หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 335 ขอให้ตัวเองโชคดีเถอะ / ตอนที่ 336 คนที่มีสิทธิ์เพียงคนเดียว

ตอนที่ 335 ขอให้ตัวเองโชคดีเถอะ  

 

 

พวกเขาเข้าไปในร้านอาหารพร้อมกัน  

 

 

มิสเตอร์ลิมบาร์ดีเป็นคนที่ชอบวัฒนธรรมจีนมาก ไม่เพียงแค่อาหาร เขายังสนใจสิ่งต่างๆ มากเช่นกัน  

 

 

พวกเขาจึงไม่ได้จองห้องอาร แต่เป็นที่นั่งยอดเยี่ยมตรงระเบียงข้างนอก  

 

 

ทั้งไม่ถูกรบกวน และไม่กระทบความอยากอาหารของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นเมนูอาหารให้มิสเตอร์ลอมบาร์ดีทันทีที่นั่งลง ก่อนจะใช้ภาษาอิตาลีแนะนำอาหารแนะนำบนนั้นให้เขาฟัง  

 

 

อวี๋เยว่หานถูกมองข้ามอีกครั้ง  

 

 

ใบหน้าที่อ่อนโยนขึ้นอย่างยากลำบาก มีวี่แววเย็นชาลงอยู่รางๆ…  

 

 

ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ เห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน  

 

 

แต่ก็ทำได้แค่ส่งสายตาให้เหนียนเสี่ยวมู่อย่างสุดฤทธิ์ ‘ผู้จัดการเหนียน อย่าเอาแต่ดูแลมิสเตอร์ลอมบาร์ดีสิ ยังมีคุณชายอยู่ด้วยนะ…คุณชายน่ะ!’  

 

 

“ผู้ช่วยหยางเท่อ ตาคุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”  

 

 

ผู้ช่วย “…” !!  

 

 

‘ผู้จัดการเหนียน ผมช่วยคุณไม่ได้แล้ว คุณขอให้ตัวเองโชคดีเถอะ!’  

 

 

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เมื่อมิสเตอร์ลอมบาร์ดีสั่งอาหารเสร็จ เหนียนเสี่ยวมู่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ จึงเงยหน้ามองข้างๆ ตัวเองครั้งหนึ่ง  

 

 

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอกำลังดื่มชาอย่างสง่างาม  

 

 

ใบหน้าเรียบเฉยของเขานั้น ดูไม่ออกเลยว่ารู้สึกอะไรอยู่  

 

 

นัยน์ตาสีดำล้ำลึก แววตาเหมือนมีความเย็นชาอยู่เล็กน้อย…  

 

 

เธอดึงสติกลับมาโดยพลัน มือที่ถือเมนูอยู่ก็หดเกร็งด้วย!  

 

 

ถ้าตอนนี้เพิ่งถามว่าเขาอยากกินอะไร จะเป็นการยอมรับว่าเมื่อกี้ลืมเขาไปหรือเปล่า  

 

 

แต่ถ้าไม่ถาม และสั่งอาหารกับพนักงานโดยตรง…ก็คงตายอย่างน่าอนาถยิ่งกว่า!  

 

 

ทำอย่างไรดีๆ  

 

 

ผู้ช่วยหยางเท่อเตือนอย่างคลุมเครือแบบนั้น แค่ส่งสายตาให้เธอ เธอจะมองออกได้อย่างไร!  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่อ้ำอึ้งอยู่หลายวินาที สุดท้ายก็ตัดสินใจยกมือเรียกพนักงาน  

 

 

เมื่อชำเลืองเห็นอย่างนั้น ผู้ช่วยก็ตกใจจนเกือบจะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้!  

 

 

เขาไม่เคยเห็นใครกล้ามองข้ามความเห็นของเจ้านายตัวเองบนโต๊ะอาหาร และสั่งอาหารเองแบบนี้  

 

 

นี่เท่ากับไม่เห็นอวี๋เยว่หานอยู่ในสายตา รนหาที่ตายแล้ว!  

