เกอซีวางมือลงบนไหล่ที่บอบบางของแม่นมเฉิน น้ำเสียงของนางอ่อนโยนนุ่มนวล “แม่นม ท่านอย่ากลัวไปเลย แค่เพียงเจ้าพวกนี้ ข้าสามารถหาทางจัดการพวกมันได้อย่างสบาย”
กล่าวจบ สายตาที่จ้องเขม็งประดุจพยัคฆ์ไล่พิฆาตเหยื่อของเกอซีก็หันไปหยุดตรงบรรดาบ่าวไพร่ที่รายล้อม “พวกเจ้าทุกคนคงหลงลืมไปกระมังว่าข้ายังคงอยู่ในฐานะนายของพวกเจ้า พวกเจ้ากล้าล่วงเกินข้าเช่นนี้แสดงว่าพวกเจ้าหาได้เกรงกลัวต่อโทษทัณฑ์จากสกุลน่าหลานไม่ !”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…..” พวกที่อยู่ในห้องต่างพากันแหงนหน้าหัวเราะสนั่น ใบหน้าเริงร่าของพวกมันแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันย่ามใจ “สกุลน่าหลานงั้นรึ ? หึหึ ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อนว่าอย่าได้ฝันเพ้อไปไกลนัก ผู้ใดไม่รู้บ้างว่าเจ้าคือความเสื่อมเสียแห่งน่าหลาน ? การมีอยู่ของเจ้าทำให้คนสกุลน่าหลานต้องถึงความละอาย บางทีหากเจ้าสิ้นสูญไปเสีย นายท่านคงจะได้พบกับความสุขเสียที !”
พวกที่เหลือต่างให้ความเห็นพ้องคล้อยตาม “ถูกแล้ว ! ลูกหลานสกุลน่าหลานแต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะอย่างน่าเกรงขาม ผู้ใดบ้างไม่เป็นที่เลื่องลือในดินแดนเหยียนจิง แต่ช่างโชคร้าย เพียงเมื่อเจ้าถือกำเนิดขึ้นมาตระกูลน่าหลานก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด อีกทั้งแท้จริงแล้วก็ยังไม่มีผู้ใดรู้ว่าเจ้าคือบุตรสาวแท้ ๆ ของนายท่านจริงหรือไม่ด้วยซ้ำ”
“บางทีนางอาจเป็นบุตรสาวที่ถือกำเนิดจากชายชู้ก็เป็นได้ ! ผู้ใดไม่รู้บ้างว่ามารดาของนางมีมายาจิ้งจอก* ผู้ใดไหนเล่าจะรู้ว่ามีบุรุษมากมายเพียงไรแล้วที่ถูกมารดาของนางปั่นหัว !”
*มายาจิ้งจอก = คือปีศาจจิ้งจอกที่สามารถแปลงร่างได้ตามตำนานเรื่องเล่าของจีน โดยเรื่องเล่าเกี่ยวกับปีศาจจิ้งจอกมีมากมายหลากหลาย ปีศาจพวกนี้สามารถเปลี่ยนรูปของตนได้ และมักชอบแปลงร่างเป็นหญิงงามมายั่วยวนเหล่าบุรุษเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือดูดกลืนพลังชีวิตจากร่างนั้น
เสียงหัวเราะรับส่งกันไปเป็นทอด ๆ ดังอึกทึกครึกโครมไปทั่วห้อง
แม่นมเฉินเดือดดาลจนเนื้อกายสั่นระริกนางพยามระงับอารมณ์ที่อยากจะพุ่งเข้าไปทึ้งทุบบ่าวไพร่จิตมารลิ้นปีศาจพวกนั้นให้สาสมกับความชั่วช้าของพวกมัน
ทว่าความขุ่นเคืองแม้เพียงน้อยกลับมิอาจพบเจอได้ในใจของเกอซี นางเพียงรั้งแม่นมเฉินไว้ก่อนจะกวาดสายตาไปยังพวกบ่าวรับใช้ที่อยู่รายล้อม “โอ เช่นนั้นก็หมายความว่า การที่ข้าถูกจับไปขายเป็นความคิดของคนสกุลน่าหลานงั้นสิ ?”
