ตอนที่ 245 โขกศรีษะขอขมา
ครั้นเมื่อโจวเหยียนอันไม่เห็นอีกฝ่ายขยับเคลื่อนกาย เขากลับเป็นฝ่ายร้อนรนใจ “คุณชายซี พลังปราณในร่างข้าถูกเผาผลาญใช้สิ้นไม่เหลือ ชีพจรูปราณในกายเสียหาย ข้าย่อมไม่อาจหลบหนี ได้อย่างแน่แท้ เช่นนั้น ท่านจงรีบหนีเอาตัวรอด…หาไม่แล้ว ทุกอย่างย่อมสายเกินการณ์”
เกอซีหาได้ใส่ใจวาจาของเขาไม่ หญิงสาวควักแบ่งเข็มเงินขึ้นปักสกัดจุดสําคัญในร่างอีกฝ่ายไว้ทั้งสิ้น
เมื่อจุดชีพจรสําคัญถูกสกัด พลังปราณภายในกายที่กําลังไหลถ่ายเทออกจากจุดตันเถียนของ โจวเหยียนอันจึงค่อย ๆ ชะงักหยุด ใบหน้าสีกระดาษเริ่มกลับกลายคืนสู่สภาพสามัญ
ยังไม่ทันที่โจวเหยียนอันจะเอ่ยกล่าวสิ่งใด อีกฝ่ายก็ควักโอสถเสริมพลังวิญญาณใส่ปากก่อน จะเอ่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงไม่ยี่หระ “เพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ไยเอ่ยกล่าวประดุจกําลังใกล้ตาย เล่า ? คลายใจเถิด ทั้งท่าน และข้าจะยังไม่สินชื่อ !”
หนุ่มใหญ่รับรู้ได้ถึงขุมพลังที่เริ่มไหลถ่ายเทรวมรวมลงสู่จุดตันเถียน เส้นชีพจรปราณที่ แสบร้อนเผาไหม้ค่อย ๆ คลายเย็นตัวลงเรื่อย ๆ
โจวเหยียนอันมองหน้าเกอซีด้วยความประหลาดใจ หากทว่าภายใต้สายตานั้นกลับอัดแน่น ไปด้วยความนับถืออย่างสุดซึ้ง ครั้นเมื่อเขาเหลือบเห็นสีหน้าหม่นมัวของเพิ่งเหลียนอิงผู้กุมกระบี่ ย่างสามขุมเข้ามาหาจึงอดร้อนใจขึ้นอีกไม่ได้ “คุณชายซี แม้ท่านจะช่วยชีวิตของผู้น้อยไว้ได้ หากแต่ด้วยพลังฝีมือของพวกเราย่อมไม่อาจรับมือเทพธิดาบัวเยือกแข็งได้ ข้าเป็นเพียงตัวถ่วง….”
ยังไม่ทันกล่าวจบ ในลําคอกลับจุกตันไม่อาจเอ่ยกล่าวถ้อยคําใดได้อีก
เกอซีค่อย ๆ ถอนปลายนิ้วที่กดสกัดจุดกล่องเสียงของอีกฝ่ายออกมาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะตอบคําด้วยน้ําเสียงเฉยชา “ไม่ต้องกล่าวให้มากความ ท่านอยู่ตรงนี้เฝ้าดูอย่างเดียวก็พอ ผู้ใดกล่าวว่าพวกเราหาใช่คู่ต่อสู้ของหญิงชั่วผู้นั้นเล่า ? ผู้ใดกล่าวว่าพวกเราต้องตายกันเล่า ? แม้นหากต้องสิ้นใจจริงข้าก็จะถลกหนังขาวประดุจดอกบัวของสตรีที่ร้ายกาจผู้นี้ออกมาให้จงได้ ! ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดที่ทําร้ายคนของข้า ซีเย่ว แล้วลอยนวลไปโดยไม่ได้รับการตอบแทน !
สองตาของเพิ่งเหลียนยิ่งมืดมัวประดุจภายใต้แววตาคู่นั้นอัดแน่นไว้ด้วยพิษร้าย หากทว่าเมื่อ ได้ยินคํากล่าวนั้น ท่าที่อันสงบนิ่งของนางกลับกลายระเบิดเปล่งเป็นเสียงหัวเราะลั่น “เจ้าคิดว่า ตนคือผู้ใด ? เจ้ามันก็แค่พวกสวะปราณชั้นปฐมภูมิโลกันตร์ ! คิดหรือว่าเพียงได้รับตําแหน่งสืบทอดวังจือจินแล้ว คนเยี่ยงเจ้าจะสามารถต่อกรกับข้าได้ ? ฝันไปเถิด !”