 

 

ผู้ช่วยหันไปเห็นสีหน้าดำคล้ำเหมือนก่อนฝนจะตกของอวี๋เยว่หานอย่างชัดเจน  

 

 

เขาขยับเก้าอี้ออกห่างอย่างเงียบๆ อีกเดี๋ยวจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวโดยที่ไม่ผิดอะไร…  

 

 

“นอกจากที่เขียนอยู่บนนั้น แล้วก็เพิ่มอีกสักสองสามอย่างนะคะ” เหนียนเสี่ยวมู่ส่งเมนูคืนให้พนักงาน พลางสั่งอีกรอบหนึ่ง  

 

 

“เนื้อผัดไฟแดงอย่ามันจนกินไป ให้มันงวดสักหน่อยจะดีที่สุด…”  

 

 

“แล้วก็เอาปลาเก๋านึ่ง รักษาความสดของปลาไว้ด้วย…”  

 

 

“เอาอันนี้มาอีกจานด้วยค่ะ…มีแต่ของที่คุณชายของพวกเราชอบกินทั้งนั้นเลย!”  

 

 

เธอสั่งอาหารอีกสามอย่างอย่างที่พูดไว้  

 

 

แม้จะไม่ใช่อาหารหายากหรือราคาแพงอะไร แต่เธอเคยเห็นอวี๋เยว่หานกินสิ่งเหล่านี้ด้วยตาตัวเอง รู้ว่าถึงแม้เขาจะไม่ชอบกินมาก แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ  

 

 

เมื่อสั่งอาหารเสร็จ เธอถึงจะมองอวี๋เยว่หานด้วยความจริงใจ  

 

 

“คุณชาย คุณมีอะไรอยากสั่งเพิ่มไหม”  

 

 

“…”  

 

 

นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานวูบไหว เพราะได้ยินว่าเธอเตรียมสิ่งที่ตัวเองชอบไว้ให้ ใบหน้าที่ขุ่นเคืองเมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็นสดใส  

 

 

เขาวางแก้วชาในมือลง มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย  

 

 

ก่อนจะขยับริมฝีปากบาง “ตามใจแขกก่อน พวกเราต้องฟังมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเป็นหลัก”  

 

 

“…” เหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงัน  

 

 

เขาเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่เธอ  

 

 

แล้วใครเป็น ‘พวกเรา’ กับเขาล่ะ  

 

 

ในหัวของเหนียนเสี่ยวมู่มีคำพูดก่อนห้านี้ของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีผุดขึ้นมา  

 

 

ก่อนที่จะหน้าแดงขึ้นโดยไม่รู้ตัว  

 

 

เธอรีบส่งเมนูให้พนักงาน จากนั้นก็ยกแก้วชาขึ้นมาซด  

 

 

“ระวังร้อน!”  

 

 

คำเตือนของอวี๋เยว่หานสายไปแล้ว  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งจิบชาเข้าไปในปากคำหนึ่ง แต่ก็พ่นออกมาในทันที!  

 

 

และเป็นเวลาที่เดียวที่เธอหันหน้าไปมองเขา…  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 336 คนที่มีสิทธิ์เพียงคนเดียว  

 

 

เธอพ่นชาทั้งคำใส่หน้าอกของเขา!  