จากห้วงลึกแห่งความทรงจำของน่าหลานเกอซีนั้นซุกซ่อนความรักความผูกพันอย่างแรงกล้าไว้ สายสัมพันธ์ในฐานะบุตรสาวของน่าหลานเจิ้งเจ๋อ ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย นางมักถูกน่าหลานเฟ่ยเสวี่ยกลั่นแกล้งอยู่เสมอ หากแต่ความเกลียดชังแม้เพียงน้อยกลับไม่เคยปรากฏ ด้วยนางให้ความรักความนับถือคนผู้นั้นในฐานะแห่งความเป็นพี่น้อง
ช่างจิตใจงดงามและแสนดี สาวน้อยผู้เปราะบางอ่อนแอ แม้คนตระกูลน่าหลานจะทอดทิ้งนางไปแล้ว นางกลับยังคงยอมอดทนกล้ำกลืนต่อชะตากรรมที่แสนอาภัพของตน
จางซานส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำขีดเขียนว่าเย้ยหยัน “หากพวกเราหมายจะจัดการสังหารเจ้าเสียย่อมเป็นเรื่องง่ายดาย ทว่าพวกเรากลับหาทางช่วยให้เจ้าได้รอดพ้นจากความตายนั่นก็เพราะความเมตตาโดยแท้ เศษสวะเช่นเจ้าถูกขายออกไปเป็นทาสนับเป็นทางออกที่ดียอดเยี่ยมที่สุดแล้ว”
แม้บ่าวไพร่ที่เหลือจะไม่รู้เรื่องที่เกอซีถูกนำไปขายทอดตลาดดังเช่นพ่อบ้านจางและเสี่ยวซื้อ หากแต่ไม่ว่านางจะเป็นเช่นไร พวกมันก็หาได้ใส่ใจไม่
พวกมันแต่ละคนล้วนจงเกลียดจงชังในตัวน่าหลานเกอซี พวกมันหวังแค่เพียงให้นางหายตัวไปเร็ว ๆ เพื่อพวกมันจะได้ออกจากสถานที่รกร้างห่างไกลแห่งนี้กลับไปยังเรือนน่าหลานเสียที
น่าหลานเกอซีผู้นี้คือตัวอุปสรรคขัดขวางการกลับไปของพวกมัน แม้พวกมันจะทำปิดหูปิดตาไม่รับรู้เรื่องราวใด ๆ ก็ตาม แต่ถึงอย่างไรนางก็ยังคงอยู่ในฐานะคุณหนูสามน่าหลานเกอซีอยู่ดี เช่นนั้นเมื่อมีคนในสกุลน่าหลานต้องการให้นางตาย พวกมันทั้งหมดย่อมถึงความยินดี
จางซานชักกริชที่เหน็บอยู่ด้านหลังขึ้นมา ก่อนจะค่อย ๆ สาวเท้าย่างสามขุมเข้าหาเกอซี “เมื่อเจ้าไม่รู้จักสำนึกซึ้งในบุญคุณที่พวกเรามอบให้ ซ้ำยังกลับรนมาหาความตายถึงที่นี่ เช่นนั้นก็อย่าได้ติโทษข้าว่าไร้ความปรานีก็แล้วกัน”
“พี่น้องทั้งหลาย ลงมือ”
ทันทีที่คำกล่าวเรียบง่ายสิ้นสุดลง พวกมันที่เหลืออีกห้าคนก็ขยับกายเตรียมเข้าร่วม จางซานตวัดกริชที่ทอประกายเยียบเย็นในมือออกไป พร้อม ๆ กับพรรคพวกของมันที่ต่างรวบรวมกระแสพลังปราณขับออกมาจากฝ่ามือเพื่อพุ่งเข้าโจมตีเกอซี
เกอซียกยิ้มหยัน เรือนร่างบอบบางขยับเพียงแผ่วเบาเพื่อเคลื่อนกายของแม่นมเฉินผู้กำลังกรีดร้องให้หลบไปอยู่ด้านข้างอย่างนุ่มนวล
ปลายแส้ยาวในอุ้งมือถูกปลดคลายสะบัดตรงเข้าหาบ่าวรับใช้ทั้งหก
“อ๊าก อ๊าก อ๊าก——– !” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดก้องดังไปทั่วห้อง “มือข้า ! มือข้า”
เพียงพริบตากระดูกข้อมือพวกมันสามคนป่นปี้แหลกเหลว ปลายข้อมือห้อยต่องแต่งไร้เรียวแรง ในอุ้งฝ่ามือเต็มไปด้วยรอยจ้ำสีม่วงและสีเขียว
***จบตอน ความเสื่อมเสียแห่งน่าหลาน***