ซีเจี่ยพยักหน้ารับในทันที “ขอรับคุณหนูข้าจะตักเตือนให้ทุกคนระวังให้จงหนัก ตลอดถึงให้คอยดูแลระแวดระวังอาณาบริเวณโดยรอบให้ดีขอรับ”
เกอซีผงกศีรษะรับ “เจ้าไปได้แล้ว ด้วยพลังฝีมือของเจ้าในยามนี้สามารถเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการฝึกฝนระดับที่สองได้แล้ว”
การฝึกฝนขั้นที่สอง ? คุณหนูเคยกล่าวว่าหากพวกเขาสามารถผ่านการฝึกขั้นที่สองได้ ทุกคนล้วนมีความสามารถเพียงพอจะรับมือกับผู้มีพลังปราณขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ได้ !
ซีเจี่ยผงกศีรษะรับอย่างเร็วรี่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ เขารีบรับเม็ดโอสถจากมือของเกอซี ทว่าเพียงกำลังจะผละร่างจากไป ชายฉกรรจ์กลับชะงักฝีเท้าครู่หนึ่งก่อนจะเบี่ยงกายกลับมาเอ่ยปากถามด้วยอาการนอบน้อม “คุณหนู ไม่ทราบว่าข้าพอจะทราบได้หรือไม่ว่าเม็ดโอสถนี้มีนามว่าอย่างไร ?”
เกอซีงุนงงไปครู่หนึ่ง ชื่อเรียกกระนั้นหรือ ? เม็ดโอสถพวกนี้นางเพิ่งปรุงขึ้นเมื่อไม่นาน ! จะรู้ได้อย่างไรว่ามันสมควรมีชื่อเรียกขานเช่นไรเล่า ?
“ข้ายังไม่ได้ตั้งชื่อเรียกขานให้แก่มัน” หญิงสาวกล่าวตอบอย่างไม่ยี่หระใด “เจ้าอยากเรียกเช่นไรก็ตามนั้นเถิด จะอย่างไรเสียโอสถชุดนี้ก็ถูกปรุงกลั่นขึ้นเพื่อพวกเจ้าโดยเฉพาะอยู่แล้ว”
ผู้เป็นบ่าวพรวดพราดวิ่งออกไปด้วยอาการยินดีปรีดาเป็นที่ยิ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งตัวเขา ทั้งพี่น้องของเขาล้วนไม่ใช่คนโง่เง่าที่จะไม่รู้คุณค่าของโอสถชุดนี้
เพียงเม็ดเดียวที่กลืนกินลงไปย่อมเพียงพอจะช่วยปรับรากฐานพลังปราณให้แก่คนสามัญผู้ไม่ได้ฝึกยุทธให้สามารถมีกำลังปราณที่แข็งแกร่งเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธที่ใช้โอสถเสริมพลังควบคู่ไปกับการโคจรพลังปราณในกายเลยทีเดียว หากนำโอสถชุดนี้ออกขายทอดสู่ท้องตลาดสนนราคาของมันย่อมต้องแพงลิบลิ่วอย่างแน่นอน
หากทว่าคุณหนูกลับไม่เพียงมอบโอสถชุดนี้ให้แก่พวกเขาอย่างไม่ลังเล นางยังมอบสิทธิ์ในการตั้งชื่อโอสถชุดนี้ให้แก่พวกเขาด้วย ! ช่างเป็นเกียรติอันสูงส่งยิ่ง นับเป็นการแสดงให้เห็นว่านางมีความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวพวกเขามากมายเพียงไร !
เกอซีหาได้ล่วงรู้ไม่ว่า แค่เพียงความขี้เกียจนึกชื่อของนางจะทำให้ซีเจี่ยจินตนาการบรรเจิดได้หลุดโลกซับซ้อนไปได้ถึงเพียงนั้น
ยังอีกทั้งหญิงสาวก็ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า คนไม่รู้หนังสืออย่างพวกซีเจี่ยจะขนานนามให้แก่โอสถชุดนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า “เม็ดโอสถชูกำลัง” แม้ยามนี้โอสถชุดนี้จะยังไม่เป็นที่รู้จัก หากทว่าเบื้องหน้าต่อไป เม็ดโอสถชูกำลังชุดนี้กลับกลายเป็นโอสถที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งยวดทั่วทั้งแถบทวีปหมีหลัว….. ชื่อเรียกขานที่น่าขนลุกนี้กลับกลายเป็นนามขนานที่ถูกฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเหล่าบรรดาผู้ฝึกยุทธทั้งหลาย
ครั้นเมื่อสั่งการทั้งหลายกับซีเจี่ยเสร็จสิ้นแล้ว เกอซีจึงกลับเข้าไปในห้องและนำตนเข้าสู่มิติธาตุ
เหตุการณ์น้อยใหญ่ที่หญิงสาวได้ประสบพบเห็นในเมืองเหยียนจิงทำให้นางเริ่มตระหนักดีแล้วว่ายามนี้นับเป็นช่วงโกยทองอันล้ำค่า หากแต่ลำดับแรกนั้นเห็นจะต้องจัดการกับสิ่งของที่คงเหลืออยู่ให้เรียบร้อย โอสถชุดนี้จะสามารถนำออกขายสู่ท้องตลาดได้ในราคาสูงไม่น้อยทีเดียว
ครั้นเมื่อหญิงสาวเข้าสู่มิติเวท นางกลับเห็นต้านต้านนั่งจ๋องอยู่บนกองผลแตงที่สูงท่วมเป็นภูเขาย่อม ๆ ด้วยใบหน้าแสนรันทดสลดจิต ต้านต้านแทะผลแตงไปพลางก็ขยับเท้าน้อย ๆ เตะผลแตงลอยกระเด็นไปพลาง ดวงหน้าอวบอ้วนกลมดิ๊กนั้นเปี่ยมไปด้วยความโดดเดี่ยวเศร้าเสียใจ
ครั้นเมื่อเขาหันมาเห็นเกอซี เสียงร้องก้องดังด้วยความร่าเริงสุขสันต์ก็หลุดออกมา เขาเขวี้ยงผลแตงทิ้งกระโจนเข้าหาหญิงสาวในทันที “ท่านแม่ ท่านแม่ เหตุใดท่านแม่เพิ่งมาหาต้านต้านเล่า ต้านต้านอยู่แต่ในนี้เบื่อจะตายอยู่แล้ว ! ฮือ ฮือท่านแม่ ท่านแม่ ต้านต้านไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว ต้านต้านอยากออกไปเที่ยวข้างนอกนั้นกับท่านแม่ด้วย—-”
ยิ่งได้เห็นเขาเป็นเช่นนี้ นางก็ยิ่งเจ็บปวดใจ
แม้ภายในมิติจะกว้างใหญ่อุดมไปด้วยขุมพลังสักเพียงไร ทว่าต้านต้านกลับเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงผู้เดียวที่ต้องอยู่ในที่นี้อย่างเดียวดาย หากนางไม่ได้เข้ามา เขาก็ต้องอยู่เพียงลำพังเช่นนี้ต่อไป
หญิงสาวเข้าไปช่วยปลอบประโลมใจต้านต้านอยู่ครู่หนึ่งกระทั่งเจ้าตัวน้อยสงบจิตสงบใจลงได้แล้ว ทั้งคู่จึงชวนกันเข้าไปยังแปลงผักผลไม้เวท
ต้านต้านเป็นเด็กยอดกตัญญูโดยธรรมชาติ เมื่อครู่ แม้เขากำลังลังสะอึกสะอื้นร่ำไห้อย่างน่าเวทนา หากแต่เมื่อต้องเข้ามาช่วยเหลือเกอซีเขากลับโยนเอาความรู้สึกที่โดดเดี่ยวเดียวดายของตนไว้เบื้องหลัง
ครั้นเมื่อต้องลงมือช่วยเกอซีปลูกพรรณพฤกษาทั้งหลาย เขาก็วิ่งเล่นวนเวียนอยู่รอบตัวนาง ต้านต้านวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานไปจนทั่วผืนธรณีศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล หนำซ้ำยังร้อยมาลาดอกไม้เทินไว้บนหัวอีกด้วย !
“ท่านแม่ ท่านแม่ ต้านต้านน่ารักขึ้นไหม ?”
ภาพเจ้าตัวอ้วนกลมตุ้ยนุ้ยน้อย ๆ สวมมาลาดอกไม้ไว้บนหัวพลางพร่ำไถ่ถามว่าตนน่ารักหรือไม่….. เกอซีถึงกับกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่อยู่ นางกล่าวตอบทันทีด้วยสีหน้าที่ทั้งยอมรับทั้งชื่นชม “อืม ต้านต้านหล่อที่สุดเลย”
ยิ่งถูกชมเช่นนี้ต้านต้านก็ยิ่งร่าเริงสนุกสนาน เจ้าตัวน้อยวิ่งอย่างเฮฮาไปทั่วผืนธรณีศักดิ์สิทธิ์พร้อมเสียงหัวเราะก้องกังวานประดุจกระดิ่งเงินที่สะท้อนอยู่ในหูของเกอซี ทำให้หญิงสาวพลอยรู้สึกถึงความสดชื่นแจ่มใส และสงบสุขไปด้วย
***จบตอน ต้านต้านผู้โดดเดี่ยว***