ตอนที่ 249 พินาศย่อยยับทั้งสองฝ่าย
เฟิงเหลียนอิ่งกุมเม็ดโอสถแดงในมือด้วยสีหน้าแสดงความขัดแย้งในตนเอง
อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com
โอสถแดงชุดนี้มีชื่อว่า โอสถธาตุแร่แดง นับเป็นสมบัติลับประจําสํานักหลิวหลี เม็ดโอสถปกป้องชีวิตยามเมื่อถึงคราวคับขัน
เมื่อใดที่โอสถธาตุแร่แดงถูกควักออกใช้ ไม่ว่าอาการบาดเจ็บจะหนักหนาสาหัสสักเพียงไร มันล้วนสามารถเยียวยารักษาให้คลายทุเลาได้เพียงชั่วพริบตา จะกล่าวไปไย ถึงการต้องพิษร้ายทั้งหลาย คุณสมบัติของโอสถนี้ย่อมล้วนสามารถขจัดพิษร้ายออกไปได้อย่างบริสุทธิ์หมดจด ทั้งยังสามารถเพิ่มพูนพลังฝีมือฟื้นฟูระดับพลังปราณ ให้คืนกลับนับท่วมทวีเพียงชั่วเวลาอันสั้น
หากทว่าโอสถธาตุแร่แดงชนิดนี้ใช่จะไร้ผลข้างเคียง เมื่อใดที่ผู้ฝึกยุทธกลืนกินมันลงไป เส้นชีพจรปราณของคนผู้นั้นล้วนถูกทําลายเสียหายจนเกินขอบเขต ส่งผลให้ไม่อาจพัฒนาระดับปราณพลังของตนได้ในช่วงระยะอย่างน้อยสามปี เช่นนั้นหากไม่ถึงภาวะวิกฤติอันใหญ่หลวง ศิษย์สําหนักหลิวหลีล้วนไม่ยอมอาศัยเม็ดโอสถธาตุแร่แดงนี้โดยเด็ดขาด
เฟิงเหลียนอิ่งผู้ทะเยอทะยาน และสูงส่ง นางไล่ตามหนานกงยวี่ด้วยแรงปรารถนาอย่างเปี่ยมล้นทั้งยังหมายจะพัฒนาพลังฝีมือของตนให้ถึงระดับเดียวกับหนานกงยวี่นั้น คือพลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ ภายในระยะเวลาสิบปี ทว่าหากนางกลืนกินโอสถเม็ดนี้ล่วงลําคอไป ความปรารถนาทั้งหมดทั้งมวลล้วนกลับกลายเป็นเพียงภาพฝัน เพียงฝึกปรือพลังปราณให้ก้าวหน้าในช่วงระยะเวลา อันสั้นล้วนไม่อาจเป็นได้ จะกล่าวไปไยถึงการก้าวล่วงบรรลุถึงปราณขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ
ทว่าเมื่อหวนนึกถึงเจ้าเด็กเหลือขอ หวนนึกถึงภาพฉา กอันสนิทสนมแนบแน่นระหว่างมันผู้นั้นกับหนานกงยวี่ เพลิงริษยาในใจของเฟิงเหลียนอิ่งพลันพลุ่งพล่านกระทั่งนางสูญสิ้นเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลไป
ความรุ่มร้อนใจท่วมท้นกระทั่งหญิงสาวไม่ทันสังเกตว่าในยามนี้พิษร้ายนั้นถูกสูบกลืนให้แข็งตัว ณ จุดตันเถียน แรงพิษอ่อนกําลังเริ่มเลือนสลายคลายจาง
เนื่องเพราะอย่างไรเสีย ครั้งที่เกอซีกลั่นโอสถพิษนี้ขึ้น นางยังมีพลังยุทธเพียงขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันตร์เท่านั้น การที่โอสถพิษอันถูกกลั่นปรุงขึ้นด้วยผู้มีพลังปราณขั้นสอง จะสามารถทําร้ายผู้มีพลังปราณขั้นสี่ ล้วนเป็นเรื่องยากเย็นประดุจไขว่คว้าหาหนทางสู่สรวงสวรรค์
