หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 295 สายริ้วเมฆา
นับแต่ได้อ่านบทบันทึกบรรพกาลซึ่งท่านผู้เฒ่าซูมีทิ้งไว้ให้เกอซีย่อมพอจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับสายนิ้วมนตรา หากทว่าสิ่งที่กล่าวถึงนับว่าเพียงเล็กน้อยเช่นนั้น คิดจะทลายสายริ้วมนตราย่อมเป็นธรรมดาที่จะเป็นไปไม่ได้
ชายผู้นั้นเห็นเกอซีมัวนึกตรึกตรองใคร่ครวญกําลังเผลอไผล
ฝ่ามือที่อยู่ข้างกายจึงขยับขึ้นหากระเป๋าซึ่งซุกในอก ด้วยตระหนักดีว่าหนุ่มน้อยผู้อยู่เบื้องหน้าย่อมไม่ปล่อยเขาไปแน่ เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้ลงมือก่อนย่อมอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบยิ่งไปกว่า
ชายผู้นั้นควักปล้องเข็มพิษซึ่งบรรจุแต่งเข็มพิษไว้เป็นจํานวนมากเล็งตรงไปยังหัวใจของหนุ่มน้อยเบื้องหน้าอย่างไร้ความปรานี
เข็มพิษแหวกอากาศออกไปอย่างเงียบเชียบ ปลายเข็มที่เปล่งประกายสีเขียววิบวับพุ่งตรงเข้าหาช่องอกของเกอซี
ประกายแห่งความชั่วร้ายวูบวาบในแววตาของบุรุษผู้นั้น มันลุกขึ้นร้องตะโกน “สารเลว ไปตายเสีย!!”
หากยังไม่ทันสิ้นเสียง นัยน์ตาของมันกลับเบิกโพลงด้วยความตื่นผวา
เมื่อสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือแทงเข็มที่เปล่งประกายสีเขียววิบวับเหล่านั้นถูกตรึงอยู่ภายใต้หว่างนิ้วเรียวงามของหนุ่มน้อยเกอซี เช่นนั้น ยังมิทันที่มันจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว เข็มพิษทั้งหมดพลันพุ่งกลับคืนทะลวงเข้านัยน์ตาข้างซ้าย
“อ๊าก!” มันร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ร่างสั่นเทา มันยกฝ่ามือยกขึ้นปิดดวงตาข้างซ้ายอย่างน่าสังเวช
มันอยากจะร้องโอดครวญขอความเมตตา เพราะความเจ็บปวดอย่างเหลือแสน หากทว่ายังไม่ทันได้กล่าวคํา ลูกนัยน์ตาข้างนั้นกลับเริ่มเน่าเปื่อย ขณะเดียวกันนั้นฟองน้ําลายสีขาวประสมโลหิตก็ฟูมฟายอยู่ในปากของมัน ทั้งยังเริ่มเอ่อล้นทะลักออกกระทั่งมันต้องกระอักปลิ้นออก
เพียงครู่ มันผู้นั้นก็หยุดหายใจ
เกอซีเกียจคร้านเกินกว่าจะชายตาแลมองร่างบุรุษผู้นั้น นางเพียงหันหลังเดินจากไป
สาวน้อยผู้นอนขดกายกลมด้วยใบหน้าหวาดกลัวอยู่ด้านข้างพลันได้สติ นางรีบร้องตะโกน “คุณชาย คุณชาย! โปรดชะงักฝีเท้าก่อน !”
เกอซีหยุดการเคลื่อนฝ่าเท้า ทั้งหันกลับมาหาสาวน้อยผู้นั้นด้วยท่าที่หงุดหงิด
หญิงสาวผู้นี้มีใบหน้าจิ้มลิ้มงดงาม เรือนร่างแบบบางอรชรได้สัดส่วน จากลักษณะที่เห็น นางสมควรมีอายุระหว่าง 17-18 ปี นางพยายามคว้าเศษผ้าที่ก่ายกองเกะกะโกยกําเข้ามาปกปิดเรือนกายด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทาอย่างไม่อาจหยุด ระงับด้วยท่าทางน่าเห็นใจยิ่ง
นางยิ่งสั่นสะท้านเมื่อถูกสายตาอันกระด้างเย็นชาของเกอซีจับจ้องอยู่เช่นนี้ กระนั้น หญิงสาวผู้นั้นยังพยายามสะกดกลั้นความหวาดกลัว ตลอดทั้งความอับอายที่ท่วมท้น ภายในใจยามเมื่อนางก้มหน้าลงต่ําเอ่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน “คุณชาย ขอบคุณในน้ําใจของท่านยิ่ง! ขอโปรดแจ้งนามของคุณชายแก่ข้าด้วย เบื้องหน้าต่อไปข้าจะต้องตอบแทนน้ําใจของคุณชายอย่างแน่นอน!”
