ประกายแสงนั้นเจิดจ้ากระทั่งเจ็บแปลบเข้าไปถึงในหัว เพิ่งเหลียนยิ่งต้องยกมือขึ้นบดบังนัยน์ตาเพื่อมองลอดผ่านช่องว่างระหว่างเรียวนิ้วจึงเพียงพอสามารถแลเห็นลําแสงสว่างพร่างตาซึ่งอาจสามารถทําให้นัยน์ตาต้องมืดบอดเหล่านั้นพุ่งรวมไปในทิศทางเดียวกัน
อ่านก่อนใครที่ novelza.com
สายลมอ่อนพัดผ่านเปะปะอย่างไร้ทิศทางติดตามมา พร้อมประกายแสงที่เริ่มเลือนลาง สิ่งที่ทําให้หญิงสาวต้องนึกฉงนนั้นคือในยามนี้ นางหาได้ยืนหยัดอยู่ในวังจือจินไม่หากทว่ากลับกลายเป็นทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่
ไม่สิ อาจสมควรกล่าวได้ว่า ยามนี้วังจือจินแห่งนั้นได้เร้นหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
เพิ่งเหลียนยิ่งหาได้มีใจหมกมุ่นอยู่กับโจวเหยียนอันอีกต่อไป สายตาอันคลุ้มคลั่งราวคนเสียสติพุ่งเสียดแทงไปยังหนุ่ม น้อยผู้ยืนอยู่ไม่ไกล
“ซีเย่ว เจ้าคนไร้ยางอาย ! เจ้ากล้ารับช่วงการสืบทอดวังจือจินเชียวรึ !”
ไม่เพียงได้รับช่วงสืบทอดวังเท่านั้น กระทั่งพลังฝีมือของมันยังรุดหน้าเพิ่มพูนอย่างรวดเร็วถึงที่สุด ครั้งที่อยู่ในห้องคัดเลือกผู้สืบทอด คนผู้นี้มีพลังฝีมือเพียงระดับปราณขั้น เมล็ดพันธุ์เพาะบ่มเท่านั้น หากทว่ายามนี้มันกลับสามารถ บรรลุถึงขอบเขตพลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกตร์ได้แล้ว !
*แท้จริงพลังฝีมือของเกอซีอยู่ในขั้นที่ 3 พลิกผันอเวจี หากแต่ผู้อื่นล้วนไม่อาจเห็นพลังฝีมือที่แท้จริงของเกอซีได้
เช่นนี้ล้วนย่อมเป็นด้วยท่านเจ้าวังได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาลับซึ่งสามารถช่วยเพิ่มพูนพลังฝีมือให้เพิ่มทวีได้ภายในช่วง เวลาอันสั้นอย่างแน่นอน !
หาก….หากผู้ที่ได้รับการสืบทอดคือนาง อาจบางทีนางย่อมสามารถทะลวงฝ่าพลังปราณบรรลุเข้าถึงขั้นสูงสุดแห่งพลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือนไปแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเพราะเจ้าหนุ่มหน้าเหม็นผู้นี้ ! เจ้าสารเลวนั่นทําให้นางต้องพลาดตําแหน่งผู้สืบทอด !
ทันทีที่ต้านต้านเห็นเกอซีรู้สึกตัวขึ้นมา เจ้าตัวน้อยย่อมไม่อาจอดทนรั้งรอ ร่างกลม ๆ กระโจนเข้าใส่อ้อมแขนผู้เป็นนายปากส่งเสียงร้องเอะอะ “ท่านแม่ ที่สุดท่านก็ลืมตาขึ้นแล้ว……….ฮือ..ฮือ… ต้านต้านกลัวเหลือเกิน ต้านต้านกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าท่านแม่อีก…”
ทันทีที่เกอซีโอบกอดร่างของต้านต้านกลับรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดแปลก เนื้อผิวอมชมพูที่เคยเนียนนุ่มยามนี้กลับกลายเที่ยวย่นไปทั่วทั้งตัว ยังมีสีผิวกลับกลายหม่นมัวประดุจไร้ชีวิต ทั้งมุมปากยังปรากฏร่องรอยคราบโลหิตเป็นทาง
“ต้านต้าน เจ้าได้รับบาดเจ็บ ?”
