มิติเวทขาดสะบั้น โลกและจักรวาลเกิดความผันผวนพลิกหวน
ในนครเหยียนจิง คือที่ตั้งแห่ง “หอรื่นรมย์” สถานที่อันน่าภิรมย์และเป็นที่ลือกระฉ่อนไปทั่วทุกทิศ ทุกสิ่งที่ขึ้นชื่อว่าน่าชมล้วนถูกนำออกอวดสายตาอย่างเปิดเผย ณ ที่นี้
ภายในกรงขังสีทองนั้น ดรุณีน้อยรูปร่างผอมบางแลดูอมโรคกำลังตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวต่อบุรุษผู้รายล้อมที่กำลังจับจ้องนางอย่างหื่นกระหาย
“ข้าได้ยินมาว่าวันนี้มีสินค้าอุ่นเตียงชั้นยอดมานำเสนอ โธ่ ! เสียดายที่ออกจะไม่เจริญตาไปเสียหน่อย”
สาวน้อยในกรงขังนั้นผิวพรรณซีดเซียว รูปร่างผอมแห้ง นันย์ตามืดมัวไร้ชีวิตชีวา จะมองเช่นไรก็เป็นเพียงสตรีธรรมดา ๆ นางหนึ่ง
ฝ่ามือที่หยาบกระด้างเหยียดตรงแทรกเข้าไปในลูกกรงกระชากผมของนางขึ้นเพื่อขอมีส่วนได้ยลโฉมหน้านั้นบ้าง
เสียงร้องโอดครวญตามมาด้วยน้ำเสียงรอดไรฟันของสาวน้อยดังขึ้น “พวกเจ้าคือผู้ใด ? เหตุใดจึงมาขังข้าไว้เช่นนี้ ?”
เพียงได้ยิน บุรุษผู้นั้นก็หลุดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
“ฟังสิ น้ำเสียงของนางช่างน่าฟัง นี่หากว่านางนอนร้องครวญครางอยู่บนเตียง หัวใจดวงน้อย ๆ ของข้าคงจะละลายอย่างแน่นอน”
ท่ามกลางชายฉกรรจ์พวกนั้น บุรุษหน้าบากผู้เหี้ยมเกรียมคนหนึ่งก้มกายลงมากระชากร่างของของสาวน้อยเข้ามาอย่างไม่ปรานีปราศรัย เขาฉีกทึ้งเสื้อผ้าของนางออกอย่างหื่นกระหายและหยาบคาย ฝ่ามือที่หยาบกระด้างนั้นตรงเข้าขยำผิวเนื้ออันละเอียดอ่อนบางที่ถูกเผยออกมาอย่างไม่เบามือ
“อา… แม้รูปโฉมจะไม่น่าชมไปเสียหน่อย หากแต่ผิวเนื้อนั้นกลับนุ่มละมุนมือยิ่งนัก เตี๋ยผู้นี้พอใจอยู่มิน้อย !”
พวกที่กำลังมุงดูอยู่ต่างพากันหัวเราะ “ตาเฒ่าเจียง เจ้าก็มีเครื่องอุ่นเตียงในบ้านตั้งมากมายแล้ว อย่ามาแย่งกับพวกเราเลยดีกว่าน่า”
“ถูกแล้ว ! ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่หนึ่งพันตำลึง เช่นนั้นข้าจะเพิ่มให้อีกหน่อยเป็นพันห้าร้อย…”
สาวน้อยผู้นั้นหวาดกลัวยิ่งนัก เหล่าบุรุษพวกนี้กำลังจ้องมองนางราวกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการประเมินราคา อีกทั้งการกระทำของพวกเขาช่างต่ำทรามหยาบช้ายิ่งนัก
นางเปล่งเสียงออกมาด้วยกำลังทั้งหมดที่ตนมี “ข้าคือคุณหนูแห่งตระกูลน่าหลาน มิใช่ทาส ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้ !”
เหล่าบุรุษพวกนั้นนิ่งชะงักครู่หนึ่ง ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวร่อขึ้นดังลั่น
“ดูนางทาสไร้ยางอายผู้นี้ช่างกล้านัก ถึงกับอ้างตนเป็นคุณหนูแห่งตระกูลน่าหลานเชียวนา เหล่าบุตรสาวของท่านหมอน่าหลานแต่ละนางล้วนบริสุทธิ์สูงส่งและสง่างาม อีกทั้งยังเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ที่น่าเกรงขามทั้งสิ้น ไยต้องกล่าวถึงเจ้า นางทาสผู้ต้อยต่ำใบหน้าอัปลักษณ์ราวเศษสวะ ยังหาญกล้าอ้างตนเป็นคุณหนูแห่งสกุลน่าหลาน น่าขันสิ้นดี !”