“ไม่จําเป็น !” เกอซีตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าไม่ได้ตั้งใจช่วยเจ้า เพียงเจ้าพวกนั้นมันไม่น่าภิรมย์สายตาก็แค่นั้น !”
ร่องรอยแห่งความผิดหวังพาดผ่านดวงตาคู่นั้นของผู้ไถ่ถาม ทว่ากลับถูกแทนที่ด้วยความซาบซึ้งใจยิ่งกว่าที่เคย “ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเถิด หากมิได้ท่านช่วยเหลือข้าไว้ ข้าข้ามิรู้จริงๆว่า… นามของข้าคือเฉินชิงชู ศิษย์สํานักเมฆาแดง คุณชายหากเบื้องหน้าต่อไปท่านต้องการให้ข้าช่วยเหลือสิ่งใด ขอท่านอย่าได้เกรงใจ ท่านสามารถติดตามหาข้าได้ที่สํานักเมฆาแดง ข้าจะทุ่มเทอย่างเต็มกําลังความสามารถเพื่อตอบแทนน้ําใจของคุณชายอย่างแน่นอน”
เดิมที่สาวน้อยผู้นี้ย่อมคิดใช้แผ่นยันต์ หรือแท่งหยกอาคม เป็นเครื่องมือช่วยเหลือภายใต้ม่านหมอกขาวแห่งนี้ ทว่าเมื่อก้าวล่วงเข้ามายังเขตแดนนี้ ธํามรงค์มิติกลับไม่อาจใช้การ ความเป็นจริงข้อนี้ทําให้นางต้องพานพบกับความปราชัย ทั้งต้องได้รับความอับอายเช่นนี้
เกอซีผงกศีรษะรับแสดงความเข้าใจก่อนจะหันกลับเพื่อจากไปอีกครา
เพียงได้เห็นแผ่นหลังที่อีกฝ่ายมอบให้ เฉินชิงชูรีบกัดริมฝีปากเค้นคําออกไป “คุณชาย ท่านต้องการเข้าสู่สวนสมุนไพรเช่นนั้นหรือ ? ข้า…ข้ารู้หนทางเข้าสู่ด้านใน
ฝ่าเท้าของเกอชีชะงักกึก สายตาที่จ้องกลับมายังหญิงสาวผู้นั้นหาได้เย็นชาเฉกเช่นเคย
พวงแก้มทั้งสองของเฉินชิงชูแดงระเรื่อ สายตาหลุบต่ํา เผยแผงขนตาที่เรียงตัว ก่อนน้ําเสียงอ่อนเบาจะเอ่ยกล่าว “ข้าข้าได้ยินอาวุโสประจําสํานักกล่าวว่าสวนสมุนไพร ของท่านปรมาจารย์จือจินมีนามว่า ม่านหมอกร้อยสมุนไพร ร่ายริ้วอาคมซึ่งแผ่โอบคลุมภายในล้วนคือสายริ้วเมฆา ภายใต้สายริ้วมนตราถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก นั่นคือ ใจกลางม่านอาคม และส่วนนัยน์ตาริ้วอาคมทั้ง 64 จุด พวกมันล้วนอยู่ภายใต้หมอกขาว ทั้งคือขุมพลังปลดปล่อยม่านหมอกแห่งนี้ หากท่านหมายจะฝ่าวเมฆานี้ออกไปจําต้องค้นหานัยน์ตาริ้วอาคมทั้ง 64 จุด จากนั้นตัดทําลายการถ่ายเทกระแสพลังงานจากนัยน์ตาริ้วอาคมทั้งหมด เมื่อนั้น ณ ใจกลางม่านอาคมจะปรากฏบานประตูเชื่อมต่อขนาดใหญ่ ประตูนั้นคือหนทางนําสู่สวนสมุนไพร”
***จบตอน สายริ้วเมฆา**