 

 

เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกชุ่มในทันใด ย้อมมันเป็นสีชาเขียว…  

 

 

อวี๋เยว่หาน “…”  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…”  

 

 

บรรยากาศรอบข้างราวกับแข็งทื่อไป  

 

 

แม้แต่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีและผู้ช่วยที่นั่งอยู่บนโต๊ะ ต่างก็มีสีหน้าหวาดหวั่น มองภาพนั้นเหม่อลอยอยู่นาน  

 

 

ก่อนจะเลื่อนสายตาจากเหนียนเสี่ยวมู่ไปยังอวี๋เยว่หาน  

 

 

พวกเขาเห็นใบหน้าหล่อเหลาล่มเมืองของเขาค่อยๆ ดำคล้ำลง ราวกับจะหยิกเหนียนเสี่ยวมู่ให้ตายคาโต๊ะอาหาร…  

 

 

ในที่สุดเหนียนเสี่ยวมู่ก็รู้สึกตัวได้ เพราะความหนาวยะเยือกจากบรรยากาศรอบช้าง  

 

 

เธอยืนขึ้นทันควัน แล้วหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดให้เขาอย่างรวดเร็ว  

 

 

“คุณชาย ฉันไม่ได้ตั้งใจ…ชามันร้อน คุณเตือนฉันช้าไป ก็เลย…” เหนียนเสี่ยวมู่อธิบายไม่รู้เรื่อง  

 

 

“โทษผมเหรอ?” อวี๋เยว่หานถามทีละคำ  

 

 

ทุกพยางค์เหมือนถูกเค้นออกมาจากในลำคอ  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” เธอไม่กล้าหรอก!  

 

 

เมื่อเห็นคราบน้ำบนหน้าอกของเขา เธอก็แอบคิดว่าตัวเองโชคดีอยู่ในใจ  

 

 

ดีที่เขาตัวสูง ไม่อย่างนั้นน้ำชาคำนี้น่าจะอยู่บนหน้าของเขา  

 

 

ตอนนี้เขาควรจะมีน้ำชาจากปากเธออยู่เต็มหน้า…  

 

 

พอคิดถึงตรงนี้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็กลัวจนตัวสั่นในทันที!  

 

 

เธอสั่งให้พนักงานไปนำผ้าขนหนูมา พร้อมทั้งเช็ดเสื้อให้เขาเป็นพัลวัน  

 

 

เมื่อพบว่าบนกางเกงของเขาก็มีคราบน้ำชาอยู่บ้าง เธอก็อยากจะลงไปเช็ดให้บาง แต่ก็ถูกจับข้อมือไว้เสียก่อน  

 

 

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ ก่อนจะพบว่าสีหน้าของเขาแปลกไปบ้าง  

 

 

ราวกับว่ากำลังโกรธ แต่ก็ไม่ใช่ เหมือนหน้าแดงเล็กน้อยมากกว่า  

 

 

หูก็แดงด้วย…  

 

 

เขาจับมือของเธอแน่นไม่ยอมปล่อย ผ่านปหลายวินาที เขาถึงจะเอ่ยปากเสียงเบา “ไม่ต้องเช็ดแล้ว บนรถมีเสื้อผ้าอยู่ เดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”  

 

 

เสียงของเขาแหบพร่าอยู่บ้าง  

 

 

หลังจากพูดจบ เขาก็ปล่อยมือเธออย่างรวดเร็ว แล้วหมุนตัวเร่งฝีเท้าออกไป  

 

 

ฝีเท้ารีบเร่ง ราวกับว่าโมโหแล้ว  

 

 

ผู้ช่วยก็รีบตามไปเช่นกัน  

 

 

บนโต๊ะเหลือเพียงเหนียนเสี่ยวมู่กับมิสเตอร์ลอมบาร์ดี  

 

 

หญิงสาวมองเงาร่างของเขาจากไป มือยังคงค้างอยู่ในท่าที่ถูกเขาปล่อยมือ สายตาแลดูมืดมน  

 

 

ดูเหมือนเขา….จะโกรธเธอแล้วจริงๆ  

 

 

เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานไม่กลับมาเสียดี เหนียนเสี่ยวมู่ก็เซื่องซึมลงอย่างน่าประหลาด  

 

 

เธอพูดกับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีเล็กน้อย ส่วนตามองจ้องประตูร้านอาหารอยู่ตลอด  

