เกอซีหย่อนร่างกลมกลิ้งของต้านต้านลงพื้น ทว่าเขากลับยังพยายามปีนป่ายอยู่กับชายผ้าปากร้องร่ำ ๆ ขอของกินไม่หยุดหย่อน
ยามนี้เกอซีไม่สนใจท่าทางเอาแต่ใจของเจ้าหนูน้อยอีกแล้ว นางผายมือออก “เจ้าสวาปามทุกสิ่งลงท้องไปหมดแล้ว ข้าจะไปหาข้าวของเครื่องปรุงใดมาทำให้เจ้าได้ ? อีกทั้งข้าไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว คงช่วยเจ้าไม่ได้ ครานี้เห็นทีเจ้าคงต้องอดตายเสียกระมัง อ้อ อย่าลืมเก็บกวาดที่เจ้าทำสกปรกเลอะเทอะไว้ด้วย มิเช่นนั้นข้าจะไม่ให้เจ้าได้กินสิ่งใดอีก”
กล่าวจบ หญิงสาวก็ไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดของอีกฝ่าย ทว่ากลับเบนมาให้ความสนใจหีบหยกซึ่งอยู่เบื้องหน้าแทน
ต้านต้านบ่นไปมาอยู่ค่อนวันกระทั่งเริ่มรู้ตัวว่าเกอซีกำลังโกรธตนเองเสียจริง ๆ ทั้งยังแสดงท่าทีไม่ไยดีเขาอีกแล้ว หัวน้อย ๆ พลันพับตก หนวดนุ่มนิ่มทั้งสองเหี่ยวห่อลงมา
ทันใดนั้น เจ้าหนวดน้อยทั้งสองกลับตั้งชูตรงแหน่ว สายตาของเขากวาดมองไปทั่วห้องที่เละเทะ ก่อนจะยกมือกลมน้อย ๆ ทั้งสองขึ้นวาดขยับไปมา
เพียงไม่นานข้าวของทุกชิ้นก็กลับไปวางอย่างเป็นระเบียบบนชั้นเช่นเดิมอีกครา
ต้านต้านยืนเล็งแลชั้นตรงหน้าหัวเราะคิกคักอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นเมื่อหันไปหาเกอซีหมายจะเอาหน้าในผลงาน กลับพบว่าหญิงสาวกำลังจับจ้องอยู่กับหีบหยกทั้งแปดที่ลอยเคว้งกลางอากาศด้วยความกระหายใคร่รู้
หนวดน้อย ๆบนหัวกวัดแกว่งไปมา บังเกิดความเข้าใจในทันที ต้านต้านยกกรงเล็บปัดแหวกอากาศ แสงวูบวาบรอบหีบหยกทั้งแปดส่งประกายกระพริบพราว ก่อนจะเคลื่อนตัววูบตรงเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้าหญิงสาว
เกอซียืนนิ่งมองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยอาการงุนงงสับสนว่าเมื่อครู่เกิดสิ่งใด ต้านต้านรีบตะกุยอุ้งมืออุ้งเท้าน้อย ๆ พุ่งเข้ามาหาตะกายดึงรั้งชายเสื้อ และรีบอวดผลงานชิ้นโบว์แดง
“ท่านแม่เห็นไหม ต้านต้านเก็บทุกอย่างเรียบร้อยเลย ต้านต้านยังช่วยจัดการเจ้าหีบดื้อด้านพวกนั้นด้วย ต้านต้านน่ารักไหม ? ท่านแม่ไม่โกรธต้านต้านแล้วใช่ไหม ?”