ใครบางคนในที่นั้นกระชากผมของนางขึ้น พร้อมเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่มือของเขาทึ้งดึงเสื้อผ้าของนางจนขาดกระจุย
“ขอข้าตรวจสอบดูเสียหน่อยสิว่านางยังเป็นเนื้อหยกงาม*อยู่หรือไม่ เราจะได้ประเมินราคาของนางได้อย่างไรเล่า นางอาจเป็นบุปผาที่ร่วงโรยใบหลิวที่เหี่ยวแห้ง* แต่จะอย่างไรเสียเราก็ต้องจ่ายเงินซื้อตัวนางอยู่ดี เช่นนั้นแล้วไม่ว่าทางใดหอรื่นรมย์ก็ล้วนเป็นผู้ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น”
*หยกเนื้องาม หมายถึงสตรีพรหมจรรย์
*บุปผาที่ร่วงโรยใบหลิวที่เหี่ยวแห้ง หมายถึง สตรีที่ไม่บริสุทธิ์แล้ว
ทุกคนปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอีกคราโดยไม่มีผู้ใดกังขาในการกระทำของบุรุษผู้นั้น
ณ หอรื่นรมย์แห่งนี้ทุกคนสามารถประมูลสิ่งของทุกชิ้นที่ต้องการได้ และสถานที่แห่งนี้ย่อมประกอบด้วยสินค้าที่คุณภาพเลิศไปจนกระทั่งสินค้าที่ไร้คุณภาพประเภทเศษสวะกากเดน
สินค้าที่ขึ้นชื่อว่าคุณภาพเลิศนั้นย่อมต้องได้รับการดูแลรักษาทะนุถนอมเป็นอย่างดี ขณะที่สินค้าประเภท “ขยะ” นั้นหากลูกค้าท่านใดสนใจย่อมสามารถตรวจดูคุณภาพได้อย่างอิสระเสรี แต่หากสินค้านั้นแตกหักเสียหาย คนผู้นั้นย่อมต้องจ่ายค่าชดเชยในความเสียหายที่เกิดขึ้น
“อย่าแตะต้องข้า ! อย่าแตะต้องข้า ! ข้าคือคุณหนูจากสกุลน่าหลาน ! !”
นางร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ หากแต่ไม่ว่านางจะร้องตะโกนหรือดิ้นรนเพียงใด เจ้าสัตว์ป่าพวกนี้ก็ยังคงหยาบคายต่อนางท่ามกลางสายตามากมาย
ชุดคลุมตัวนอกของนางถูกฉีกขาดหลุดรุ่ย ชายกระโปรงถูกกระชากออกจนเผยให้เห็นผิวพรรณที่ซีดเซียวของสตรีแรกรุ่น
ในหูของนางมีเพียงเสียงกลุ่มคนที่ต่ำทรามพวกนี้ดังก้อง เสียงหัวเราะของพวกมันราวกับปีศาจร้ายคลั่งกามที่กำลังแยกเขี้ยวขม้ำเหยื่อดั่งสัตว์ป่าที่บดขยี้เกียรติ และความหยิ่งในศักดิ์ศรีของสาวน้อยผู้หนึ่งให้แหลกสลายลงไปคามือ
ภายใต้กรงขังสีทองนี้ได้กักกันนางไว้จนมิอาจหาหนทางหลบหลีกออกไปได้
หากต้องถูกย่ำยีเหยียดหยามจนไร้สิ้นศักดิ์ศรี ถูกนำออกขายให้เป็นดั่งทาสเช่นนี้ นางสู้ขอจบชีวิตของตนเสียยังจะดีกว่า !
“อ๊า อ๊า อ๊า——- ! !” สาวน้อยเอาศีรษะพุ่งเข้าชนซี่กรงเหล็ก โลหิตสาดกระเซ็นฉาบทาไปทั่วทั้งห้อง เพียงเสียงดัง”โครม”ก้องสะท้อนขึ้น ทุกสรรพสิ่งพลันเงียบสงัด
***จบตอน สินค้าอุ่นเตียงชั้นยอด***