ตอนที่ 272 พฤกษาปีศาจเวท
พฤกษาทั้งมวลล้วนหวาดกลัวต่อขุมเพลิงยิ่งนัก เพียงพลังเพลิงของเกอซีแตะต้องสัมผัสเปลวเพลิงนั้นก็ลุกลามพุ่งไล่ไป ตามเถาของเถาวัลย์ม่วงอเวจีในทันที
ทว่าเหนือความคาดหมายยิ่งนัก แม้เถาวัลย์ม่วงอเวจีจะตกอยู่ท่ามกลางเปลวเพลงที่ลุกโชนทว่าความหวาดหวั่น พรั่นพรึงกลับไม่ปรากฏให้เห็นแม้เพียงน้อย คล้ายมันกําลังร่าเริงอยู่ท่ามกลางแสงไฟ สนุกครื้นเครงอยู่ในเปลวเพลิง
ทั้งเถาของมันแกว่งไกวล้อไหวไปกับท่วงทํานองกระพือของเปลงเพลิง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ขุมพลังที่อัดแน่นอยู่ในพลังเพลิงคลับคล้ายเริ่มถดถอย เจ้าเถาวัลย์ม่วงเส้นนี้กําลังกลืนกินพลังเพลิงอยู่จริงล่ะหรือ ??
เพียงครู่ถัดมา เปลวเพลิงสีทองที่ร้อนระอุทั้งหมดพลันดับมอดอย่างสิ้นเชิง
ใบหน้าของหญิงสาวเผยให้เห็นถึงความหาญกล้าเพื่อเตรียมพร้อมรับแรงโจมตีอีกระลอกจากเถาวัลย์ม่วงอเวจี หากแต่เจ้าสิ่งนั้นกลับโต้ตอบได้อย่างเหนือความคาดหมายของนางอีกครา
มันเคลื่อนตรงพุ่งหาร่างเกอซีก็จริง ทว่าไร้แรงเจตนาในการโจมตี หากแต่กลับกัน เมื่อเถาวัลย์ทั้งหลายพากันพันยุ่งนัวเนียตามแข้งขาเนื้อตัวของหญิงสาว ลักษณะท่าทางเช่นนี้ ดูคล้ายมันกําลังกระดิกหางพยายามประจบประแจงเอาใจ อีกฝ่ายอย่างสุดชีวิต
เถาที่แข็งแรงถูกยกขึ้นแกว่งไกวไปมาไม่หยุด ลักษณะท่าทีเช่นนี้ประหนึ่งมันกําลังออดอ้อนร้องขอบางสิ่ง
เกอซีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หรือเจ้าเถาวัลย์ม่วงนี้เป็นซาดิสต์ ? ยิ่งถูกทุบตีทําร้ายก็ยิ่งสาแก่ใจ อยากโดนซ้ำอีกกระนั้นหรือ ?
ช่วงเวลานี้เองที่หนานกงยี่ผู้ถูกพิทักษ์รักษาไว้เบื้องหลัง ก้าวตรงออกมาพร้อมควักขวดกระเบื้องเคลือบที่อัดแน่นไว้ด้วยทิพย์วารีแห่งความสันโดษชั้นเก้า เขาหยดทิพย์วารีลงบนเถาวัลย์ที่กําลังโบกสะบัดแสดงท่าที่ออดอ้อนอยู่เบื้องหน้าเกอซีสองหยด
ฉับพลันภาพฉากที่ประจักษ์อยู่เบื้องหน้าสายตากลับทําให้หญิงสาวต้องตื่นตะลึงยิ่งขึ้นไปอีก
ใบไม้บนเถาเริ่มเปล่งประกายแสงสีม่วงเรืองรอง พร้อมกันนั้นปลายใบทั้งหมดพากันตั้งตัวแกว่งไกวเข้าจังหวะกันอย่างพร้อมเพรียง
สาบานได้เลยว่าหากมีผู้บรรเลงท่วงทํานองเพลงในตอนนี้ เจ้าเถาวัลย์ม่วงจะต้องกระโดดโลดเต้นร่ายรําไปทั่วด้วย ความชื่นบานอย่างแน่นอน
หลังยกเถาขึ้นโบกโบยพริ้วดั่งเริงระบําท่ามกลางเสียงเพลงอยู่ครูใหญ่ ประกายแสงสีม่วงบนเถาวัลย์อเวจีกลับจางหายอย่างไร้ร่องรอย เถาวัลย์ที่แข็งแกร่งตรงเข้ารัดรอบเกอซีด้วยอาการตื่นกระหายอีกครา ยังมีในครานี้มันเข้ามา ประจบประแจงเอาใจหนานกงยวีไปพร้อมกันด้วยในคราเดียว มันยกปลายใบขึ้นขยี้ถูไถกันไปมากระทั่งเกิดเสียงดังกรอบแกรบ ๆ คล้ายแทบหมดความอดทนในการรอคอย
เกอซียังไม่เข้าใจกระจ่างนักว่านี้มันเรื่องใด หากทว่าเสียงเอ่ยกล่าวอย่างเนิบช้าของหนานกงยวดังขึ้นพร้อมนัยน์ตาที่หรี่ลง “อยากได้อีกรึ ?”