“ฮือ..ฮือ….ท่านแม่เป็นนางมารนั้นรังแกพวกเรา ! นางตีหลงหลงจนสิ้นใจ ทั้งยังหมายจะลงมือสังหารท่านแม่กับท่านลุงผู้นั้น ฮือ..ฮือ…”
ต้านต้านยกอุ้งมือขึ้นปาดหยาดน้ําตาด้วยท่าทางน่าสงสารยิ่งนัก แม้เขาจะมีชีวิตเป็นอมตะ หากทว่าตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา ต้านต้านไม่เคยประสบพบเจอผู้ใดโหดเหี้ยมน่ารัง เกียจสะอิดสะเอียดถึงเพียงนี้มาก่อน นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้านต้านตระหนักได้ว่า มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายน่าสยดสยองเพียงไร
เกอซีเคลื่อนสายตาตรงไปยังมังกรทองตัวจิ๋วที่นอนสลบไสลอยู่ข้างฝ่าเท้า จึงพบว่าตลอดทั่วทั้งร่างของเจ้ามังกรป กคลุมไปด้วยรอยแผล และรอยฟกช้ําไปทั่ว ครั้นเมื่อสํารวจ ดูสภาพที่แน่นิ่งของเจ้ามังกรจึงพบว่ากระทั่งเขาทั้งสองของ เจ้ามังกรยังแตกหักเผยให้เห็นถึงรอยแผลแตกชุ่มโชกโลหิต
ที่นอนนิ่งอยู่อีกด้านนั้นคือบุรุษใหญ่ผู้ใช้พลังปราณ ในกายของตนจนแห้งเหือดอยู่ในสภาพพยายามดิ้นรนหอบหายใจ เพียงแลเห็นหญิงสาวสามารถรําลึกได้ในทันที่ว่า คนผู้นี้คือผู้ดูแลโจวแห่งโรงโอสถเชิงเต่อ
บุรุษผู้นี้กระทั่งสัตว์เวทเหล่านี้ต้องเผชิญจุดจบอันน่าอนาถเช่นนี้เพียงเพื่อปกป้องพิทักษ์นางกระนั้นหรือ
ความรู้สึกที่อบอุ่นอย่างประหลาดพลันปรากฏขึ้นภายในใจของเกอซี ความเจ็บปวดแปลบในใจ สร้างความประทับใจตราตรึงระคนคับข้องอึดอัดในเวลาเดียวกัน
หากทว่าเมื่อสายตานั้นช้อนชําเลืองขึ้นมองเพิ่งเหลียนยิ่ง ความดุร้ายเย็นชากลับฉายวาบผ่านดวงหน้านั้นในทันที
นี่หรือคือผู้ได้รับฉายา เทพธิดาบัวเยือกแข็ง ผู้ด้อยฝีมือมิอาจรับตําแหน่งการเป็นผู้สืบทอด เมื่อออกจากกระบวนการรับช่วงการสืบทอด และคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงคนผู้นี้ยังคิดลงมือสังหารนาง ทั้งยังลงมือกับต้านต้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส !
เพียงคิด รัศมีสังหารอันเย็นเยียบพลันเผยผ่านนัยน์ตาของเกอซี
“คุณชายซี ท่าน…รีบหนีไป ! พลังฝีมือของพวกเราหาใช่คู่ต่อสู้ของนางไม่…” น้ําเสียงของโจวเหยียนอันอ่อนแรง
“ข้าแจ้งข่าวถึงนายน้อยแล้ว อีกไม่นานนายน้อยจะมา ถึงนายน้อยจะช่วยปกป้องท่านได้ ไม่ต้องห่วงข้ารีบหนีไปเสีย !”
บนใบหน้าของเกอซีเผยร่องรอยแห่งความประหาดใจ ไม่คาดคิดเลยว่าคนแปลกหน้าที่นางเพียงพบเจอด้วยเหตุบังเอิญจะเป็นผู้ยื่นมือเข้าช่วยนาง ไม่เพียง เท่านั้นคนผู้นี้ยังยอมเสี่ยงชีวิตตนเพื่อช่วยเหลือนางอีกด้วย
เพียง ไม่ว่าจุดมุ่งหมายในการยื่นมือเข้าช่วยเหลือของโจว เหยียนอันจะเป็นสิ่งใด นาง! เกอซี ! คือผู้ที่สามารถละทิ้งผู้มีพระคุณเพื่อหนีเอาตัวรอดได้กระนั้นหรือ ?
***จบตอน วังจือจินเร้นหาย***