ถูกต้อง บ้านของพวกเรา… แม้เพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆแค่เดือนเศษ นางกลับรู้สึกว่าเรือนหลังน้อยแห่งนี้คือบ้านของนาง ทุกคนที่อยู่ในเรือนแห่งนี้คือสมาชิกในครอบครัวของนาง
นางจะไม่ยินยอมให้คนในครอบครัวของตนต้องประสบเคราะห์กรรมใด ๆ ผู้ใดที่บังอาจมาแตะต้องสิ่งที่นางรักใคร่ห่วงใย นางจะให้พวกมันได้ชดใช้อย่างสาสม
ใบหน้าของเซี่ยวหลีค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่หนักแน่นแข็งขันพร้อมทุ่มเทแรงกายใจพลีชีพ เด็กน้อยปาดน้ำตา ผงกศีรษะซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายครั้งด้วยท่าทางราวกับตนกำลังให้สัตย์ปฏิญาณ
ทันทีที่พวกซีเจี่ย และเซี่ยวหลี พากันหลบหนีออกไปจากเรือน กลุ่มชายชุดดำผู้มาพร้อมกระบี่เหินเวหาก็เหยียบย่างลงบนลานกว้างของเรือนหลังน้อยแล้ว
พวกมันย่อมเห็นหญิงชราผู้อ่อนแอ และเด็กน้อยพากันวิ่งหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในเทือกเขาฉาง บุรุษผู้หนึ่งในกลุ่มชายชุดดำตวัดมีดสั้นในมือไปมาพร้อมแสยะยิ้มพลางเอ่ยถาม “จะให้ข้าไปจัดการเจ้าพวกขยะไร้ค่านั่นไหม ?”
บุรุษอีกนายสวนกลับไป “คำสั่งท่านหัวหน้าคือผู้ว่าจ้างต้องการเพียงชีวิตของน่าหลานเกอซี ไม่เกี่ยวกับเจ้าพวกนั้น เจ้าคิดว่าองค์กรปีศาจสยบแดนดิน ที่มีแต่มือสังหารระดับพระกาฬเป็นตลาดสดที่รับงานแล้วยังต้องเที่ยวไล่แจกของแถมไปเรื่อยงั้นรึ ?
ชายชุดดำสองคนระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น พวกมันหันไปมองเรือนหลังน้อยเบื้องหน้า ชายคนเดิมผู้เริ่มเอ่ยปากเป็นคนแรกเลิกคิ้วสูงขณะกล่าวคำ “คาดไม่ถึงเลยว่าคุณหนูสาม เศษสวะอันลือชื่อแห่งสกุลน่าหลานจะใจกล้าถึงเพียงนี้ นางปล่อยให้บ่าวบริวารทั้งหลายหลบหนีเอาตัวรอด ส่วนตนเองกลับรั้งอยู่เพื่อรอความตาย….จุ๊ จุ๊ น่าสนใจไม่น้อย !”