 

 

โดยที่เธอไม่ได้สังเกตเลยว่า ท่าทางของตัวเองเหมือนหินอาม่าที่ฮ่องกง…  

 

 

เมื่อดึงสติกลับมาได้ มิสเตอร์ลอมบาร์ดีก็อ่านหนังสือพิมพ์ด้วยความเบื่อหน่ายแล้ว  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่อึ้งงัน ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “คุณอ่านภาษาจีนได้ด้วยเหรอคะ”  

 

 

“อ่านไม่รู้เรื่องหรอก ผมดูแค่ภาพ ผมรู้จักคนคนนี้ด้วย” มิสเตอร์ลอมบาร์ดีส่งหนังสือพิมพ์ให้เหนียนเสี่ยวมู่ พลางชี้ภาพบนนั้น  

 

 

หญิงสาวมองด้วยความประหลาดใจ เธอจำคนบนนั้นได้ เขาก็คือชายหนุ่มที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ เพื่อนร่วมงานในบริษัทได้ในวันนี้  

 

 

เธอจำได้ว่าเขาชื่อฟ่านอวี่  

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองลงจากรูปภาพ และเห็นชื่อของเขาอยู่บนหนังสือพิมพ์จริงๆ  

 

 

“พวกคุณสนิทกันมากเลยสินะคะ ฉันได้ยินเพื่อนร่วมงานของฉันพูดถึงเขาด้วย” เหนียนเสี่ยวมู่ถามตามสัญชาตญาณ  

 

 

มิสเตอร์ลอมบาร์ดีพยักหน้าเมื่อได้ยินเธอพูด แต่จากนั้นก็ส่ายหน้าอีก  

 

 

ทำเอาเหนียนเสี่ยวมู่งงงัน  

 

 

“ผมเคยเจอเขาอยู่สองสามครั้ง พอได้ทำงานร่วมงาน ก็นับว่ารู้จักกันอยู่ แต่ไม่นับว่าสนิทกันหรอก” มิสเตอร์ลอมบาร์ดีดื่มชาคำหนึ่ง ถึงจะพูดออกมา  

 

 

“เขาเก่งมาก เป็นคนเก่งที่หาได้ยากคนหนึ่งเลยทีเดียว”  

 

 

“…” สายตาของเหนียนเสี่ยวมู่เปลี่ยนไป คนที่ได้รับคำชมจากปากมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ต้องเก่งแค่ไหนกันนะ  

 

 

“ถ้าจะบอกว่าคุณชายหานเป็นราชาแห่งวงการธุรกิจโดยกำเนิด อย่างนั้นฟ่านอวี่ก็เป็นคนเดียวที่น่าจะมีสิทธิ์พอจะเทียบเคียงกับเขาได้ ในบรรดาคนที่ผมรู้จัก”  

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

อวี๋เยว่หาน หนุ่มหล่อดีกรีประธานบริษัทอนาคตไกลที่จู่ๆ ก็ค้นพบว่าตัวเองมีลูกโดยไม่รู้ตัวแถมไม่รู้ว่าใครเป็นแม่เด็ก ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอก็ดันตรงกับเขาเสียด้วย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แม้ว่าจะไม่รู้ที่มาของเด็กน้อยแต่อาจเป็นเพราะสายสัมพันธ์อะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกสาวของเขาบาดเจ็บจนบังเอิญได้รับความช่วยเหลือจาก เหนียนเสี่ยวมู่ หลังจากนั้น เสี่ยวลิ่วลิ่ว ก็ติดเธอแจ หญิงสาวอ้างตัวว่าเป็นพยาบาลรับจ้างเขาจึงจ้างเธอไว้ แต่เบื้องหลังของเธอกลับลึกลับและมีความสามารถเกินกว่าพยาบาลทั่วๆ ไป เรื่องนี้เขาจะต้องหาทางพิสูจน์ความจริงให้ได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset