นิยาย อ่านนิยาย
เจ้าเฒ่าเต่าเหม็นจิตวิปลาสนั่นเอาของขวัญบ้าบออะไรมาให้ คิดจะฆ่ากันหรือไร ?
เกอซีกัดฟันก่นด่าขอทานเฒ่าผู้นั้นก่อนจะหันมาสั่งต้านต้านให้อยู่แต่เพียงเฉพาะในมิติเวท ส่วนนางก็กลับคืนสู่ร่างไปอีกครา
ทว่าเมื่อออกมาจากมิติเวท หญิงสาวกลับต้องตกตะลึงกับภาพฉากที่ปรากฏเบื้องหน้า
เมื่อสิ่งที่ปรากฏหาใช่แนวป่ารกชัฏเหมือนเดิมไม่ หากแต่เป็นห้องกว้างที่ว่างเปล่า
ภายในห้องคือประตูโค้งซึ่งมีผิวหน้าคล้ายกระจกหลายบาน แต่ละบานแตกร้าว ประกายแสงสีเงินเปล่งประกายวูบวาบออกมาตามริ้วรอยแตก
ที่ปลายเท้าของหญิงสาวคือร่างของงูหลามทองคำซึ่งไร้วิญญาณ ดวงตาข้างหนึ่งเบิกกว้างด้วยอาการตื่นผวา ขณะที่อีกข้างถูกกัดลึกลงไปถึงกระดูกด้วยพิษของเกอซี
ครั้นเมื่อนางก้มลงจับหางของเจ้างูหลามยกขึ้นกลับต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่ากระดูกทั่วทั้งร่างของมันป่นปี้คล้ายถูกทุบอย่างแรง
เมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนจะหมดสติไป เกอซีรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนได้ยินเสียงร้องของมังกร พร้อมประกายแสงเจิดจ้าสีขาว…. ที่สุดแล้ว ผู้ใดกันที่ช่วยนางไว้ ?
เกอซีเก็บซากงูหลาม สัตว์เวทขั้นหกเข้าไว้ในมิติ ทั้งผิว และเขี้ยวพิษของมันสามารถนำมาทำเป็นอาวุธที่ทรงพลังได้ ส่วนชิ้นเนื้อล้วนสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบเสริมในการกลั่นปรุงซึ่งนับเป็นของหายากยิ่งนัก นับเป็นโอกาสเยี่ยมอย่างยิ่งที่จะสามารถนำชิ้นส่วนทั้งหมดมาใช้ได้ถึงสามส่วนเช่นนี้
ครั้นเมื่อคัดแยกส่วนต่าง ๆ ของงูหลามเรียบร้อยแล้ว เกอซีจึงเริ่มลงมือสำรวจห้องประหลาดที่อยู่ตรงหน้าในยามนี้
ภายในห้องไร้ซึ่งเพดาน เมฆหมอกสีเทาบนท้องฟ้าสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน และในยามนี้ กลุ่มเมฆสีเทากำลังเริ่มรวมตัวแผ่กว้างเป็นร่มเงาที่ด้านบน
ขณะเกอซีกำลังจ้องการรวมตัวของกลุ่มเมฆด้วยความฉงนอยู่นั้น ประกายแสงสีทองพลันระเบิดพุ่งออกจากใจกลางก้อนเมฆ !
ติดตามมาด้วยบางสิ่งที่หล่นร่วง ‘ตุ้บ’ ลงกลางหัว ผิวหน้าคล้ายสัมผัสถึงบางสิ่งที่เย็นพื้นผิวราบเรียบ !
“อะไรนั่น ? !”
ขณะที่เกอซีกำลังหาคำอธิบายสิ่งที่ตกสะท้อนลงมาอย่างรวดเร็วประดุจสายฟ้าอยู่นั้น นางก็รีบฉวยคว้าเจ้าสิ่งที่อยู่บนหัวลงมาจ้องตรงหน้าสายตา ครั้นเมื่อได้เห็นสิ่งนั้นอย่างกระจ่างชัด ความประหลาดใจพลันพาดผ่านตลอดทั่วทั้งดวงหน้า
งู ? เจ้าตัวน้อยสีทองที่เล็กกว่าหัวแม่โป้งของนางนั้นคือ…..งูน้อยกระนั้นหรือ ? ไม่ใช่ ๆ เดี๋ยวก่อน…..งูมีเขาบนหัวเสียเมื่อไรกัน ? แท้จริงแล้ว เจ้านี่มันตัวอะไร ?
เจ้างูตัวกระจ้อยในมือของหญิงสาวค่อย ๆ เผยอเปลือกตาขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีม่วงเหลือบทองของมัน
ในคราแรก เจ้างูน้อยดูจะอ่อนแอไร้กำลัง หากทว่าเพียงได้เห็นใบหน้าของหญิงสาว มันกลับเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างอ้อยอิ่ง “เจ้าหนูนี่หรือที่ช่วยปลดผนึกให้ข้า ?”
เจ้าหนู ? เจ้าตัวน้อยที่ขนาดเพียงเท่าฝ่ามือนี่กล้ามาเรียกนางว่าเจ้าหนูด้วยน้ำเสียงหวานฉ่ำเช่นนี้ล่ะหรือ ?
เกอซียังงุนงง มิรู้ว่าควรหัวเราะหรือร่ำไห้ดี “เจ้าเป็นตัวอะไร ?”
นัยน์ตาของเจ้างูทองตัวกระจ้อยเบิกโพลงกว้างจ้องนางเขม็งพร้อมน้ำเสียงดุดันเกรี้ยวกราด “เจ้าเด็กเหลือขอชักจะกำเริบใหญ่แล้ว ! ข้าคือมังกรทองศักดิ์สิทธิ์สัตว์เวทผู้ทำหน้าที่อารักขาอาณาจักรกำบังแห่งนี้ เจ้ามนุษย์กระจอกผู้มีพลังปราณเพียงเมล็ดพันธุ์เพาะบ่มถึงกับกล้าเรียกข้าว่าตัวอะไรเชียวรึ ? !”
มังกรทอง ? อ้อ ที่แท้เจ้าตัวจิ๋วนี่คือคือมังกรนี่เอง ! มิน่าบนหัวของมันจึงมีเขา
แต่หากจะเทียบกับมังกรผู้ยิ่งใหญ่ในจิตนาการของนางแล้ว เจ้าตัวจ้อยนี่ดูจะกระจอกกว่ากันแยะ
มังกรทองส่ายหัวน้อย ๆ พลางเอ่ยตอบอีกครา “ข้าจะถามเจ้าอีกครา เจ้าคือผู้ที่ช่วยคลายผนึกให้ข้ากระนั้นหรือ ?”
“ผนึกอะไร ?”
มังกรสะดุ้งโหยงเมื่อได้เห็นธำมรงค์ในมือของเกอซี ครั้นเมื่อหญิงสาวหันมาชำเลืองมองจึงพบว่าธำมรงค์หยกที่ขอทานเฒ่ามอบให้นางในยามนี้ได้เปลี่ยนจากสีเขียวเข้มเป็นสีกึ่งแดงกึ่งทองไปเสียแล้ว
มังกรทองตัวน้อยสูดจมูกฟุตฟิตดมธำมรงค์ก่อนจะหันมาดมตัวเกอซีพลางเอ่ยน้ำเสียงเยาะขึ้น “ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเจ้า เด็กเหลือขอไม่ได้เรื่องเช่นเจ้านี้น่ะหรือคือผู้ที่ช่วยคลายผนึกให้ราชันเช่นข้า เสียดายยิ่งที่ข้าไร้ทางเลือกอื่นใด คงต้องจำใจยอมรับเจ้าโดยดุษฎี”
“จำใจยอมรับข้า ? จำใจยอมรับข้าเพื่ออะไร ?”
***จบตอน มังกรทอง***