เกอซียกมือขึ้นลูบหัวน้อย ๆ อย่างชื่นชม เขาบิดตัวกลม ๆ กลิ้งไปมาด้วยความสุขใจ เห็นเช่นนั้นหญิงสาวอดมิได้ที่จะปล่อยเสียงหัวเราะออกมา ไม่ว่าจะยามที่เขายังอยู่ในฟองไข่ หรือออกมาอยู่ในรูปร่างประหลาดเช่นนี้ เจ้าตัวน้อยผู้นี้ก็ยังทำตัวราวกับเด็กน้อยห้าขวบอยู่เช่นเดิม
เกอซีหยิบหีบหยกใบหนึ่งขึ้นมา นางส่งกระแสพลังลงไปเพื่อเปิดฝาหีบ ครั้นเมื่อมิอาจเปิดออกดูได้ หญิงสาวจึงใช้จิตสัมผัสเข้าสำรวจตรวจตราแทน
ทันทีที่กระแสจิตสัมผัสเข้ากับหีบหยก ลำแสงบางอย่างพลันแผ่พวยพุ่งออกมาโดยรอบปานประหนึ่งนางพบเจอกุญแจที่สามารถเปิดผนึกมัน แสงประกายสีขาวที่โอบล้อมหีบหยกพลันเลือนหาย หีบทั้งแปดตรงเข้ามาตั้งอยู่ในฝ่ามือของเกอซีอย่างรวดเร็วรุนแรง
ครั้นเมื่อเห็นใบหน้างุนงงของเกอซี หนวดทั้งสองบนหัวน้อย ๆ ตั้งตรงแหน่ว น้ำเสียงของหนูน้อยสดใสกระจ่างเจี้อยแจ้วขึ้น “ท่านแม่คือจ้าววัง หีบหยกพวกนี้ย่อมสามารถจดจำจิตประทับของท่านแม่ได้ โดยที่ผู้อื่นย่อมไม่อาจเปิดหีบสมบัติพวกนี้ได้”
ได้ฟังคำเอ่ยอธิบายเช่นนั้นหญิงสาวพลันกระจ่าง นางรีบรวบเก็บหีบอีกเจ็ดใบที่เหลือพร้อมเปิดฝาหีบขึ้นสำรวจอย่างไม่รอช้า
เพียงไม่นาน ภายในหีบที่ว่างเปล่าพลันปรากฏทุกสิ่งที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ
นั่นคือ ฟองไข่เปลือกหนาซึ่งมีขนาดเท่าไข่ไก่ เม็ดโอสถสีดำสนิทสองเม็ดซึ่งยังมิอาจทราบชัดในคุณสมบัติ พร้อมแผ่นหยกบันทึกความทั้งหมดห้าชิ้น
เกอซีลงนั่งในท่าขัดสมาธิ ใช้สายตาสำรวจดูทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าด้วยยังไม่ใคร่แน่ใจว่าตนต้องเริ่มกระทำสิ่งใดก่อนเป็นอันดับแรก
นางยกมือขึ้นกวักเรียกเจ้าตัวน้อยเข้ามา “ต้านต้าน เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คืออะไร ?”
ต้านต้านยกมือสั้น ๆ น้อย ๆ เกาหนวดบนหัวด้วยสีหน้าท่าทางสับสนอยู่ไม่น้อย
ทว่าทันทีที่สายตาของเขาตวัดไปเห็นแผ่นหยกบันทึกความ ดวงตาทั้งคู่พลันวาววับราวฉุกคิดบางสิ่งขึ้นมาได้ เจ้าตัวกลมวิ่งตรงเข้ามาฉวยเอาแผ่นหยกออกจากกองสมบัติเพื่อหยิบยื่นส่งให้แก่เกอซี
“ท่านแม่ ต้านต้านนึกได้แล้ว ท่านปู่ซูมี่บอกว่าท่านปู่ทิ้งเรื่องราวบางอย่างไว้เป็นข้อแนะนำให้แก่ท่านแม่ ท่านปู่ให้ต้านต้านบอกท่านแม่ว่า เมื่อใดที่ตำหนักชีวาสวรรค์ถูกเปิดออก ให้ท่านแม่ศึกษาเจ้าสิ่งนี้เป็นอันดับแรก……ใช่แล้ว แผ่นหยกบันทึกความพวกนี้ล่ะ”
นัยน์ตาของหญิงสาวเปล่งประกาย นางรับแผ่นหยกมา และรีบถ่ายทอดกระแสจิตลงสู่เรื่องราวภายในอย่างไม่รอช้า
***จบตอน ตราประทับจิตสัมผัส***