิกบานใจ  

 

 

“คุณชาย ฉันนั่งรถมิสเตอร์ลอมบาร์ดีนะ จะได้คุยเป็นเพื่อนเขาระหว่างทาง!”  

 

 

หลังจากพูดจบ ประตูรถก็ปิดลงทันที!  

 

 

อวี๋เยว่หาน “…”  

 

 

ระหว่างทาง รถยนต์สองคันขับตามกันไป  

 

 

ก่อนหน้านี้เวลาอวี๋เยว่หานขึ้นรถ เขาจะจัดการงานไปด้วยเสมอ  

 

 

แต่น่าแปลก วันนี้เขาไม่ทำอะไรทั้งนั้น เอาแต่พิงหน้าต่างรถ มองรถคันที่อยู่ข้างหลังเขาในกระจกมองหลัง  

 

 

บางครั้งติดไฟแดง รถทั้งสองคนหยุดอยู่ข้างกัน  

 

 

เขามองเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของเหนียนเสี่ยวมู่ได้ชัดเจน โดยมีกระจกกั้น  

 

 

ถ้าเลื่อนกระจกลง ก็สามารถได้ยินบทสนทนาจากในรถอีกคันได้เลือนราง  

 

 

ทั้งสองคนคุยกันสนุกสนาน มิสเตอร์ลอมบาร์ดีดูมีความสุขมาก จึงส่งเสียงหัวเราะสดใสออกมาไม่หยุด…  

 

 

เกิดความความแตกต่าง กับความเงียบเชียบ ณ ที่ตรงนี้อย่างชัดเจน!  

 

 

“คุณชาย ผู้จัดการเหนียนดูจะชอบมิสเตอร์ลอมบาร์มากเลยนะครับ เห็นพวกเขาคุยและหัวเราะด้วยกันแบบนี้ ผมก็อยากจะไปฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกันเหมือนกัน” สองมือของผู้ช่วยจับพวงมาลัยอยู่ เขาหันมามองชายหนุ่มครั้งหนึ่ง พร้อมกับพูดเจือรอยยิ้ม  

 

 

แต่เพิ่งจะพูดจบ เขาก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บจากข้างหลัง  

 

 

ทำเอาเขาตัวสั่นไปหมด!  

 

 

หลังจากรู้ตัว เขาก็เห็นอวี๋เยว่หานหน้าตาดคล้ำอยู่ที่เบาะหลัง  

 

 

สายตาเย็นชาของชายหนุ่มจับจ้องไปที่รถยนต์คันข้างๆ พวกเขา  

 

 

ผู้ช่วยรู้ทันที จึงตีหน้าผากของตนเองครั้งหนึ่ง และรีบอธิบาย  

 

 

“ความจริงผมคิดว่ามิสเตอร์ลอมบาร์ดีก็อายุมากขนาดนี้แล้ว ผู้จัดการเหนียนน่าจะเห็นเขาเป็นแค่ผู้อาวุโสนะครับ เคารพคนแก่และรักเด็กเป็นคุณธรรมดั้งเดิมของคนจีน ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ ครับ!”  

 

 

“งั้นเหรอ”  

 

 

อวี๋เยว่หานขยับริมฝีปากบาง พร้อมยิ้มเย็น  

 

 

ความเย็นชาในสายตาของเขาไม่ได้ลดลงเลยสักนิด  

 

 

ผู้ช่วย “…”  

 

 

เมื่อหมดไฟแดง รถก็เคลื่อนไปข้างหน้าอีกครั้ง  

 

 

ความกดอากาศในรถลดต่ำลงเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศข้างมนอึดอัดไปหมด  

 

 

ผู้ช่วยกดดันจนเกือบจะเงยหน้าขึ้นไม่ได้แล้ว  

 

 

สองมือของเขาจับพวงมาลัยอย่างแรง กลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหว หนีออกจากรถไป  

 

 

แต่เขาก็มีชีวิตรอดมาถึงร้านอาหารได้อย่างยากลำบาก!  