หากเฟิงเหลียนอิ่งเฉลียวใจสักนิด ไม่ให้ความริษยาหวาดกลัวบดบังนัยน์ตา นางย่อมรับรู้ได้ว่าพิษร้ายนี้ไม่อาจทําอันตรายแก่ตนได้เลย มากสุดนั้นย่อมเพียงสามารถทิ้งรอยด่างดําไว้บนผิวกายเท่านั้น
เฟิงเหลียนอิ่งยกมือกรอกยาเข้าปากด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
เพียงพริบตาคลื่นพลังภายในกายของนางก็ท่วมท้นหนา แน่นแผ่กระจายอายลางร้ายไปตลอดทั่วทั้งอาณาจักรกําบัง
กระบี่ผลึกเยือกแข็งปรากฏขึ้นพร้อมร่างที่กระโจนขึ้น โฉบกลางเวหา
หญิงสาวก้มลงมองเกอซี และโจวเหยียนอันผู้อยู่เบื้องล่าง ด้วยสายตาเหยียดหยันประดุจจ้องมองมดแมลงตัวกระจ้อย
“ซีเย่ว เจ้าทําให้เทพธิดาผู้นี้ต้องสูญเสียตําแหน่งผู้สืบทอด ทําให้ข้าต้องสูญเสียโอสถธาตุแร่แดงอันสูงค่า วันนี้ข้าขอสาบานว่าข้าจะต้องปั่นแขนขาทําลายจุดตันเถียน ให้เจ้าหลงเหลือลมหายใจมีชีวิตอยู่ในสภาพมนุษย์ก็ไม่ใช่ภูตผีที่ผุดขึ้นจากขุมนรกก็ไม่เชิงให้จงได้! วันนี้เจ้าต้องชดใช้การกระทําที่ล่วงเกินต่อข้า เทพธิดาบัวเยือกแข็งผู้นี้ !”
กล่าวจบตลอดทั่วทั้งร่างของนางก็สั่นกระตุก กระบี่ผลึกเยือกแข็งหล่อหลอมรวมเข้ากับร่างของนางเป็นหนึ่งก่อนจะพุ่งทะยานตรงเข้าหาเกอซีประดุจพายุใต้ฝุ่น
โจวเหยียนอันร้องตะโกนเสียงหลงด้วยใบหน้าสิ้นหวัง
ขณะที่เกอซีกลับยืนนิ่งเบ้ปาก พร้อมขุมพลังอันมหาศาลที่ก่อรวมตัวหมุนวนเป็นเกลียวควบแน่นอยู่ในอุ้งมือ
คลื่นพลังในฝ่ามือครานี้หาใช่ขุมพลังเฉพาะในกายของนางไม่ หากทว่ามันคือคลื่นพลังขนาดมหึมาอย่างเหนือจินตนาการอันรวบรวมขึ้นจากมิติธาตุของหญิงสาว
อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com
เมื่อขุมพลังอันหมุนวนเคลื่อนนี้ระเบิดทะลักออก ไม่เพียงเกอซี และเฟิงเหลียนอิ่งล้วนต้องสิ้นใจในทันที กระทั่งทุกสรรพสิ่งภายใต้อาณาจักรกําบังแห่งนี้ล้วนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น
กระนั้น สีหน้าของเกอซียังเผยแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างกระด้างชา ไร้สิ้นความลังเล ไร้สิ้นความเห็นใจ คงมีเพียงแรงมุ่งหมายผลาญทําลายสะท้านฟ้าสะเทือนผืนปฐพี พร้อมพินาศย่อยยับร่วมกันไปทั้งสองฝ่าย
นางเคยกล่าวไว้แล้วว่า แม้ต้องสิ้นใจนางจะทําให้เฟิงเหลียนอิ่งต้องชดใช้อย่างเจ็บปวดแสนสาหัส ! และนั่นคือความตาย !
ทว่าเพียงคลื่นพลังวนในอุ้งมือเริ่มหมุนเคลื่อนหนักหน่วงรวดเร็วยิ่งขึ้น กระบี่ผลึกน้ำแข็งในมืออีกฝ่ายเริ่มพุ่งเข้าประชิด
ประกายแสงสีแดงเจิดจ้าสว่างไสวพร่างพรายกระทั่งต้องหรี่นัยน์ตาพลันพุ่งเข้าทิ่มแทงดวงตาของเกอซี ยังไม่ทันได้ขยับกาย คลื่นแสงนั้นกลับตรงเข้าโอบล้อมร่างของนาง และโจวเหยียนอันไว้ทั้งคู่
***จบตอน พินาศย่อยยับทั้งสองฝ่าย***