เสียงหนุ่มน้อยอีกคนบ่นขึ้นอย่างจนปัญญา “ไม่รู้ว่าหัวหน้าคิดเช่นไร นางเป็นเพียงหญิงไร้ค่าที่ไม่มีพลังฝีมือ แค่เพียงระดับพลังปราณขั้นเมล็ดพันธุ์เพาะบ่มนางก็ยังไม่อาจบรรลุเสียด้วยซ้ำ ! หัวหน้าถึงกับต้องใช้พวกเราสี่คนมาจัดการคนเยี่ยงนี้”
“ช่างเถิด เมื่อหัวหน้าตัดสินใจแล้ว ท่านย่อมต้องมีเหตุผลของท่าน พวกเราเพียงเชื่อฟังน้อมรับคำสั่งก็พอ เสี่ยวปา เจ้านั่นล่ะ ไปจัดการบั่นศีรษะนางคุณหนูนั่นให้เรียบร้อย พวกเราจะรออยู่ที่นี่”
“หากมีผู้ใดล่วงรู้ว่าพวกเราผู้มีพลังฝีมือระดับพลิกผันอเวจีขั้นสูงทั้งสี่นายต้องมารุมสังหารคนธรรมดาไร้ฝีมือเพียงคนเดียว เราคงต้องถูกหัวเราะเยาะเป็นแน่ !” เสี่ยวปาผู้มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มบ่นพึมพำ หากแต่กลับผลักประตูเดินเข้าไปในห้องของเกอซีอย่างว่าง่าย
ขณะที่กลุ่มมือสังหารที่เหลืออีกสามนายยังคงรวมตัวรออยู่ในเขตตัวเรือน ขณะรั้งรอภารกิจให้สำเร็จลุล่วง พวกมันพากันพูดคุยเรื่อยเปื่อยอย่างสบายใจไร้สิ้นกังวลว่าเสี่ยวปาจะสามารถลงมือสังหารหญิงผู้นั้นได้หรือไม่
จะอย่างไรเสีย ผู้หนึ่งคือยอดฝีมือระดับพลิกผันอเวจี ส่วนอีกฝ่ายคือมนุษย์สามัญไร้สิ้นพลังฝีมือ ประดุจความแตกต่างระหว่างมนุษย์ร่างใหญ่กับมดตัวน้อย แค่เพียงออกแรงบี้มันก็แดดิ้นคามือแล้ว จะต้องเกรงไปไยกับเจ้าพวกมดปลวกไร้ค่า ?
เสี่ยวปาตวัดมีดสั้นในอุ้งมือไม่จำเป็นต้องหลีกเร้นแฝงกาย มันเดินดุ่มเข้าไปในห้องนอนของหญิงสาวที่ประดับตกแต่งไว้อย่างเรียบง่ายด้วยฝีเท้าอันดัง
ทว่าเพียงอึดใจ มันกลับสามารถรับรู้ได้ถึงความเย็นยะเยือกของอาวุธลับบางอย่างที่ซัดตรงจู่โจมเข้ามา
ไม่ได้การ— ! ความฮึกเหิมพลันหม่นมัว มันรีบเบี่ยงกายหลบหลีกอาวุธลับนับไม่ถ้วนที่ซัดเฉียดข้างแก้มได้ทันท่วงที หากทว่ายังอีกมากมายที่ยังคงพุ่งตรงเข้าถาโถมใส่เรือนกาย
ทันทีที่อาวุธลับสัมผัสต้องผิวกาย มันจึงพบว่านี่คือเข็มเงินแท่งบางเบาเพียงเท่าปลายเส้นผม เมื่อแท่งเข็มแทรกผ่านเข้าร่าง อายพลังอันเย็นยะเยียบเหน็บหนาวซ่านซึมเข้าสู่กายของผู้มีพลังฝีมือขั้นพลิกผันอเวจีให้สัมผัสถึงความเย็นวาบสะท้านไปทั่วทั้งร่าง
ทว่าเสี่ยวปาหรือจะใส่ใจกับแท่งเข็มราวเห็บเหาแฝงอายพลังเย็นกระจอกเช่นนี้ การโจมตีครานี้เพียงกระตุ้นให้มันพลุ่งพล่านเดือดดาลขึ้นมาเท่านั้น
“แม่หนูน้อย หากเจ้ายอมทำตัวว่าง่ายยินยอมน้อมรับความตายแต่โดยดี ข้าก็จะรีบลงมือให้รวดเร็วเด็ดขาดไม่ให้เจ้าต้องทรมาน ทว่าเมื่อเจ้าแข็งขืนต่อต้าน เช่นนั้นเจ้าก็จะได้ลองลิ้มรสสิบแปดวิธีทัณฑ์ทรมานของข้าดู !”
ขณะกล่าวคำ มันรวบรวมกระแสพลังปราณพุ่งเข้าจู่โจมหญิงสาวผู้ซ่อนกายอยู่ในเงามืด
ฉับพลัน สีหน้าของมันกลับกลายเป็นตื่นตระหนกหวาดหวั่นอย่างเหลือแสนเมื่อพบว่าจุดตันเถียนของมันถูกผนึกไว้ด้วยบางสิ่ง ทำให้ไม่สามารถรวบรวมพลังเพื่อโคจรพลังปราณในกายได้เลย
***จบตอน พวกมดปลวกไร้ค่า***