 

 

เมื่อพวกเขาลงจากรถ รถคันที่ตามหลังพวกเขาก็มาถึงแล้วเช่นกัน  

 

 

ประตูรถเปิดออก  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ลอดออกมาจากข้างในรถก่อน ผู้ช่วยชำเลืองมองสีหน้าแปลกประหลาดของอวี๋เยว่หานที่อยู่ข้างๆ ตนเองก่อน จากนั้นก็เตรียมตัวเรียกเธอ  

 

 

แต่ก็เห็นเหนียนเสี่ยวมู่ก้มตัวลงอีกครั้ง และยื่นมือไปประคองมิสเตอร์ลอมบาร์ดีลงจากรถ  

 

 

เมื่อชายชรายืนมั่นคงแล้ว เขาก็ยื่นมือไปดึงแขนของอวี๋เยว่หานด้วย!  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 334 หรือคุณชายหานจะมีโชค  

 

 

ผู้ช่วยตัวสั่นไปทั้งตัว!  

 

 

เขาหันไปมองอวี๋เยว่หานครั้งหนึ่ง เป็นไปดังคาด ใบหน้าของคุณชายดำคล้ำเหมือนก้นหม้อแล้ว  

 

 

สายตาที่จ้องมองมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเหมือนจะตัดแขนข้างนั้นให้ขาด!  

 

 

ความเย็นชารอบกายอวี๋เยว่หานนี้ ใครๆ ก็รับรู้ได้ แม้ยืนห่างออกไปหลายเมตร  

 

 

ในที่สุดเหนียนเสี่ยวมู่ก็รู้ว่าเขายังอยู่ด้วย หลังจากผ่านไปหลายวินาที เธอหันหน้ากลับไปมองอย่างงุนงง “คุณชาย จองที่นั่งเรียบร้อยแล้วนี่ คุณไม่เข้าไปเหรอ”  

 

 

“…”  

 

 

เมื่อได้ยินเธอพูด แววตาของอวี๋เยว่หานพลันวูบไหว  

 

 

เขาเดินเข้าไปหาเธอ ก่อนจะถอดเสื้อนอกส่งให้เธอ “ช่วยผมถือหน่อย”  

 

 

“ได้สิ” เหนียนเสี่ยวมู่ปล่อยมือของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีตามจิตใต้สำนึก แล้วรับเสื้อนอกของเขาด้วยทั้งสองมือ  

 

 

จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้ว  

 

 

“วันนี้อากาศหนาวมาก ไม่ใส่เสื้อนอกจะหนาวเอาได้นะ คุณใส่มันก่อนสิ เข้าไปในร้านอาหารค่อยถอด” เหนียนเสี่ยวมู่พูด แล้วใส่เสื้อนอกกลับไปที่ตัวเขา โดยไม่สนว่าเขาจะยินยอมหรือไม่  

 

 

ก่อนจะถือโอกาสจัดเนกไทให้เขา อย่างกับดูแลเด็กอย่างไรอย่างนั้น  

 

 

ส่วนสูงของพวกเขาต่างกัน เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขา พร้อมกับเขย่งปลายเท้าอย่างสุดฤทธิ์  

 

 

จนกระทั่งจัดเนกไทให้เขาเสร็จ เธอถึงจะถอยหลังไป แล้วยิ้มกริ่มปรบมือด้วยความพอใจ “เรียบร้อย”  

 

 

ครั้นได้เห็นรอยยิ้มสดใสที่หางตาของเธอ ความเย็นชารอบตัวของอวี๋เยว่หานก็หายไปอย่างเงียบๆ…  

 

 

มิสเตอร์ลอมบาร์ดียืนอยู่ข้างๆ เห็นภาพตรงหน้าชัดเจน จึงยิ้มทัก  

 

 

“หรือคุณชายหานจะมีโชค ที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงดีๆ แบบนี้”  

 

 

“…”  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตัวแข็งทื่อไปในทันที ที่ได้ยินชายชราพูดอย่างนั้น  