เมื่อเอ่ยกล่าวเช่นนั้นออกไป ใบหน้าของเพิ่งเหลียนยิ่งกลับยิ่งหม่นมัวน่ากลัว “หากเจ้ายอม มอบต้นโพธิ์ทองคํา และวังจือจินมาให้ข้า เทพธิดาผู้นี้อาจเมตตารักษาสภาพศพของเจ้าไว้ให้สมบูรณ์ หาไม่แล้ว ก็จงอย่าได้ตําหนิที่ข้าไร้ความปรานี้ สํานักหลิวหลีของข้ามีวิธีทรมานผู้คนมากมาย เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสของการมีชีวิตที่ทุกข์ทนทรมานเสียยิ่งกว่าความตาย ! และเมื่อนั้น แม้หากเจ้าจะร่ําร้องขอให้ข้าอภัย ทุกอย่างล้วนสายเกินไป !”
เกอซียกยิ้มเยาะก่อนสืบฝ่าเท้าตรงเข้าหาพร้อมน้ําเสียงไร้ความรู้สึก “หากเจ้าต้องการให้ข้าม อบต้นโพธิ์ทองคํา และวังจือจินได้ ล้วนย่อมได้ ! หากเจ้า เพิ่งเหลียนอิง ก้มลงคุกเข่าโขกศีรษะ ขอขมาต่อข้า ต่อท่านผู้ดูแลโจว ตลอดถึงเหล่าสัตว์เวทของข้า ยังมี เจ้าต้องเปิดเผยตัวตนต่อ คนทั้งใต้หล้าว่าเจ้า เทพธิดาบัวเยือกแข็งมีเพียงชื่อเสียงอันจอมปลอม แท้จริงแล้วเจ้าล้วนเป็นสต รีที่จิตใจเหี้ยมโหดอํามหิต เมื่อนั้น ข้าจะยินยอมมอบช่วงการสืบทอดให้แก่เจ้า เช่นนี้เป็นอย่างไรเล่า ?”
“เจ้า !!! สารเลว! สมควรตาย !”
เพียงได้ฟัง เพิ่งเหลียนยิ่งก็เกรี้ยวกราดเดือดดาลอย่างถึงที่สุด เปลวเพลิงพลุ่งพล่านแผดเผาต ลอดทั่วทั้งร่าง กระบี่ยาวในมือปลดปล่อยลําแสงแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่น้อยจํานวนมหาศาล พุ่งออกจากปลายกระบี่ตรงเข้าหาเกอซีในทันที
“การปลดปล่อยลําแสงกระบออกทางปลายดาบนั้นย่อมต้องอาศัยพื้นฐานพลังฝีมือขั้นสูง ทั้งยังเป็นเคล็ดวิชาชั้นสูงของผู้ฝึกกระบี่อีกด้วย
เกอซีรีบโยนต้านต้าน และมังกรทองตัวจิ๋วกลับเข้าไปในมิติเวท สายตาของนางจับจ้องอยู่กับ ลําแสงกระบี่ที่ประดังเข้าหา แส้กระดูกขาวในมือถูกตวัดกวัดแกว่งขึ้น
แส้กระดูกปรับแปรสภาพสะบัดอย่างรวดเร็วกระทั่งเห็นเพียงเงาที่ปรากฏผ่านเป็นลายเส้น เรียงเป็นชั้นประสานเข้ากับอายรัศมีการเข่นฆ่าที่เย็นยะเยือกประดุจน้ําแข็งที่ตรงเข้าโอบล้อมลํา แสงกระบี่เข้าหมดให้รวมกันเป็นกลุ่มก้อน
ฝ่าเท้าของเกอซีเคลื่อนอย่างคล่องแคล่วรวดเร็วเหลือทิ้งไว้เพียงเส้นเงาเป็นทาง ก่อนที่ร่างนั้นจะเคลื่อนหายไปเพียงชั่วพริบตา
ปราณน้ําแข็งของเกอชีย่อมไม่อาจทานทนต่อพลังเพลิงของผู้ฝึกยุทธขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน ได้ เช่นนั้น พลังปราณน้ําแข็งอันเย็นเยียบจึงถูกเปลวเพลิงหลอมละลายกลายเป็นไอหมอกอย่างรวดเร็วก่อนจะเลื่อนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หากทว่าเพียงชั่วจังหวะเสี้ยวนาทีนั้นร่างของเกอซีกลับหายไปเช่นกัน กระบี่ด้ามยาวจึงแทงทะลุผ่านโดยไม่อาจทําอันตรายต่อผู้ใดก่อนจะกลับคืนสู่อุ้งมือของเพิ่งเหลียนอิงอย่างล้มเหลวอีกครา