เพียงชายหนุ่มยกขวดกระเบื้องเคลือบเขย่าหลอกล่ออยู่ ตรงหน้าเถาวัลย์ม่วงเถาทั้งหลายที่มากมายพากันโบกสะบัดอย่างเริงร่า หากมันไม่กลัวสายฟ้าที่หนานกงยี่เคย ปล่อยออกก่อนหน้านี้ มันคงได้ฉกฉวยชิงขวดกระเบื้องนั้นแล้ว
หากแต่เกอซียังคงงุนงง “มันเข้าใจสิ่งที่เราพูดด้วยกระนั้นหรือ ?”
ชายหนุ่มตอบคํา “พฤกษาเวทขั้นห้าที่สามารถใช้กระแสจิตสัมผัสได้มิได้มีอยู่มากนัก หากแต่เถาวัลย์ม่วงอเวจีคือหนึ่งในนั้น ทั้งมันยังได้ชื่อว่า พฤกษาปีศาจเวทอีกด้วย และ พฤกษาปีศาจเวทย่อมสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้เยี่ยงสัตว์เวททั้งปวงเป็นธรรมดา”
พร้อมคํากล่าวนั้น ชายหนุ่มหันมามองนางด้วยแววตาเปี่ยมความเสน่หา “ซีเอ๋อ จุดตันเถียนของเจ้าถูกผนึก ทั้งเจ้ายังเป็นผู้ครอบครองพลังทั้งห้าธาตุ เช่นนั้น การสามารถพัฒนาฐานพลังเวทไม้ย่อมนับเป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่งยวดสําหรับเจ้า แม้เถาวัลย์ม่วงอเวจีจะยังไม่อาจนับเป็นพฤกษาเวทขั้นสูงส่ง กระนั้นอาจนับได้ว่าเป็นประโยชน์นัก ยังมีเบื้องหน้า ต่อไปมันย่อมสามารถพัฒนาตนให้ก้าวหน้าสูงส่งได้ เช่นนั้น เจ้าสมควรเก็บรักษามันไว้เป็นสัตว์เวทของเจ้า”
คํากล่าวที่เผยให้เห็นถึงความรัก และหวังดีทําให้ผู้รับฟังรู้สึกซาบซึ้งใจอยู่ไม่น้อย
การสามารถเป็นผู้ครอบครองพลังห้าธาตุ ย่อมทําให้เกอซีคือผู้ทรงพลังด้วยพรสวรรค์อันพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง หากทว่าขณะเดียวกัน หนทางทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์กลับเป็นความยากเย็นอย่างเหลือแสนหากจะเทียบกับผู้ฝึกยุทธโดยทั่วไป
ในฐานะเกอซีเป็นผู้ฝึกยุทธฝีมือต่ำต้อย เพียงสามารถสั่งสมพลังมาได้ถึงจุดนี้สมควรนับได้ว่าไม่เลว
ทว่าหากเบื้องหน้าต่อไปนางหมายจะข้ามฝาขอบเขตพลังปราณเข้าสู่ขั้นที่ 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน ย่อมจําต้องบรรลุการฝึกฝนพลังทั้งห้าธาตุอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เพื่อสร้างสมดุลย์ในกระแสพลังปราณ และเพื่อผลสําเร็จอันยิ่งขึ้นใน การฝาขั้นพลังปราณระดับต่าง ๆ
การฝึกฝนพลังธาตุไฟ และธาตุน้ําหาได้ยากเย็นแต่ประการใดไม่ ทว่าธาตุอื่นที่เหลือเกอซียังไม่อาจหาหนทางฝึกฝนให้ก้าวหน้าได้ เช่นนั้นการได้พรรณไม้หายากมาเป็นสัตว์เวทย่อมนับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง
ทว่าเมื่อผู้คนทั้งหลายเลือกสัตว์เวทคู่กาย โดยส่วนใหญ่พวกเขามักเลือกสัตว์อสูรเป็นสัตว์เวท จะมีสักกี่คนที่สามารถเพียงพอจะโน้มน้าวสัตว์เวทพฤกษาได้ ?
แล้วเจ้าเถาวัลย์ม่วงอเวจีต้นนี้จะอยากเป็นสัตว์เวทของนางละหรือ ?
***จบตอน พฤกษาปีศาจเวท***