 

 

ความลุกลี้ลุกลนพลันฉายผ่านไปหน้าเธอ  

 

 

แต่เธอก็นึกขึ้นได้ในทันที ว่าอวี๋เยว่หานเคยพูดเขา เขาเข้าใจแค่คำทักทายง่ายๆ เท่านั้น น่าจะฟังประโยคนี้ไม่รู้เรื่อง เธอถึงได้ถอนหายใจออกมา  

 

 

ขณะที่กำลังจะอธิบายให้มิสเตอร์ลอมบาร์ดีฟัง อยู่ๆ อวี๋เยว่หานก็เอ่ยปาก “แปลให้ผมฟังด้วยสิ”  

 

 

“เอ๋?”  

 

 

“แปลที่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีพูดเมื่อกี้ให้ผมฟังหน่อย” นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานวูบไหวเล็กน้อย ก่อนกลับมามีสีหน้าเรียบนิ่งและสุขุมดังเดิม  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!  

 

 

ถ้าตอนนี้เธอแสร้งทำเป็นว่าฟังภาษาอิตาลีไม่รู้เรื่อง ยังจะทันอยู่ไหม  

 

 

ดูจากสีหน้าของอวี๋เยว่หานแล้ว ถ้าไม่ได้ฟังคำแปลจากเธอ เขาคงจะไม่ยอมเข้าไปกินข้าวดีๆ  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กระแอม ก่อนจะแสร้งมองมิสเตอร์ลอมบาร์ดีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม  

 

 

เมื่อแน่ใจแล้วว่าล่ามภาษาจีนของเขาไม่ได้อยู่ข้างๆ เธอถึงจะเอ่ยปากอย่างสบายใจ  

 

 

“มิสเตอร์ลอมบาร์ดีชมว่าคุณหล่อมาก ดูท่าทางมีโชค”  

 

 

“งั้นเหรอ?” อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว  

 

 

สายตาที่มองทะลุทุกอย่างของเขา ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ใจฝ่อขึ้นมาทันที  

 

 

เธอจึงรีบพูดเสริมอีก “เขายังบอกอีกว่าต่อไปคุณต้องได้แต่งงานกับผู้หญิงดีๆ แน่!”  

 

 

“หืม?” ใบหน้าเย็นชาของอวี๋เยว่หานยกขึ้นเล็กน้อย มุมปากเหมือนจะยิ้ม แต่ก็ไม่ใช่ ดูท่าทางเหมือนจะเชื่อเธอแล้ว  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ก็ได้ยินเขาถามอย่างไม่ใส่ใจนัก  

 

 

“งั้นเขาบอกคุณหรือเปล่า ว่าภรรยาของผมคือใคร”  

 

 

“แค่กๆ”  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่สำลักน้ำลายของตนเองเสียอย่างนั้น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับความตกใจ  

 

 

เมื่อแน่ใจแล้วว่าตนเองไม่ได้หูฝาด เธอก็ส่ายหน้าเป็นป๋องแป๋งมังกรทันที  

 

 

“เปล่า! ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น!”  

 

 

“…”  

 

 

“คุณชานหานต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ มิสเตอร์ลอมบาร์ดีจะรู้ได้ยังไง ว่าภรรยาของคุณเป็นใคร เขาแค่ชมคุณเฉยๆ” เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ ก็รีบดึงแขนของเขาเดินเข้าไปข้างในโดยไม่สนใจอะไรอีก รวมถึงกลัวเขาถามต่อด้วย  

 

 

“ข้างนอกหนาวเกินไปแล้ว มีอะไรอยากพูด พวกเราค่อยไปพูดข้างในแล้วกัน!”  

 

 

อวี๋เยว่หานยกยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับมองใบหน้าแดงระเรื่อและเขินอายของเธอ แต่ไม่ได้เปิดโปงเธอ  

 

 

จากนั้นก็มองมือของตนเองที่เธอจับเอาไว้ ในใจมีความสุขอย่างยิ่ง!  

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset